“อนุทิน”จ่อชงผ่อนคลายมาตรการเข้าศบค. 20 ม.ค.นี้ มั่นใจคุมโอมิครอนได้

17 ม.ค. 2565 | 07:59 น.

“อนุทิน”มั่นใจคุม“โอมิครอน”ได้ จ่อชงผ่อนคลายมาตรการเข้าศบค. 20 ม.ค.นี้ หวังเปิดทางประชาชนเดินหน้าเศรษฐกิจ-ดำเนินชีวิตให้ปกติมากที่สุด แต่ “ผับ-บาร์” รอไปก่อน เล็งปรับรูปแบบเทสต์ แอนด์ โก

วันนี้ (17 ม.ค.65) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงการประชุมศบค.ชุดใหญ่ ในวันที่ 20 ม.ค.นี้ โดยกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เตรียมมาตรการผ่อนคลายอะไรหรือไม่ ว่า วันนี้ได้เชิญอธิบดีกรมควบคุมโรคมาพบและชี้แจงให้ทราบว่า ต้องให้คำนึงถึงมิติด้านเศรษฐกิจ การทำมาหากิน และการดำเนินชีวิตของประชาชนให้ปกติมากที่สุด แม้สายพันธุ์โอมิครอนจะแพร่ระบาดได้เร็วและสูง แต่ประเทศไทยสามารถควบคุมได้ เนื่องจากเรามีมาตราการควบคุมได้ดี โดยเฉพาะการฉีดวัคซีน

 

ดังนั้น อธิบดีจะเสนอผ่อนคลายแบบทั่วๆ ไปไม่ได้ แต่ท่านต้องเสนอให้ทุกมิติเดินไปข้างหน้าได้ และประชาชนดำเนินชีวิตได้มากที่สุด แต่ความปลอดภัยต้องมีอยู่ 

ส่วนมาตรการผ่อนคลายที่คิดว่าจะเสนอ เช่น การปรับพื้นที่สีจังหวัด รวมทั้งแนวทางที่เคยทำมาอะไรที่ทำแล้วดูดีที่สุด ก็ให้ดำเนินการตามมิติเหล่านั้น และเราดูทุกอย่างความพร้อมก็ต้องมี ถ้าเกิดการติดเชื้อก็ต้องรองรับได้ ไม่ให้เกิดการตื่นตระหนก และการให้ความเข้าใจกับประชาชน ทั้งการใช้ชีวิต และการให้ความร่วมมือ ซึ่งที่ผ่านมาก็ต้องขอขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือทุกอย่าง ก็ขอให้เป็นต่อไป เพราะยิ่งให้ความร่วมมือมาก เราก็ยิ่งกล้าที่จะผ่อนคลาย

 

เมื่อถามว่าสถานบันเทิงยังไม่มีการผ่อนคลายใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตรงไหนที่เป็นความเสี่ยงสูงสุด เราจะค่อยๆ ผ่อนคลาย แต่เราก็เห็นใจ เวลามีการร้องขอเข้ามาให้เปลี่ยนรูปแบบจากผับ บาร์ เป็นภัตราคารเราก็ยอม ทั้งที่เป็นคนประเภทกัน และเมื่อมีการเปลี่ยนรูปแบบแล้วก็ขอให้เป็นร้านอาหารจริงๆ ไม่ใช่ยังเป็นผับ บาร์อยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่สามารถผ่อนคลายได้ 

“ที่ผ่านมารัฐบาลก็อยากผ่อนคลาย และเห็นใจประชาชน ผมพูดกับอธิบดีกรมควบคุมโรคว่า ให้เข้าใจหัวอกคนทำมาหากิน ผู้ประกอบการ ลูกจ้างขับเคลื่อนได้ด้วยการดำเนินธูรกิจ แตกต่างจากพวกเรา เพราะพวกเราเป็นข้าราชการยังไงก็มีเงินเดือน ซึ่งอธิบดีกรมควบคุมโรคเข้าใจดี”

 

ส่วนจะมีการปรับมาตรการเทสต์ แอนด์ โก ให้กลับมาเหมือนเดิมตามที่มีผู้เรียกร้องหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขคงนำเสนอเรื่องนี้กลับมาปรับปรุงรูปแบบใหม่ ซึ่งทุกอย่างอยู่ที่ศบค.จะเห็นชอบหรือไม่ กระทรวงสาธารณสุขเป็นได้แค่ผู้เสนอ