ค้าเพื่อนบ้านปี2564‘สุดโดดเด่น’ ‘ส่งออก’ ลุ้นแตะ1 ล้านล้านบาท

01 ม.ค. 2565 | 01:23 น.

การส่งออกไทยปี 2564 ยังคงเติบโตแข็งขัน โดยตัวเลข 11 เดือน โตแล้ว 16.4 % ทำให้คาดว่าทั้งปีน่าจะเติบโตได้ไม่ตํ่ากว่า 15-16% เกินเป้าที่ตั้งเมื่อต้นปีนี้ได้แน่แล้ว ยิ่งเมื่อดูลึกลงไปถึงการค้าไทยกับ 7 ประเทศเพื่อนบ้านโดยรอบในปีนี้ กลับมาขยายตัวอย่างโดดเด่นสุดๆ

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงอย่างภาคภูมิใจว่า การค้าของไทยกับ 7 ประเทศเพื่อนบ้านในปี 2564 เติบโตเกินเป้าหมาย โดยยอดรวม 10 เดือน (ม.ค.-ต.ค.) ของปี 2564 มีมูลค่ารวม 1,424,345 ล้านบาท เพิ่ม 31.72% เป็นการส่งออกมูลค่า 860,436 ล้านบาท เพิ่ม 37.41% และนำเข้ามูลค่า 563,909 ล้านบาท เพิ่ม 23.89% ไทยได้ดุลการค้าชายแดนกับผ่านแดน 296,527 ล้านบาท

 

“ถือว่าเราทำตัวเลขได้ทะลุเป้าที่กำหนดไว้ทั้งปีแล้ว โดยกำหนดเป้าการเติบโตของการส่งออกไม่น้อยกว่า 6% คิดเป็นมูลค่ารวม 789,198 ล้านบาท แต่ขณะนี้เกินแล้ว ผ่านมา 10 เดือนขณะนี้เกินโดยทำมูลค่าส่งออกได้แล้ว 860,436 ล้านบาท มากกว่าเป้าที่ตั้งไว้ทั้งปีถึง 48,251 ล้านบาท”

ค้าเพื่อนบ้านปี2564‘สุดโดดเด่น’ ‘ส่งออก’ ลุ้นแตะ1 ล้านล้านบาท

รัฐมนตรีพาณิชย์ชี้ว่า ปัจจัยที่ส่งผลให้การค้าชายแดน (กับ 4 ประเทศพรมแดนติดไทย คือ มาเลเซีย เมียนมา สปป.ลาว กัมพูชา) และการค้าผ่านแดน (กับ 3 ประเทศถัดไป คือ สิงคโปร์ เวียดนาม และจีนตอนใต้) เป็นบวก มาจากการค้าโลกขยายตัวต่อเนื่อง ค่าเงินบาทอ่อนค่า และการเร่งรัดเปิดด่านพรมแดนแล้วรวม 48 ด่าน เปิดล่าสุด 2 ด่านคือที่ตากใบกับบูเก๊ะตาที่นราธิวาส และจะเร่งเปิดเพิ่มที่ด่านหนองเอี่ยน จ.สระแก้วต่อไป ซึ่งกัมพูชาตอบรับแล้ว

 

อีกปัจจัยคือฐานตํ่าของตัวเลขการค้าไทยกับเพื่อนบ้านปี 2563 จากผลกระทบการระบาดเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่ตอนต้นปี ซึ่งทั้งโลกตื่นรับมือโดยใช้มาตรการเข้มข้นด้วยการปิดประเทศ ล็อกดาวน์พื้นที่สกัดการระบาดกระทันหัน

ซึ่งช่วงแรกกระทบถึงการค้าข้ามพรมแดนไปด้วย จนต่อมาภายหลังจึงเริ่มจัดระเบียบการขนส่งสินค้าผ่านเข้า-ออก ทำให้การค้าข้ามพรมแดนผ่อนคลายขึ้น แต่ก็ทำให้มูลค่าการค้ากับเพื่อนบ้านปี 2563 เหลือที่ 1,3319,178 ล้านบาท ลดจากปี 2562 ที่มีมูลค่า 1,342,136 ล้านบาท ลดลง 22,958 ล้านบาท หรือคิดเป็น -1.71 %

