บางจากส่งกระทิงตู้เติมน้ำมันดิจิทัลเครื่องแรกในไทยยกระดับชีวิตชุมชน

03 ธ.ค. 2564 | 02:38 น.

บางจากส่งกระทิงตู้เติมน้ำมันดิจิทัลเครื่องแรกในไทยยกระดับชีวิตชุมชน ประสานความร่วมมือ พม. ไมโครออยล์ และดีแทคร่วมพัฒนา

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ,บริษัท ไมโครออยล์แอนด์รีเทล จำกัด และะบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค เพื่อจัดทำโครงการสร้างสวัสดิการให้กับอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) และโครงการพัฒนาตู้เติมน้ำมันอัจฉริยะระบบดิจิทัล
ทั้งนี้ ความร่วมมือดังกล่าวก็เพื่อร่วมดำเนินการในภารกิจที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการตู้เติมน้ำมันอัจฉริยะระบบดิจิทัลภายใต้ชื่อ ตู้กระทิง โดยเชื่อว่าจะได้มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานให้กับประเทศ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญเพื่อการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจระดับท้องถิ่น อีกทั้งยังเป็นช่องทางช่วยเพิ่มรายได้ให้กับ อพม. ในรูปแบบของสวัสดิการ โดยอาศัยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีดิจิทัลและการประสานความร่วมมืออันดีระหว่างภาครัฐและเอกชน

สำหรับตู้กระทิงนั้น เกิดจากการนำเสนอแนวคิดของพนักงานภายในองค์กรที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมองค์ความรู้ใหม่ ๆ เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรม สามารถนำไปต่อยอดสู่การสร้างธุรกิจได้
นอกจากนี้ บางจากฯ จะทำงานร่วมกับไมโครออยล์และดีแทคในการดำเนินการติดตั้งและบริหารตู้เติมน้ำมันและจัดทำระบบสื่อสารเพื่อใช้ในการจัดตั้งเครือข่ายตู้กระทิงในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ทำให้ตู้กระทิงเป็นแพลตฟอร์มให้บริการน้ำมันคุณภาพที่เข้าถึงระดับชุมชนเล็ก ๆ ช่วยส่งเสริมโอกาสในการเข้าถึงพลังงานที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน และต่อยอดขยายไปสู่บริการอื่น ๆ นอกเหนือจากบริการด้านน้ำมันในอนาคต เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในท้องถิ่นได้อย่างรอบด้าน

กระทิง ตู้เติมน้ำมันอัจฉริยะระบบดิจิทัลตู้แรกในประเทศไทย
นางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวง พม. กล่าวว่า พม. โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) มีนโยบายส่งเสริมสวัสดิการให้กับ อพม. ด้วยการเข้าร่วมโครงการนวัตกรรมตู้น้ำมันชุมชนเพื่อความยั่งยืนกับ บางจาก และไมโครออยล์แอนด์ซึ่งได้ดำเนินการร่วมกับสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 5 จังหวัดในพื้นที่เป้าหมาย ได้แก่ จังหวัดพิษณุโลก นครปฐม ราชบุรี สมุทรสาคร และสุพรรณบุรี 

เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ อพม. ที่มีความสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการฯ จัดหาพื้นที่ที่เหมาะสมในการติดตั้งตู้เติมน้ำมันระบบดิจิทัล 1,000 แห่งทั่วประเทศ ภายในปี 2565 เป็นการนำนวัตกรรมเข้าสู่ชุมชนที่ห่างไกลสถานีบริการน้ำมัน ทำให้ชุมชนสามารถเข้าถึงน้ำมันที่มีคุณภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 
รวมถึงเทคโนโลยีอื่น ๆ เช่น การเติมเงินมือถือ และการจ่ายบิลค่าน้ำ - ไฟฟ้า เป็นต้น โดย อพม. ที่เข้าร่วมโครงการนี้จะได้รับสวัสดิการเป็นส่วนแบ่งรายได้และสิทธิพิเศษจากการเติมน้ำมันด้วยตู้เติมน้ำมันระบบดิจิทัลตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าว ทั้งนี้ จะทำให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนในชุมชน สามารถบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) เป้าหมายที่ 9 : สร้างโครงสร้างพื้นฐานที่มีความทนทาน ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ครอบคลุมและยั่งยืน และส่งเสริมนวัตกรรม