ไทยยูเนี่ยนโชว์ผลงานปี 64 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ กำไรสุทธิกว่า 8,000 ล้าน

23 ก.พ. 2565 | 07:28 น.

ไทยยูเนี่ยนโชว์ผลประกอบการปี 64 แกร่งสุดเป็นประวัติการณ์ ยอดขายกว่า 1.4 แสนล้าน กำไรสุทธิพุ่งกว่า 8,000 ล้าน หลังธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งและแช่เย็นกลับมาฟื้นตัว อาหารสัตว์เลี้ยงโตต่อเนื่อง ชี้ผลสำเร็จจากการวางกลยุทธ์ธุรกิจระยะยาวฝ่าวิกฤติโควิด

 

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)  หรือ TU รายงานผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2564 พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 38,501 ล้านบาท  ขยายตัวเพิ่มขึ้น 15.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากธุรกิจอาหารทะเลแช่งแข็งและแช่เย็นที่ฟื้นตัวในสหรัฐอเมริกา หลังมาตรการป้องกันโควิด-19 มีการผ่อนคลายและร้านอาหารและโรงแรมเริ่มทยอยเปิดให้บริการ

 

ขณะที่ยอดขายจากหน่วยธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและธุรกิจเพิ่มมูลค่ายังเติบโตต่อเนื่อง ทำให้กำไรสุทธิของไทยยูเนี่ยนในไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมาทะยานขึ้นถึง 32.5% อยู่ที่ 1,930 ล้านบาท แม้จะประสบสภาวะการเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกก็ตาม

 

ไทยยูเนี่ยนโชว์ผลงานปี 64 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ กำไรสุทธิกว่า 8,000 ล้าน

 

ทั้งนี้ยอดขายธุรกิจอาหารทะเลบรรจุกระป๋องในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีเติบโต 4.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการปรับขึ้นราคาขายสินค้า ส่วนยอดขายธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งและแช่เย็นเติบโตขึ้น 21%  จากการฟื้นตัวของธุรกิจร้านอาหารและโรงแรม  ขณะที่ยอดขายธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและสินค้าเพิ่มมูลค่าเติบโตขึ้น 27.2% จากความต้องการสินค้าที่สูงขึ้นมากและฐานลูกค้าที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

 

 

ไทยยูเนี่ยนโชว์ผลงานปี 64 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ กำไรสุทธิกว่า 8,000 ล้าน

 

 

สำหรับผลประกอบการตลอดทั้งปี 2564 ไทยยูเนี่ยนสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเป็นประวัติการณ์ มีกำไรสุทธิเติบโต 28.3% อยู่ที่ระดับ 8,013 ล้านบาท  ยอดขายเพิ่มขึ้น 6.5% อยู่ที่ 141,048 ล้านบาท  ส่วนกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 9.9% อยู่ที่ 25,727 ล้านบาท

 

ไทยยูเนี่ยนประกาศปันผลงวดการดำเนินงานในครึ่งปีหลังจำนวน 0.50 บาทต่อหุ้น รวมปันผลหุ้นตลอดปีอยู่ที่ 0.95 บาทต่อหุ้น เป็นระดับที่สูงสุดของบริษัทสะท้อนผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง

 

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา ไทยยูเนี่ยนทำผลงานได้ดีเยี่ยมเป็นประวัติการณ์ ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นทั่วโลก ทั้งในแง่ของรายได้และกำไรสุทธิ จากยอดขายที่เติบโตและความสามารถในการทำกำไร ด้วยกลยุทธ์ธุรกิจระยะยาวของบริษัททำให้ธุรกิจหลักของบริษัทแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

 

ขณะเดียวกันได้ต่อยอดธุรกิจใหม่ ๆ ที่เพิ่มมูลค่า  และยังเน้นในเรื่องของวินัยทางการเงินที่สร้างความสามารถในการทำกำไรและความยั่งยืน ทำให้ผลประกอบการของบริษัทในปีที่ผ่านมาดีเยี่ยม  

 

ธีรพงศ์  จันศิริ

 

ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาด นอกจากไทยยูเนี่ยนจะบริหารธุรกิจให้ผ่านวิกฤติไปได้แล้ว ทีมผู้บริหารยังมองถึงการพัฒนาธุรกิจให้มีแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม โดยมองไปยังอนาคต มีการลงทุนกลยุทธ์ทั้งในยุโรปและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปีที่ผ่านมา ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการเร่งการเติบโตในอนาคต  โดยได้ตั้งบริษัท ไทยยูเนี่ยน ไลฟ์ไซเอนซ์ จำกัด ขึ้นเพื่อเข้ามาดูแลการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ ส่งตรงถึงผู้บริโภค ซึ่งนับเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตเร็ว

 

ในปี 2564 บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือยังได้จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งจะรองรับการเติบโตและขยายธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำในเอเชีย  ไทยยูเนี่ยนยังให้ความสำคัญกับธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีการเปลี่ยนชื่อ บริษัท สงขลาแคนนิ่ง จำกัด (มหาชน) หนึ่งในบริษัทในเครือ ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป เป็น บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เพื่อรองรับการพัฒนาและขยายกิจการในธุรกิจสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ไทยยูเนี่ยนมีแผนจะนำบริษัท ไอ-เทล จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกในปีนี้

 

ไทยยูเนี่ยนโชว์ผลงานปี 64 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ กำไรสุทธิกว่า 8,000 ล้าน

 

ความยั่งยืนยังคงเป็นหัวใจในการดำเนินธุรกิจของไทยยูเนี่ยน  บริษัทได้รับการจัดอันดับในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์เป็นปีที่ 8 ติดต่อกัน และได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 2 ในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร ในปี 2564  ไทยยูเนี่ยนได้แต่งตั้งนายอดัม เบรนนัน เป็นผู้อำนวยการกลุ่มด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อเดินหน้างานด้านความยั่งยืนในฐานะผู้นำในเวทีโลกต่อไป

 

สำหรับปี 2565 ไทยยูเนี่ยนยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจโดยมุ่งเน้นในเรื่องอัตราการทำกำไรที่สูงขึ้นและธุรกิจใหม่ที่เพิ่มมูลค่า เช่น ส่วนประกอบอาหาร อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและโปรตีนทางเลือก เพื่อให้สอดรับกับตลาดที่เติบโตเร็วในธุรกิจเหล่านี้  และยังมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสินค้าด้วยนวัตกรรมที่ช่วยให้สามารถดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ของผู้คน ซึ่งในปีนี้แม้จะยังเป็นปีที่ท้าทายสำหรับทุกคน ทั้งอัตราเงินเฟ้อ การแพร่ระบาด ห่วงโซ่อุปทาน การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ แต่ไทยยูเนี่ยนจะยังเดินหน้าอย่างเต็มที่เพื่อสร้างผลงานให้ได้ดีเหมือนปีที่ผ่านมา