สั่งล้ม “ข้าวโพด 3:1 ข้าวสาลี” ปลุกม็อบเกษตรกรลงถนน ทันที (คลิป)

12 มี.ค. 2565 | 06:49 น.

ชาวไร่มันสำปะหลัง –ข้าวโพด-ชาวนา จับตา สัปดาห์นี้ หาก รัฐบาล เปิดโต๊ะเจรจา ยกเลิก มาตรการ “ข้าวโพด 3:1 ข้าวสาลี” ปลุกเกษตรกร ร้องทั้งแผ่นดิน ลงถนนทันที ผวาตกต่ำ เจ๊งซ้ำรอยปี 59 แนะพาณิชย์ตรวจสต๊อกโรงงานอาหารสัตว์-สั่งแบนสินค้านำเข้าจากประเทศใช้พาราควอต

รังษี ไผ่สอาด

 

นาย รังษี ไผ่สอาด  นายกสมาคมชาวไร่มันสำปะหลังแห่งประเทศไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ได้ส่งหนังสือ ถึง นาย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการการกระทรวงพาณิชย์  เรื่อง ขอคัดค้านการยกเลิกมาตรการนำเข้า เข้าสาลี ,กากถั่วเหลือง,ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ภายใต้กรอบ WTO ,AFTA ขกเลิกโคตา ,กาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำลังจะดำเนินการและขอเสนอข้อเรียกร้อง 8  ข้อให้กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการ

 

ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำลังจะดำเนินการยกเลิกมาตรการนำเข้า เข้าสาลี ,กากถั่วเหลือง,ข้าวโพคเลี้ยงสัตว์ภายใต้กรอบ WTO,AFTA ยกลิกโคตา ภาษีและค่าธรรมเนียม เพื่อเอื้อประ โยชน์ให้ผู้ประกอบการอาหารสัตว์ในประเทศสามารถนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์จากต่างประเทศได้อย่างเสรี โดยไม่จำกัดจำนวน เวลา และยกเว้นภาษีให้อีกด้วยนั้น เป็นการกระทำที่สร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างใหญ่หลวงเกินจะประเมินค่า

 

หากปล่อยให้มีการดำเนินการ ได้จริงจะสร้างความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรอีกจำนวนหลายสิบล้านครัวเรือนหลายพืชเกษตร ไปจนตลอดกาล และไม่สามารถแก้ไขกลับมาใหม่ได้ จากที่ได้รับฟังเหตุผลเพียงว่าราคาเนื้อสัตว์สูงขึ้นเพราะราคาอาหารสัตว์มีราคาแพงขึ้น จนประชาชนที่บริโภคเดือดร้อนนั้นก็ไม่เป็นความจริงๆเกิดจากการกักตุนสินค้าตามที่ท่านทราบดี  และสาเหตุที่อาหารสัตว์มีราคาสูงขึ้น อ้างว่าเกิดจากวัตถุดิบอาหารสัตว์ขาดแคลนนั้นก็ไม่ใช่ความจริงๆเกิดจากมีการกักตุนวัตถุดิบอาหารสัตว์เพื่อเก็งกำไร

 

 

แต่ทำไมกระทรวงพาณิชย์ถึงไม่มีการตรวจสอบเช่นเดียวกับเนื้อหมู และข้ออ้างว่าวัตถุดิบผลิตอาหารสัตว์ในประเทศขาดแคลนนั้นก็ไม่ใช่เรื่องจริง เพราะวัตถุคิบผลิตอาหารสัตว์ในประเทศมีมากมายจนล้นตลาดในประเทศ เช่นมันลำปะหลัง ปลายข้าวต่างๆ ซึ่งมีราคาถูกกว่าข้าวสาลีนำเข้ามาอีกด้วย ทำไม่นำมาใช้ทดแทน ความเป็นจริงที่กลุ่มพ่อค้าอาหารสัตว์และกลุ่มผู้ผลิตอาหารสัตว์จะยกเลิกมาตรการนำเข้าข้าวสาลี,กากถั่วเหลือง,ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์

 

ภายใต้กรอบ WTO ,AFTA ยกเลิกโคตา ,กาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ เพื่อที่จะได้นำเข้าธัญพืชอาหารสัตว์ดังกล่าวได้อย่างเสรี สะดวกสบาย เพื่อมาสต๊อกไ ว้เป็นเครื่องมือสำหรับกดดันราคาวัตถุดิบสำหรับผลิตอาหารสัตว์ในประเทศให้มีราคาถูกมากที่สุดตามที่ผู้พ่อและผู้ผลิตอาหารสัตว์จะต้องการไปตลอดชาติ กระทรวงพาณิชย์ก็รู้แต่ยังยอมจะดำเนินการตามที่กลุ่มพ่อค้าอาหารสัตว์และกลุ่มผู้ผลิตอาหารสัตว์เสนอเพราะอะไร.

