ผู้ว่าอ่างทองตรวจโรงงาน บ.ไทยเรยอนฯ ไม่พบการปล่อยสารเคมีเกินมาตรฐาน

18 พ.ย. 2564 | 10:48 น.

ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทองลงพื้นที่ตรวจโรงงานบริษัท ไทยเรยอน จำกัด (มหาชน) ไม่พบการปล่อยสารเคมีเกินมาตรฐาน หลังบริษัททำหนังสือแจ้งมายังสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทำการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงขนาดถังกัมมันต์ เพื่อป้องกันผลกระทบต่อชุมชนในบางพื้นที่

นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการลงพื้นที่พร้อมคณะตรวจสอบและติดตามผลการปรับปรุงโรงงานของบริษัท ไทยเรยอน จำกัด (มหาชน) จังหวัดอ่างทอง หลังจากที่ได้รับการ้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาจากสารเคมีในโรงงาน
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบโรงงานของบริษัท ไทยเรยอนฯ พบว่ามีการปล่อยสารเคมีไม่เกินค่ามาตรฐาน  โดยการลงพื้นที่ดังกล่าวเป็นไปตามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาเดือดร้อนรำคาญจากสารเคมีของบริษัท ไทยเรยอนฯ ซึ่งมีอำนาจในการตรวจสอบและติดตามผลการแก้ไขปรับปรุงโรงงานและสรุปผลรายงานทุก 3 เดือน 

แต่เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด -19 (Covid-19) ทำให้ไม่สามารถจัดประชุมและตรวจติดตามเป็นคณะได้ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดอ่างทองจึงได้ชี้แจงคณะกรรมการฯว่า บริษัท ไทยเรยอนฯ ได้มีหนังสือแจ้งมายังสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดอ่างทองว่าได้มีการเปลี่ยนแปลงขนาดถังกัมมันต์ของระบบ CS2 Recovery หรือระบบกรองก๊าซคาร์บอนไดซัลไฟด์ จากขนาด 19 ตัน เป็น 26 ตัน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อป้องกันผลกระทบต่อชุมชนในบางพื้นที่

ผู้ว่าอ่างทองลงพื้นที่ตรวจผลการปรับปรุงโรงงาน บ.ไทยเรยอนฯ
​นายวีระศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า บริษัท ไทยเรยอนฯ ได้ดำเนินการปรับปรุงโรงงานตามคำแนะนำของอุตสาหกรรมจังหวัดอ่างทองมาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าระดับความเข้มข้นของสารเคมีที่ปากปล่องจะอยู่ภายใต้เกณฑ์ที่กำหนด แต่ทางโรงงานก็มิได้นิ่งนอนใจที่จะควบคุมการปล่อยสารเคมีและดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมรอบโรงงานอย่างเข้มงวด ทำให้คณะของผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง และผู้ตรวจราชการมีความพึงพอใจในผลการดำเนินงานปรับปรุงแก้ไขของโรงงานในครั้งนี้

​นายมูนิต กุมาร์ ราธิ ประธานบริษัท ไทยเรยอน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทางบริษัทได้ทำการปรับปรุงโรงงานไทยเรยอนอย่างต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลาหลายปี ใช้งบประมาณในการปรับปรุงระบบกรองก๊าซไปไม่น้อยกว่า 535 ล้านบาท และปรับปรุงในส่วนอื่น ๆ อีก 81 ล้านบาท ทำให้ปริมาณกลิ่นสารเคมีลดลงอย่างต่อเนื่อง ไม่มีอันตรายต่อสุขภาพ 
และอยู่ภายใต้เกณฑ์ที่ทางราชการกำหนด อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการประกอบธุรกิจที่คำนึงถึงความยั่งยืนและสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนชาวอ่างทอง