 

การขยายตัวอย่างโดดเด่นทำให้เพียง 10 เดือนแรกของปี 2564 ไทยค้ากับเพื่อนบ้านมีมูลค่า 1,424,345 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากตัวเลขทั้งปีของปีที่แล้วที่เผชิญสถานการณ์โควิด-19 และยังสูงกว่ามูลค่าการค้าทั้งปีของปี 2562 ก่อนเกิดโควิด-19 อีกด้วย

 

ขณะที่การค้าชายแดนไทย-เมียนมาด้านจังหวัดระนอง แม้ตัวเลขเดือนพ.ย. 2564 มีมูลค่าการค้ารวมทั้งสิ้น 2,265.65 ล้านบาท ลดลง 836.28 ล้านบาท จากเดือนก่อนหน้า ที่มีมูลค่าการค้า (ตุลาคม 2564 มีมูลค่าการค้ารวม 3,101.93 ล้านบาท) หรือลดลง 26.96%

 

แบ่งเป็นการส่งออกมูลค่า 1,523.06 ล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อน 938.00 ล้านบาท (-38.11%) ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่าทั้งสิ้น 742.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 101.72 ล้านบาท หรือขยายตัว 15.87%

 

แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีมูลค่าเพียง 1,304.13 ล้านบาท มีมูลค่าการค้าเพิ่มขึ้น 961.52 ล้านบาท หรือเติบโต 73.73%

 

จากที่ระยะก่อนหน้าตลอดปี 2564 นี้ การค้าไทย-เมียนมาด้านจังหวัดระนองได้กลับมาเติบโตต่อเนื่อง แม้บางช่วงมีสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 สูง แต่ยังประคองการค้าชายแดนไปได้ และเพื่อนบ้านมีคำสั่งซื้อสินค้าเพื่อใช้รับมือการแพร่ระบาดด้วย หรือบางช่วงเกิดการสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมากับกองกำลังฝ่ายต่อต้าน ทำให้การขนส่งทางถนนเริ่มไม่ปลอดภัย ก็หันมาใช้ด่านระนองเพิ่มขึ้น
    ส่วนตัวเลขการค้าเดือนพ.ย.ที่ลดลงนั้น สาเหตุหนึ่งจากภาวะพายุฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ที่ผ่านมา จึงทำให้ยอดการค้าชะลอตัวลง แต่เป็นเหตุการณ์ระยะสั้น เมื่อพ้นหน้ามรสุมการค้าชายแดนระนองจะกลับมาคึกคักเช่นเดิม

 

หากการส่งออกชายแดนและผ่านแดนของไทยตลอดปี 2564 ทำได้ที่ 980,000 ล้านบาท จะเป็นสถิติการส่งออกใหม่ และหากขยายตัวได้ 33% จะขึ้นไปแตะที่มูลค่า 1,020,000 ล้านบาท เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ถ้าทุกตลาดสามารถเร่งตัวดีต่อไป

 

ซึ่งเป็นเป้าหมายที่มีโอกาส เพราะจากยอด 10 เดือนที่ส่งออกได้แล้วกว่า 8.6 แสนล้านบาท ขาดเพียง 1.6 แสนล้านบาท ขณะที่ส่งออกได้เฉลี่ยเดือนละ 8.6 หมื่นล้านบาท มีลุ้นว่าการส่งออกไปตลาดเพื่อนบ้านของไทยปี 2564 ถ้ารักษาแรงส่งได้ต่อเนื่อง มีสิทธิขึ้นไปแตะระดับ 1 ล้านล้านบาท 

 

หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,744 วันที่  30 ธันวาม 2564 - 1 มกราคม พ.ศ.2565