NEXTBEST แพลตฟอร์มสัญชาติไทยดันรายได้ SMEs ทะลุล้าน

21 ม.ค. 2565 | 20:11 น.

NEXTBEST แพลตฟอร์มสัญชาติไทยดันรายได้ SMEs ทะลุล้าน ชูจุดเด่นเป็นเครื่องมือทางการตลาด เสริมศักยภาพ และป้องกันไม่ให้ SMEs หลงทาง

บริษัท รีเทเลเจอร์ จำกัด บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจค้าปลีก และให้บริการในรูปแบบของแพลตฟอร์มเทคโนโลยีและทีมการตลาดและการขาย ได้ดำเนินการนำเสนอ  NEXTBEST แพลตฟอร์มสัญชาติไทย เขียนโดยผู้ประกอบการเอสเอ็มอี (SMEs) ช่วย SMEs สร้างยอดขาย ลดต้นทุน เพิ่มกำไรทะลุร้าน (ล้าน)

 

 

 

นางสาววรรณภาณี ทัศนาญชลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและหัวหน้าฝ่ายงานวิเคราะห์ข้อมูลค้าปลีก รีเทเลเจอร์  เจ้าของเพจ อาจารย์อ๋อมนักขายสายดาต้า และอาจารย์พิเศษด้าน Consumer Behavior - คณะสถิติประยุกต์ NIDA เปิดเผยว่า

 

 

 

NEXTBEST เป็นแพลตฟอร์มหรือเครื่องมือทางการตลาด ที่จะช่วยเสริมศักยภาพ ทั้งยังป้องกันไม่ให้ SMEs หลงทาง ไม่ต้องลงทุนแบบหว่าน แต่จะทำให้แบรนด์

 

 

 

และผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จักมากขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยใช้ประโยชน์สูงสุดจากของดาต้าที่มีอยู่ไปสื่อสารตรงกับความต้องการของลูกค้า เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ควบคู่ไปกับการรักษาฐานลูกค้าเดิม 

แล้วเปลี่ยนฐานลุกค้าให้กลายเป็นลูกค้าที่จงรักภักดี พร้อมบอกต่อ จนเกิดการซื้อซ้ำ และสามารถสร้างยอดขายออนไลน์ให้เติบโตอย่างต่อเนื่องได้อย่างแท้จริง รวมถึงสามารถยืนได้ด้วยตนเองอย่างยั่งยืน

 

 

 


นอกจากนี้ ยังช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถสร้างโอกาสใหม่ๆ ในการมองหาสินค้าใหม่ เบริการใหม่ ลูกค้าใหม่ เพิ่มมูลค่าให้แก่ธุรกิจไปพร้อมกับการทำการตลาดในทุกวัน โดยไม่ต้องรอการพึ่งพาความช่วยเหลือและการโปรโมทจากทางรัฐหรือแพลตฟอร์มต่างชาติเพียงอย่างเดียวเหมือนในอดีตที่ผ่านมา

 

 

 


ทั้งนี้ ปัจจุบันเทคโนโลยีและการสื่อสารบนโลกออนไลน์มีบทบาทกับวิถีชีวิตของเพิ่มมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด ประกอบกับสถานการณ์ของการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 (Covid-19) ที่รุนแรงครอบคลุมทั่วโลก ที่ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจในภาพรวมทั้งหมด ผู้คนต้องปรับเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิต ครั้งใหญ่ ลดการพบปะสมาคม ลดการสัมผัสใกล้ชิด การเดินทาง การส่งสินค้า 

และหลายธุรกิจที่ต้องหยุดชะงัก หรือต้องปรับกระบวนทัพใหม่ เพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ โดยเฉพาะ SMEs ซึ่งเคยสร้างเม็ดเงินและการเติบโตทางเศรษฐกิจให้กับประเทศอย่างมหาศาลก็ได้รับผลกระทบอย่างมากเช่นกัน

 

 

 

"จากประสบการณ์ที่เคยทำการตลาดให้กับองค์กรและแบรนด์ค้าปลีกต่างๆ กว่า 20 ปี อาทิ Amazon.com, Panda Corporation, ไอ.ซี.ซี., ELLE Licensing, ธนาคารทหารไทย (TMB,) สเวนเซนส์ (Swensen's) ไมเนอร์ฟู้ด, ดีเคเอสเอช, ลีวายส์ (Levi's,) มองว่าถึงเวลาที่ SMEs จะต้องปรับตัวครั้งใหญ่ เพื่อให้ทันกับเทคโนโลยี และใช้การสื่อสารแบบออนไลน์ โซเชียมีเดีย ให้เกิดประโยชน์สูงสุด"

