ปลุกเที่ยวหลังโควิด"เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี"พลิกโฉมผุดลานดนตรีน้ำพุใหญ่สุด

14 มี.ค. 2565 | 03:17 น.

เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ทุ่มงบ 160 ล้าน ปรับโฉมปลุกท่องเที่ยวปี 2565 รับยุคหลังโควิด-19 ทั้งคาวบอยโชว์ โลกนกนักล่า ปั่นจักรยานชมชีวิตสัตว์ทุ่งซาวันนา เที่ยวผสานโลกจริง-โลกเสมือน สุดไฮไลท์เร่งสร้างลานดนตรีน้ำพุใหญ่สุดของไทย สูงถึง 30 เมตร เปิดปลายปีรับประชุมเอเปค 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ที่สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  เป็นประธานเปิดการแถลง กิจกรรมของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว ในชื่อ“กิจกรรมสร้างกระแสการท่องเที่ยวไนท์ซาฟารี"

 

มีนายศักดิ์ชัย คุณานุวัฒน์ชัยเดช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ รศ.ดร.ณอคุณ สิทธิพงศ์ ประธานคณะกรรมการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) นายสายสิทธิ์ เจตสิกทัต ปฏิบัติหน้าที่แทน ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) นางสาวฐิติรัตน์ ต๊ะวันวงค์ ผู้อํานวยการ สํานักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี และคณะผู้บริหาร เข้าร่วมด้วย ณ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี

ปลุกเที่ยวหลังโควิด"เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี"พลิกโฉมผุดลานดนตรีน้ำพุใหญ่สุด

ปลุกเที่ยวหลังโควิด"เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี"พลิกโฉมผุดลานดนตรีน้ำพุใหญ่สุด

นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ เป็นแลนด์มาร์คด้านการท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของภาคเหนือ ที่เชื่อมโยงกับผู้ประกอบการ ผู้ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนพี่น้องประชาชน หากเป็นภาวะปกติ สามารถะสร้างผลตอบแทนทางเศรษฐกิจเป็นเม็ดเงินที่มากพอสมควรในแต่ละปี 

 

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมหลักอีกสาขาของประเทศ ที่สร้างรายได้หรือผลตอบแทนทางเศรษฐกิจอย่างสำคัญ และกระจายสู่ผู้เกี่ยวข้องอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดเชียงใหม่ที่การท่องเที่ยวสร้างรายได้ให้จังหวัดในภาวะปกติสูงถึง 3,000 กว่าล้านบาท

ปลุกเที่ยวหลังโควิด"เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี"พลิกโฉมผุดลานดนตรีน้ำพุใหญ่สุด

ปลุกเที่ยวหลังโควิด"เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี"พลิกโฉมผุดลานดนตรีน้ำพุใหญ่สุด

แต่ในภาวะวิกฤติของโรคระบาด ที่ส่งผลโดยตรงกับการท่องเที่ยว เพราะว่าการท่องเที่ยวนั้นคือการเคลื่อนย้ายผู้คน การเคลื่อนย้ายผู้คนก็เปรียบเหมือนการเคลื่อนย้ายเชื้อโรค การระบาดที่เกิดต่อเนื่องยาวนาน ทั่วโลกก็เกิดวิกฤตทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งในช่วงโควิด-19 เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้รับผลกระทบมากเช่นกัน รายได้หายไปเกือบ 100 %

 

"แต่เราก็ยังอยู่ได้ เพราะว่าสิ่งที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีทำมานั้นมีต้นทุนที่สะสมไว้ ฉะนั้นยังเลี้ยงตัวเองได้ เป็นสถานที่ที่น่าส่งเสริมอย่างยิ่งของภาครัฐ  ในการเป็นต้นแบบของแหล่งรายได้แหล่งหนึ่งของประเทศ  ที่ผ่านวิกฤติมาได้ด้วยตัวเอง"รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าว

 

อย่างไรก็ตามใน 1-2 ปีนี้ เหตุการณ์ต่าง ๆ คงกลับเป็นปกติ ทั่วโลกเริ่มปรับตัวอยู่ร่วมกับโควิด-19 โดยยังสามารถรักษาสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์ และเดินหน้าเศรษฐกิจต่อไปได้ เช่นเดียวกับประเทศไทยที่เตรียมพร้อมเพื่อกลับสู่การเชื่อมโยงติดต่อสื่อสาร และไปมาหากันได้เหมือนปกติ 

ปลุกเที่ยวหลังโควิด"เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี"พลิกโฉมผุดลานดนตรีน้ำพุใหญ่สุด

เพราะฉะนั้นเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ซึ่งเป็นแหล่งทางเศรษฐกิจแห่งหนึ่งของประเทศ หรือของภูมิภาค จึงจำเป็นที่จะต้องมีการปรับตัว เพื่อเตรียมรองรับสถานการณ์ แม้จะเกิดวิกฤตที่ผ่านมา แต่ก็ต้องถือว่าเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีนั้นสามารถเลี้ยงดูตัวเองได้จนมาถึงปัจจุบันนี้ โดยที่ไม่ต้องพึ่งพางบประมาณของแผ่นดิน ถือว่าเป็นสถานที่ ๆ ท่องเที่ยวที่น่าส่งเสริมเป็นอย่างยิ่งสำหรับประเทศไทย

 

เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เตรียมพัฒนาแผนการท่องเที่ยวให้มีกิจกรรมที่น่าสนใจ เป็นการเตรียมความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยให้มีการพัฒนาปรับปรุงพื้นที่ และเพิ่มกิจกรรมการให้บริการในปี 2565 หลากหลายกิจกรรม ให้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 

 

กิจกรรมต่าง ๆ ที่กำลังจะมีเพิ่มขึ้น ประกอบด้วยกิจกรรม Cowboy Show ซึ่งเป็นกิจกรรมในช่วงเดย์ซาฟารี และเป็นกิจกรรมใหม่ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยว ให้เพิ่มรายได้ให้กับเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี กิจกรรม Rapter Flying แหล่งเรียนรู้และศึกษานกนักล่าสายพันธุ์ต่าง ๆ เป็นการแสดงที่เหยื่อกับนกล่าเหยื่อที่หลากหลายสายพันธุ์ อาทิ นกเค้าแมวขนาดใหญ่ เหยี่ยวและอินทรีย์ โดยเป็นการแสดงที่เน้นถึงพฤติกรรมตามธรรมชาติ และความสามารถที่โดดเด่นของแต่ละสายพันธุ์ ซึ่งเป็นที่น่าสนใจอย่างยิ่ง

 

ยังมีกิจกรรมการปั่นจักรยานชมวิวเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี กิจกรรมปั่นจักรยานในเส้นทางโซนส่วนของการแสดงสัตว์ซาวันนา ซาฟารี  เพื่อชมทิวทัศน์ธรรมชาติร่วมกับเหล่านานาสัตว์ที่อยู่ในทุ่งซาวันนา ซาฟารี อาทิ แรด กวาง ม้าลาย ยีราฟ จิงโจ้แดง ฮิปโปโปเตมัส รวมระยะทาง 2.4 กิโลเมตร  กิจกรรมแหล่งท่องเที่ยวโลกเสมือนจริง หรือ VR  เป็นการรวมกันของโลกแห่งความเป็นจริงและโลกเสมือนเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมของการแสดงใหม่ ได้เห็นโลกดิจิตอลที่เสมือนจริง สร้างความตื่นเต้นให้กับนักท่องเที่ยว และเป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่ง 

 

โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณสระน้ำ Swan Lake เพื่อให้เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของประเทศ โดยได้เตรียมกิจกรรมการแสดงน้ำพุดนตรี  ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือนตุลาคม หรือพฤศจิกายน 2565 ซึ่งกำลังเร่งทำเพื่อให้เสร็จทันการประชุมเอเปค

 

จะเป็นการแสดงดนตรีน้ำพุที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีความสูงถึง 30 เมตร มีการแสดง แสง สี เสียง ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ใช้งบประมาณในการสร้างน้ำพุดนตรี ประมาณ 160 ล้านบาท ที่จะเกิดความประทับใจ และเกิดแรงบันดาลใจ ที่จะกลับไปเล่าขานต่อ ๆ กัน 

 

แลนด์มาร์คใหม่ของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าชมเพิ่มขึ้นนั้น ไม่เพียงสร้างความคึกคักกับเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเท่านั้น เพราะเมื่อมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเชียงใหม่ ก็ต้องเดินทางท่องเที่ยวต่อเนื่องถึงพื้นที่โดยรอบพร้อมกันไปด้วย อาทิ แหล่งท่องเที่ยวตามชนบท การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ การท่องเที่ยวในเชิงชีวภาพต่าง ๆ ซึ่งตรงนี้คิดว่าจะเป็นการเสริมสร้างเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เวอร์ชั่นใหม่ คือต้นแบบของการฟื้นฟูการท่องเที่ยว จะต้องประทับใจอย่างแน่นอน