เดินหน้างาน ASEAN SUSTAINABLE ENERGY WEEK 2022 ขับเคลื่อนพลังงานสะอาดปี 65

26 ต.ค. 2564 | 07:32 น.

อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ร่วมมือหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเดินหน้าจัดงาน ASEAN SUSTAINABLE ENERGY WEEK 2022 (ASEW) อย่างเต็มรูปแบบปีหน้า ร่วมขับเคลื่อนพลังงานสะอาด พร้อมโชว์ความสำเร็จงาน ASEAN Sustainable Energy Week (ASEW) & Pumps and Valves Asia (PVA) 2021 - Virtual Edition

งาน ASEAN Sustainable Energy Week (ASEW) & Pumps and Valves Asia (PVA) 2021 - Virtual Edition ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ (ประเทศไทย) กับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน นำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืนด้านพลังงานครั้งสำคัญของภูมิภาคอาเซียน บนแพลตฟอร์มออนไลน์ www.asew-expo.com/VE โดยมีผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมพลังงาน สิ่งแวดล้อม การจัดการพลังงาน ยานยนต์ไฟฟ้า เทคโนโลยีปั้มวาล์ว และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมงานกว่า 5,000 คน จาก 48 ประเทศ อีกทั้งยังเตรียมจัดงาน ASEAN SUSTAINABLE ENERGY WEEK 2022 (ASEW) อย่างเต็มรูปแบบในปีหน้า

นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ซึ่งเป็นประธานเปิดงาน ASEW & PVA Virtual Edition เปิดเผยว่า การจัดงาน ASEW & PVA Virtual Edition นับเป็นเวทีที่แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการสร้างสังคมที่สะอาด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยตั้งเป้าหมายเพื่อก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ซึ่งหลายประเทศทั่วโลกได้กำหนดไว้ภายในปี 2050 
สำหรับประเทศไทยนั้น ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการลดใช้คาร์บอนไดออกไซด์ รัฐบาลได้ประกาศแผนพลังงานแห่งชาติ (NEP 2022) โดยมี 3 เป้าหมายหลัก ได้แก่ 1.เพิ่มสัดส่วนของพลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียนในการผลิตไฟฟ้าแห่งใหม่ไม่น้อยกว่า 50% โดยพิจารณาจากต้นทุน ของระบบกักเก็บพลังงานระยะยาวในปี 2583 ,2.ส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี (EV) ภายใต้นโยบาย 30@30 และ3.แนะนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานอย่างน้อย 30% ภายในปี 2040 รวมทั้งยังได้ผลักดันโมเดลเศรษฐกิจสีเขียวหรือ BCG (Bio-Circular-Green)

กุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน

“เป้าหมายการเป็น Carbon Neutrality ของประเทศไทย นั้นขึ้นอยู่กับหลากหลายปัจจัยทั้งการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ความพร้อมทางการเงิน รวมทั้งความร่วมมือสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อร่วมกันผลักดันสร้างความยั่งยืนและก้าวสู่การเป็นประเทศเป็นกลางทางคาร์บอน ตามกำหนดใน ปี 2065-2070” 
นายกฤษฎา อุตตโมทย์ นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT) ซึ่งได้เข้าร่วมจัดงาน iEVTech 2021 การประชุมนานาชาติด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า ภายในงาน ASEW & PVA Virtual Edition กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 3 วันของการจัดงานที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า โดย EVAT ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ไฟฟ้า 41 คนจาก 10 ประเทศ มานำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในหัวข้อต่างๆ ภายใต้แนวคิด “Moving Towards Carbon Neutral Society: Global Cooperation in Electric Mobility” โดยมีกิจกรรมสำคัญเช่น Ambassador Forum 
และมีจัดการสัมนาในหัวข้อต่างๆ อาทิ ทิศทางและอนาคตยานยนต์ไฟฟ้า (Future of ElectricMobility),บทบาทของยานยนต์ไฟฟ้า สู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Role of EV toward Carbon Neutrality), สาระน่ารู้เกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้า (EV Knowledge Sharing), เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไต้หวัน (Taiwan Mobility Session) เป็นต้น
“การจัดงานในครั้งนี้ ได้เกิดการแลกเปลี่ยนแนวทางในการผลักดันการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าจากทั่วโลกและในประเทศไทย ซึ่งข้อมูลจากปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมียอดจดทะเบียนเติบโตจากปีก่อนเป็นเท่าตัว ปัจจุบันประเทศไทยมียานยนต์ไฟฟ้า BEV สะสมทุกประเภทอยู่ที่ 8,267 คัน โดยสมาคมฯ จะเดินหน้าสนับสนุนให้มียานยนต์ไฟฟ้าในประเทศตามเป้าหมายของคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ โดยหวังว่าภายใต้การสนับสนุนของทางภาครัฐและเอกชน จะเกิดการปรับเปลี่ยนสู่การใช้ยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น และเกิดการพัฒนาการใช้งานแบตเตอรี่และโครงข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้า เพิ่มมากขึ้นในอนาคต”
ศ.ดร.นวดล เหล่าศิริพจน์ ผู้อำนวยการ บัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กล่าวว่า ปัจจุบันแต่ละประเทศและองค์กรต่างๆ หันมาให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม โดยในประเทศกลุ่มอาเซียน อาทิ เมียนมา ฟิลิปปินส์ ไทย และเวียดนาม ต้องเผชิญกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอันเนื่องมาจากภาวะโลกร้อน จึงทำให้เกิดความตื่นตัวในการประหยัดพลังงาน และการใช้พลังงานทางเลือกเพิ่มมากขึ้น 
ประเทศไทยเองตั้งเป้าหมายมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2065-2070 และเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว การนำเทคโนโลยีนนวัตกรรม (innovation technologies) และ สมาร์ทโซลูชั่น (smart solution) มาใช้ในการควบคุมและจัดการระบบพลังงานมีความสำคัญมาก โดยเฉพาะในการนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้ในอัตราที่สูงขึ้น ขณะที่ต้องสามารถควบคุมเสถียรภาพรวมของพลังงานในระบบนั้นมีความสำคัญยิ่งกว่า ดังนั้น การจัดเก็บพลังงาน (Energy Storage) และแบตเตอรี่ (battery) จะมีบทบาทสำคัญมาก 
นอกจากนี้ ประเทศไทย และในอีกหลายประเทศในกลุ่มอาเซียน Bioenergy เป็นปัจจัยหลักในการสร้างพลังงานหมุนเวียน และสนับสนุนการ พัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy Model) ความพยายามที่จะเปลี่ยนผ่านจากเศรฐกิจปัจจุบัน ในสู่การพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพที่ยั่งยืนนั้น จะต้องเสริมสร้างความเข้มแข็งในทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง อาทิ รัฐบาล ภาคอุตสาหกรรม และสถาบันการศึกษา เทคโนโลยีใหม่ การพัฒนากำลังคน และการสร้างขีดความสามารถ นั้นมีความสำคัญยิ่งสำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้

สรรชาย นุ่มบุญนำ รองกรรมการผู้จัดการ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ (ประเทศไทย)
นายสรรชาย นุ่มบุญนำ รองกรรมการผู้จัดการ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า การจัดงาน ASEAN Sustainable Energy Week (ASEW) & Pumps and Valves Asia (PVA) 2021 - Virtual Edition ในครั้งนี้ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีจากความร่วมมือขององค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมพลังงาน ร่วมนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ครอบคลุมทั้งการพัฒนาพลังงานทางเลือก ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ การบริหารจัดการพลังงานด้วย AI และเทคโนโลยี 5G เพื่อการจัดการสิ่งแวดล้อมและมลพิษ รวมถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า ตลอด 3 วันของการจัดงานที่ผ่านมา มียอดผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมงานกว่า 5,000 คน จาก 48 ประเทศ ที่สำคัญงานในครั้งนี้ได้เกิดการแลกเปลี่ยน พบปะ ซื้อขายสินค้าผลิตภัณฑ์ โซลูชั่น ใน Virtual Marketplace เกิดการต่อยอดธุรกิจให้แก่ผู้เข้าร่วมงาน และมีการเจรจาธุรกิจกว่า 100 คู่ ภายในงาน
“การจัดงานในครั้งนี้ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ได้รับการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ กระทรวงพลังงาน, กระทรวงอุตสาหกรรม, กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน, กรมโรงงาน, การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ,เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย), โกลบอล เพาเวอร์ซินเนอร์ยี่ (GPSC), พนัส แอสเซมบลีย์, โซล่าเอดจ์ เทคโนโลยี เป็นต้น ทั้งนี้ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ จะเดินหน้าจับมือกับพันธมิตรทุกภาคส่วนสู่การจัดงาน ASEAN SUSTAINABLE ENERGY WEEK 2022 อย่างเต็มรูปแบบในปีหน้า ระหว่างวันที่ 14-16 กันยายน 2565 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC)และยังคงนำเสนอความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมต่อไป ”