 

 

วรรณภาณี ทัศนาญชลี

 

 

นางสาววรรณภาณี กล่าวต่อไปว่า Small Data ข้อมูลขนาดเล็กจะช่วยเพิ่มลูกค้าที่จงรักภักดี รวมถึงลดต้นทุน และสร้างกำไรให้ SMEs ได้อย่างแท้จริง โดยปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ SMEs อยู่รอดและสามารถฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจในครั้งนี้ไปได้ คือ ดาต้า หรือข้อมูลลูกค้า หรือ Small Data ซึ่งผ่านการทำวิจัยมาแล้ว 

 

 

 

และ SMEs จะต้องเรียนรู้ให้ไว เพิ่มความยืดหยุ่น ปรับวิธีการทำการตลาดและการขายใหม่ ใช้รูปแบบการทำตลาดที่ถูกต้อง เริ่มจากดาต้าที่มีอยู่ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลความต้องการของลูกค้าบนโลกโซเชียลหรือจากฐานข้อมูลเล็กๆที่มีอยู่ผสานกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยให้เกิดประโยชน์สูงสุด สร้างดาต้าหรือฐานข้อมูลลูกค้าในเชิงลึก เพื่อศึกษาพฤติกรรมการบริโภคของลูกค้ามากกว่า การพึ่งพาแพลตฟอร์มโฆษณาเพียงอย่างเดียว

 

 

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อครั้งที่ตนทำธุรกิจน้ำปลาหวานแบรนด์ หลานหลง และมียอดขายหลักล้านต่อเดือน ก็ได้สร้างดาต้าแพลตฟอร์ม เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงลึกแบบเหตุและผลของผู้บริโภคไทย ไว้เป็นฐานข้อมูลของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย แล้วนำมาวิเคราะห์พฤติกรรม

 

 

 

เพื่อวางแผนกลยุทธ์ด้านการขายและการตลาด กลยุทธ์ในการขยายฐานลูกค้าใหม่และรักษาฐานลูกค้าเดิม นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง ด้วยสามารถสร้างยอดขายได้เดือนละหลักล้านบาท

 

 

 

ขณะนี้มีฐานลูกค้าที่เป็นลูกค้าดั้งเดิมกว่า 50,000 คนและลูกค้าใหม่ที่เติบโตแบบก้าวกระโดดครอบคลุมลูกค้าชั้นดีทั่วประเทศ

 

 

 

หลังจากนั้น จึงได้พัฒนาเป็น NEXTBEST ดาต้าแพลตฟอร์ม หรือเครื่องมือของนักการตลาดยุคใหม่ สัญชาติไทยเจ้าแรกและเจ้าเดียวที่ใช้ AI และ CUSTOMER GENOME ในการสร้างความชาญฉลาดให้กับธุรกิจ เพื่อแบ่งปันข้อมูลและความรู้ให้กับ SMEs รายอื่นๆ โดย AI จะช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าทั้งภายในและภายนอกระบบ ตั้งแต่การหาเป้าหมายลูกค้าใหม่ไปจนถึงการทำ CRM 

 

 

 

ซึ่งจะทำให้ SMEs สามารถนำข้อมูลเชิงลึก (Insight) เฉพาะตัวธุรกิจ มาวิเคราะห์เพื่อวางแผนการขายและการตลาด คาดคะเนได้ว่าเมื่อลูกค้าซื้อสินค้าชิ้นนั้นไปแล้ว ชิ้นต่อมาที่ซื้อซ้ำ ว่าควรจะต้องซื้ออะไรราคาเท่าไหร่ ทั้งยังสามารถแก้ไขปัญหาได้ฉับไว และตรงจุดมากยิ่งขึ้น ขยายฐานลูกค้าใหม่ควบคู่ไปกับการรักษาฐานลูกค้าเดิม 

 

 

 

และสร้างการสื่อสารกับลูกค้าให้ตรงกับความต้องการให้มากที่สุด โดยเป็นการเปลี่ยนฐานลูกค้าให้กลายเป็นลูกค้าที่จงรักภักดีพร้อมบอกต่อ จนเกิดการซื้อซ้ำ และลูกค้าใหม่ให้กลายเป็นฐานลูกค้าติดกระแสเร็วขึ้น จึงจะสามารถช่วยให้ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจไปได้ ทำงานอย่างสนุกในสภาพการแข่งขันที่ขับเคี่ยวและเติบโตได้อย่างยั่งยืน