14ธ.ค.นี้ เตรียมตัว รฟท.เปิดรับฟังความเห็นประชาชน สยบดราม่าปิดหัวลำโพง

02 ธ.ค. 2564 | 11:07 น.

"ศักดิ์สยาม" เผย รฟท.เล็งเปิดรับฟังความเห็นภาคประชาชน ปรับขบวนรถไฟเข้าสถานีหัวลำโพง เริ่ม 14 ธ.ค.นี้ ยันไม่ทุบสถานีฯ สั่งบ.เอสอาร์ที แอสเสท ปั้นพื้นที่เชิงพาณิชย์ ปั๊มรายได้

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า สำหรับการพัฒนาสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ในวันที่ 14 ธันวาคมนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เตรียมเปิดเวทีสาธารณะรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชน ผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อรับฟังความเห็นในเรื่องการพัฒนาสถานีหัวลำโพง พร้อมทั้งทางหน่วยงานของกระทรวงคมนาคมจะชี้แจงถึงวัตถุประสงค์การพัฒนาฯ ในครั้งนี้ด้วย เนื่องจากในปัจจุบันสถานีกลางบางซื่อเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งใช้งบลงทุนกว่า 3 หมื่นล้านบาท เพื่อพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางของการเดินรถไฟของทุกระบบ อาทิ รถไฟทางไกล รถไฟฟ้า และรถไฟความเร็วสูง เป็นต้น

 

 

 

 

“ยืนยันว่าไม่มีการทุบสถานีหัวลำโพง แต่อาจมีการพัฒนาภายในตัวสถานีเหมือนที่หลายประเทศทำ และในอนาคตจะมีการเชื่อมต่อรถไฟชานเมืองสายสีแดงต่อไป ส่วนเรื่องขบวนรถไฟที่เข้าสถานีหัวลำโพง ในปัจจุบันยังมีเข้ามาอยู่ แต่จำนวนน้อยลง จาก 100 ขบวน ลดเหลือ 22 ขบวน ตนได้สั่งการให้ รฟท.ไปดูเรื่องจัดตารางการวิ่งมาว่า จะทำอย่างไรไม่ให้กระทบกับการสัญจรของประชาชนในชั่วโมงเร่งด่วน จึงเป็นเหตุผลที่ต้องมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นดังกล่าว ซึ่งผมได้มอบหมายให้ รฟท. บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (เอสอาร์ทีเอ) หรือบริษัทลูกของ รฟท. กรมการขนส่งทางราง (ขร.) และสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เข้าไปให้ข้อมูลในครั้งนี้ด้วย และหลังวันที่ 14 ธันวาคมนี้ ทางกระทรวง จะจัดการประชุมเพื่อพิจารณาผลในเรื่องนี้อีกครั้งต่อไป”

ส่วนการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์บริเวณสถานีรถไฟหัวลำโพง เบื้องต้นบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด อยู่ระหว่างพิจารณาศึกษาออกแบบโครงการฯ และสำรวจพื้นที่ของสถานีหัวลำโพง ขณะที่การพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์บนที่ดินของ รฟท. ในพื้นที่อื่นๆนั้น ได้มอบหมายให้บริษัทเอสอาร์ทีฯ สำรวจและนำไปพัฒนาเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์เพื่อสร้างรายได้ให้กับ รฟท. ต่อไป

"การพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ดังกล่าวต้องดูให้ละเอียดรอบคอบ ทั้งเรื่องการป้องกันการบุกรุกพื้นที่ อีกทั้งแผนดังกล่าวอาจจะไม่ได้เกิดในรัฐบาลยุคนี้ กว่าจะศึกษาแนวคิดเสร็จก็จะเป็นหน้าที่ของรัฐบาลต่อไปว่าจะตัดสินใจพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวอย่างไร"