คนละครึ่งเฟส4 คนละ 1,200 บาท ครม.มีมติเห็นชอบแล้ว

24 ม.ค. 2565 | 05:56 น.

"คนละครึ่งเฟส 4" ให้คนละ 1,200 บาท ใช้ไม่เกิน 150 บาทต่อวันเหมือนเดิม ถึง 30 เม.ย. 65 มติผลการประชุม ครม.ล่าสุด เห็นชอบโครงการตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มติผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ล่าสุด อนุมัติโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 หรือ คนละครึ่งระยะที่ 4 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

 

 

 

โดยรัฐจะสนับสนุนเงินค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไปและบริการนวดสปา ทำผม ทำเล็บ และบริการขนส่งสาธารณะจากภาครัฐในอัตรา 50% ทั้งนี้ ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน

 

 

หรือไม่เกิน 1,200 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการถึง 30 เม.ย.

 

 

 

โดยมีกรอบวงเงิน 34,800 ล้านบาท ให้ใช้จ่ายจากเงินกู้ภายใต้แผนงาน/โครการกลุ่มที่ 3 ตามบัญชีท้ายพระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ.2564

 

 

 

สำหรับรายละเอียด ทีมโฆษกรัฐบาลจะแถลงเวลา 13.30 น.

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับระยะเวลาโครงการคนละครึ่งเฟส 4 จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2565

โดยมีกลุ่มเป้าหมาย ประชาชนจำนวนไม่เกิน 29 ล้านคน ประกอบด้วย

  1. ประชาชนผู้ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งเฟส 3 หรือ ระยะที่ 3 จำนวน 27,981,140
  2. ประชาชนทั่วไปจำนวน 1,018,860 คน

 

โดยมีคุณสมบัติดังนี้

  1. ประชาชนสัญชาติไทยที่มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปในวันลงทะเบียน
  2. มีบัตรประจำตัวประชาชน
  3. ไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตามฐานข้อมูลของกระทรวงการคลัง ณ วันที่ 25 มกราคม 2565 หรือไม่ได้รับสิทธิโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษระยะที่ 2
  4. ทั้งนี้ในกรณีที่ประชาชนผู้ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งระยะที่ 3 ไม่มีการใช้สิทธิครั้งแรกภายในระยะเวลาที่กระทรวงการคลังโดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลังกำหนด กระทรวงการคลังโดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สามารถนำสิทธิดังกล่าวมาเปิดให้ประชาชนทั่วไปลงทะเบียนใช้สิทธิดังกล่าได้

ประเภทสินค้าและบริการที่มีสิทธิในโครงการ ได้แก่

  • อาหาร เครื่องดื่ม
  • สินค้าทั่วไป
  • บริการนวด สปา ทำเล็บ ทำผม
  • บริการขนส่งสาธารณะ
  • โดยไม่รวมถึงสินค้าสลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ บัตรกำนัล บัตรเงินสด และบริการรูปแบบอื่น ๆ ที่เป็นการชำระค่าสินค้าหรือบริการล่วงหน้า

ทั้งนี้การกำหนดเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงรายการสินค้าและบริการของโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้กำหนด