svasdssvasds
logo-pwa

เพิ่ม thansettakij

ลงในหน้าจอหลักของคุณ

ติดตั้ง
ปิด
thansettakij

อคส.ผุดตั้งคลังสินค้าในเมียนมารอบ62ปี

06 มีนาคม 2565

อคส.ผุดตั้งคลังสินค้าในเมียนมารอบ62ปี ใช้เป็นแหล่งกระจายสินค้าไทย  พร้อมเล็งตั้งในจีน อินเดีย ชาติอาหรับ และเพิ่มสาขาในไทยด้วย พร้อมลุยพัฒนาคลังสินค้า เพิ่มรายได้

นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา อคส.ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกับบริษัท Maha Shwe Ngwe จำกัด จากประเทศเมียนมา เพื่อร่วมกันหาช่องทางร่วมลงทุนสร้างคลังกระจายสินค้าอุปโภคบริโภคในเมียนมา

ายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.)
เพิ่มศักยภาพการแข่งขันของภาคเอกชนไทย รวมถึงผลักดันยอดส่งออกสินค้าไทย แก้ปัญหาการค้าชายแดนในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ระบาด รวมถึงรองรับการค้าขายผ่านช่องทางออนไลน์ในตลาดเมียนมา โดยถือเป็นการขยายสาขาคลังสินค้าในต่างประเทศของ อคส.เป็นแห่งแรก นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี 2498 เป็นต้นมา หรือในรอบ 62 ปี 
 

 

โดยหลังจากที่ลงนาม MOU กับเมียนมาแล้ว อคส .เตรียมตั้งคณะทำงานร่วมภาครัฐเอกชน เพื่อเดินหน้าโครงการอีก โดยขณะนี้ อยู่ระหว่างการเจรจากับประเทศอื่น ๆ เช่น จีน อินเดีย และประเทศในกลุ่มอาหรับ เพื่อช่วยสนับสนุนให้มีการส่งสินค้าไทยไปประเทศดังกล่าวได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นในรูปแบบ Just-in-Time สร้างความได้เปรียบ และแตกต่างจากประเทศคู่แข่งให้เอกชนไทย

อคส.ผุดตั้งคลังสินค้าในเมียนมารอบ62ปี

ทั้งนี้ อคส. ยังมีแผนการร่วมมือส่งเสริมการปลูกถั่วเหลืองกับเมียนมา ซึ่งไทยต้องนำเข้าปีละกว่า 2 ล้านตัน และกากถั่วเหลืองสำหรับผลิตอาหารสัตว์อีกกว่าปีละ 2 ล้านตัน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความมั่นคงทางด้านวัตถุดิบอาหารสัตว์ให้กับเกษตรกรไทย ที่สำคัญ ไม่ถือว่าเป็นการทำการค้าแข่งกับภาคเอกชนของไทย เพราะไทยมีผลผลิตถั่วเหลืองน้อยมากไม่ถึงปีละ 0.1 ล้านตัน เนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยในการปลูกเมื่อเทียบกับเมียนมา 

อคส.ผุดตั้งคลังสินค้าในเมียนมารอบ62ปี

นอกจากนี้อคส.ยังมีแผนที่จะนำพื้นที่คลังสินค้าราษฎร์บูรณะ ที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มาสร้างรายได้ ล่าสุดอยู่ในระหว่างการขอขยายใบอนุญาตทำห้องเย็นเก็บสินค้า หากได้รับการอนุมัติและสร้างห้องเย็นใหม่ ๆ เต็มพื้นที่ จะสามารถรองรับสินค้าได้กว่า 50,000 ตัน และจะพลิกฟื้นฐานะของ อคส. ให้กลับมามีกำไร รวมทั้งยังสร้างเม็ดเงินลงทุนต่อเนื่องให้ อคส. ได้มากกว่า 8,000 ล้านบาท จากการแปลงสินทรัพย์เป็นทุนของคลังราษฎร์บูรณะเมื่อสร้างเต็มพื้นที่   
รวมถึงจะเร่งเพิ่มสาขาที่คลังข้าวลพบุรี ซึ่งเป็นที่ดินของธนารักษ์ 22 ไร่ สามารถสร้างโรงอบ โรงสี โรงแป้งข้าวเจ้าได้ ซึ่งจะบรรลุเป้าหมายชาวนาปลูกข้าวขายแป้ง และช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร 

อคส.ผุดตั้งคลังสินค้าในเมียนมารอบ62ปี         
ขณะเดียวกัน มีแผนที่จะเพิ่มสาขาของ อคส. ในภูมิภาคอื่น ๆ เช่น คลังแพะ ที่ จ.กระบี่ , คลังวัว จ.สุรินทร์, คลังอาหารทะเล จ.อุดรธานี เป็นต้น รวมถึงพัฒนาทรัพย์สินเดิมของ อคส. เช่น คลังธนบุรี คลังปากช่อง และคลังบัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ให้สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยเตรียมนำรายละเอียดของโครงการต่างๆ เสนอให้คณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) อคส.) พิจารณาเห็นชอบเร็ว ๆ นี้