 

ดังนั้นสมาคมชาวไร่มันสำปะหลังแห่งประเทศไทย จึงขอยื่นคัดค้านการดำเนินมาตรการตามที่กล่าวอย่างที่สุด และขอเสนอข้อเรียกร้องให้กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการดังนี้

 

ข้อที่ 1  ห้ามยกเลิกมาตรการนำเข้า เข้าสาลี ,กากถั่วเหลือง,ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ภายใต้กรอบ WTO,AFTA ยกเลิกโคตา กาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ ให้ดำเนินการตามเดิมทุกประการ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ และอาชีพเกษตรของเกษตรกรทั้งประเทศที่จะต้องเดือดร้อน

 

ข้อที่ 2 ให้มีมาตรการควบคุมกรนำเข้าข้าวบาร์เลย์ เช่นเดียวกับข้าวสาลีด้วย เพื่อป้องกันการแอบซ่อนเปลี่ยนพิกัดนำเข้าหรือสวมสิทธิการนำเข้า ระหว่างข้าวสาลีกับข้าวบาร์เลย์

 

ข้อที่ 3  หากมีการยกเลิกมาตรการ 3:1 จะต้องมีมาตรการภาษีอัตราเดิมของ WTO จำนวน 27% มารองรับไว้ เพื่อปกป้องสิทธิและประโยชน์ของเกษตรกรกายในประเทศที่ปลูกพืชวัตถุดิบอาหารสัตว์ ไม่ให้ถูกเอาเปรียบในทุกด้าน

 

ข้อที่4  ให้ตรวจาเช็ดสต่ำอก ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ กากถั่วเหลือง กากข้าวโพด วัตถุดิบอาหารสัตว์ทุกโกดัง ทุกโรงงาน ว่ามีปริมาณคงเหลือแท้จริงจำนวนเท่าไหร่  มีการกักตุนไว้เก็งกำไรหรือไม่หากพบการกระทำความผิดให้คำเนินการอย่างเด็ดขาดตามกฎหมายทันทีและให้ตรวจสอบสต็อกปริมาณอาหารสัตว์สำเร็จรูปดงเหลือในทุกโรงงานผลิตอาหารสัตว์

 

 

โดยเฉพาะ โรงงานผลิตอาหารสัตว์รายใหญ่ แล้วนำผลตรวจสอบมารายงานให้ทุกภาคส่วนได้ทราบในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายทั้ง(นบมส..นบบพ.)เพื่อประกอบการพิจารณา ให้เกิดความโปร่งใส

 

ข้อที่ 5 ให้โรงงานผลิตอาหารสัตว์ทุกโรงงานแจ้งปริมาณการรับซื้อข้าวโพคเลี้ยงสัตว์ เพื่อมาขอซื้อข้าวสาลี 1 ส่วนนั้น ว่าสิทธิที่จะซื้อตามโควตาคงเหลือปริมาณเท่าไหร่ และแจ้งที่ประชุมคณะกรรมการน โยบายทั้ง(นบมส..นบขพ. เพื่อประกอบการพิจารณา ให้เกิดความ โปร่งใส

 

ข้อที่ 6 ให้ตรวจสอบปริมาณการตกลงซื้อขายวัตถุดิบอาหารสัตว์ล่วงหน้าระหว่างผู้รวบรวมข้าวโพดเลี้ยงสัตว์กับปริมาณสต็อกของโรงงานอาหารสัตว์ทุกรายโดยเฉพาะโรงงานขนาดใหญ่ว่ามีปริมาณตรงกันหรือไม่และมีการกักตุนไว้เก็งกำไรหรือไม่

 

ข้อที่ 7  ให้เพิ่มมาตรการนำเข้าข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ จะต้องแสดง CO ประกอบด้วย และจะต้องมีใบตรวจรับรองการปนเปื้อนสารกัมมันตภาพรังสี ประกอบการนำเข้าด้วย เพื่อความปลอดภัยของสู้บริโภค

 

ข้อที่ 8 ห้ามนำเข้าข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ถั่วเหลือง กากถั่วเหลือ วัตถุดิบอาหารสัตว์ทุกชนิดจากประเทศที่ยังไม่มีการยกเลิกการใช้สารพาราควอต (paraquat) ด้วย เพื่อปกป้องสิทธิและประโยชน์ของเกษตรกรภายในประเทศไม่ให้ถูกเอาเปรียบ

 

ข้อเรียกร้องทั้ง ข้อที่เสนอให้กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการ เพราะเป็นหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงของกระทรวงพาณิชย์ขอได้โปรดคำเนินการตามข้อเรียกร้องของสมาคมชาวไร่มันสำปะหลังแห่งประเทศไทยด้วย เพื่อรักษาไว้ซึ่งประโยชน์ของประเทศชาติประชาชนทั้งประเทศและอาชีพเกษตรของคนไทย