“อธิรัฐ” สั่งตรวจสอบเรือบรรทุกน้ำมัน 5 แสนลิตร ล่มกลางอ่าวไทย

23 ม.ค. 2565 | 10:15 น.

อธิรัฐ’” สั่งเจ้าท่าเร่งตรวจสอบเรือบรรทุกน้ำมัน “ป.อันดามัน 2” ล่มกลางอ่าวไทย ได้ประกาศเป็นพื้นที่อันตรายแล้ว ให้ บริษัทแหลมทองค้าน้ำมันประมงไทย จำกัด เจ้าของเรือ กู้เรือโดยด่วน แจ้งประกาศเตือน ให้ชาวเรือระมัดระวังในการเดินเรือ

อธิรัฐ รัตนเศรษฐ

นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม  เผยว่าเมื่อวันที่ 22 ม.ค.2565 เวลา 19.15 น. ได้รับรายงานเหตุการณ์เรือบรรทุกน้ำมันดีเซล(น้ำมันเขียว) ชื่อเรือ "ป.อันดามัน 2" ซึ่งจอดทอดสมอได้อับปางลงบริเวณอ่าวไทย ห่างจากปากน้ำชุมพรประมาณ 24 ไมล์ทะเลและจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ในเบื้องต้น ทราบว่า

 

1. เรือ ป.อันดามัน 2 มีนายวายุ หมอยาดี เป็นนายเรือ มีลูกเรือจำนวน 5 นาย ซึ่งทั้งหมดปลอดภัย โดยได้รับการช่วยเหลือจากเรือวีนัส 21

 

2. เรือจมที่ความลึกประมาณ 50 เมตร

 

3. มีน้ำมันในเรือ ประมาณ 5 แสนลิตร เป็นดีเซลน้ำมันเขียว

 

4. สาเหตุการจมเกิดจากมีน้ำเข้าเรือแต่ไม่สามารถสูบออกได้ทัน เนื่องจากมีคลื่นลมแรง

 

 5. เป็นเรือจอดเพื่อการจ่ายน้ำมันเขียวให้เรือประมง

นายอธิรัฐ กล่าวว่า จากการประเมินการไหลของกระแสน้ำในช่วง ​23-25​ ม.ค.2565​ พบว่าไหลขึ้นไปทางด้านทิศเหนือเข้าเลียบชายฝั่ง​ จึงคาดการณ์คราบน้ำมันมีโอกาสจะถูกคลื่นและกระแสน้ำพัดไหลเข้าชายฝั่ง​บริเวณ​ อ.ปะทิว อ.บางสะพานน้อย​  อ.บางสะพาน​ อ.ทับสะแก ของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ แต่อย่างไรก็ตามน้ำมันที่รั่วไหลสามารถสลายตัวเองได้ดีในธรรมชาติ แต่ยังต้องมีการติดตามและเฝ้าระวัง

 

ภายหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ประสานเจ้าของเรือ (บริษัทแหลมทองค้าน้ำมันประมงไทย จำกัด) เพื่อเตรียมน้ำยาสลายน้ำมัน วางทุ่นล้อมน้ำมัน บริเวณเรือที่จม พร้อมประกาศเป็นพื้นที่อันตรายแล้ว ทั้งนี้ตนได้สั่งการด่วนที่สุดให้กรมเจ้าท่าเร่งดำเนินการตรวจสอบคราบน้ำมันที่พบเป็นน้ำมันชนิดอะไร มีปริมาณเท่าไหร่ ทิศทางการเคลื่อนที่ และมีแผนจะดำเนินการป้องกันและกำจัดอย่างไรหากจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเล รวมทั้งให้ดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้

 

จุดเรืออัปปาง

 

   1. ออกคำสั่งงดใช้เรือดังกล่าว และให้เจ้าของเรือดำเนินการกู้เรือโดยด่วน

 

   2. ออกประกาศแจ้งเตือนให้ชาวเรือระมัดระวังในการเดินเรือ

 

   3. เตรียมพร้อมเรือตรวจการณ์และเรือขจัดคราบน้ำมัน

 

   4. ให้บูรณาการร่วมกับกองทัพเรือในการปฏิบัติตามแผนการขจัดคราบน้ำมัน

 

   5. รายงานสถานการณ์และความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง

 

   6. ให้เร่งตรวจสอบความปลอดภัยของเรือลำอื่นๆ ที่จอดทอดสมออยู่กลางทะเล เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำ