เพิ่ม thansettakij
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
นายสนธิญา สวัสดี ที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ตนในฐานะผู้มีส่วนได้เสีย เนื่องจากมีทะเบียนบ้านอยู่ในพื้นที่ตำบลท่าฉลอม อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร จึงได้ทำหนังสือลงวันที่ 7 ต.ค.2564 ถึงอธิบดีกรมทางหลวง เพื่อให้ห้ามเปิดใช้สะพานลอยสำหรับจักรยานยนต์ ที่ใช้ในการข้ามถนนบริเวณช่องทางด่วนถนนพระราม 2 (ถนนธนบุรี-ปากท่อ) จุดพิกัดเชิงสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน ทั้ง 2 ฟาก รวมจำนวน 2 จุด ในเขตพื้นที่อำเภอเมืองฯ จังหวัดสมุทรสาคร จนกว่าจะแก้ไขสำเร็จ
สาเหตุเนื่องจาก การก่อสร้างสะพานลอยกลับรถจักรยานยนต์ที่กำลังก่อสร้างดังกล่าว จัดให้จุดขึ้นลงของรถจักรยานยนต์อยู่ระหว่างช่องทางด่วนและทางคู่ขนานของถนนพระราม 2 การจะเข้าไปใช้บริการกลับรถ จะต้องตัดกระแสจราจรของทางคู่ขนาน อันจะทำให้เกิดอันตรายในการใช้รถใช้ถนน และทำให้การจราจรติดขัดตามมา
นายสนธิญา กล่าวต่อว่า ด้วยเหตุผลข้างต้น ตนจึงได้ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมทางหลวง เพื่อได้โปรดพิจารณาเรื่อง ดังนี้คือ
1.ห้ามการเปิดใช้สะพานลอยสำหรับกลับรถจักรยานยนต์ ช่วงบริเวณก่อนขึ้น-ลงสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน ทั้ง 2 จุด เอาไว้ก่อนจนกว่าจะมีการแก้ไข
2.หากมีการเปิดใช้สะพานลอยฯ ให้หน่วยงานที่ออกประกาศให้ใช้ ต้องรับผิดชอบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่ใช้สะพานลอยฯ ดังกล่าว เพราะถือเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการ ทั้งที่เห็นปัญหาอยู่แล้วแต่ปล่อยปละละเว้นจนมีการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
3.ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดหางบประมาณเพื่อต่อเติมสะพานลอยฯ ทั้ง 2 จุด เพื่อต่อความยาวให้สะพานลอยฯ ข้ามถนนคู่ขนานไปลงในพื้นที่ทางเท้าทั้งด้านซ้ายและขวา ซึ่งปัจจุบันทางเท้าทั้ง 2 ฟากถนน ยังมีประชาชนใช้สัญจรไม่มากนัก
4.ในการทำโครงการนี้ได้มีการจัดทำรับฟังความคิดเห็นของประชาชนผู้ใช้บริการหรือไม่ และมีผู้เข้าร่วมรับฟังความคิดเห็นทั้งหมดกี่คน ทั้งการก่อสร้างฯ เป็นไปตามการประชุมรับฟังความคิดเห็นที่เสนอต่อประชาชนหรือไม่
5.กรมทางหลวงอนุมัติโครงการนี้ไปได้อย่างไร ในเมื่อจุดขึ้น-ลงของรถจักรยานยนต์ อยู่ในพื้นที่ทางคู่ขนานและทางด่วนสายหลักของถนนพระราม 2 ที่มีรถสัญจรจำนวนมากตลอดเวลา
นายสนธิญากล่าวอีกว่า โครงการสร้างรถสะพานลอยสำหรับกลับรถจักรยานยนต์ดังกล่าว ผ่านการอนุมัติจากผู้บริหารองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาครชุดก่อน เพียงไม่นานก่อนจะมีการเลือกตั้งครั้งล่าสุด จึงอาจหวังผลด้านคะแนนเสียง อีกทั้งการออกแบบสร้างสะพาน ให้จุดขึ้นลงอยู่กลางถนนพระราม 2 ระหว่างช่องทางคู่ขนานกับช่องทางด่วน ที่อาจเกิดอันตรายในการสัญจร และก่อให้เกิดปัญหาซ้ำซ้อนต่าง ๆ ตามมาเช่นนี้ ออกมาอย่างนี้ได้อย่างไร
ด้านนายยอดเพ็ชร วัฒนดิเรก รองผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ แขวงการทางหลวงสมุทรสาคร เปิดเผยว่า สะพานลอยสำหรับกลับรถจักรยานยนต์ทั้ง 2 จุดนี้ สร้างโดยงบประมาณขององค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)สมุทรสาคร
โดยทางอบจ.สมุทรสาคร ได้ขอให้กรมทางหลวงเป็นผู้ออกแบบให้ เมื่อประมาณปี 2560 ซึ่งก็ไม่มีข้อท้วงติงจากผู้เกี่ยวข้อง ในเรื่องทางขึ้น-ลงของสะพานลอยฯ ในพื้นที่ทางคู่ขนาน
ทั้งนี้เมื่อจะเปิดใช้จริงก็ต้องมีการติดป้ายบอกการเข้าใช้ทาง และจะต้องยกเอาแท่งแบริเออร์คอนกรีต ที่ใช้กั้นในทางคู่ขนานออก เพื่อเปิดให้รถจักรยานยนต์สามารถวิ่งเข้ากลับรถไปยังอีกยังอีกฟากหนึ่งได้ ทั้งต้องนำแท่งแบริเออร์คอนกรีต มาปิดกั้นไม่ให้รถจักรยานยนต์เข้าไปในช่องทางด่วนของถนนพระราม 2 ด้วย
“ผู้เดือดร้อนสามารถท้วงติงเรื่องแบบและการก่อสร้างมาได้ ทั้งที่กรมทางหลวง และที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งหน่วยงานผู้รับเรื่องก็จะตอบกลับ ว่าสามารถแก้ไขได้หรือไม่ อย่างไรต่อไป ซึ่งถ้าหากจะแก้ไข ทางอบจ.จะเป็นผู้ปรับรูปแบบการก่อสร้าง แล้วเสนอขอความเห็นชอบในการแก้ไขฯ มายังกรมทางหลวง เนื่องจากสะพานลอยฯ ทั้ง 2 จุด อยู่ในพื้นทางของถนนพระราม 2 ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวง” นายยอดเพ็ชร กล่าว
อนึ่ง โครงการก่อสร้างสะพานกลับรถจักรยานยนต์บนถนนพระราม 2 ทั้งสองฝั่งของสะพานท่าจีน จะใช้งบประมาณจำนวน 65 ล้านบาท ซึ่งเป็นแนวคิดของอบจ.สมุทรสาครเพื่อต้องการลดอุบัติเหตุการขับขี่รถจักรยานยนต์บริเวณดังกล่าว ที่คนมักขี่ย้อนศรฝ่าฝืนกฎจราจร เพราะไม่ต้องการเสียเวลาขับรถไปอ้อมขึ้นสะพานกลับรถหน้านิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร เพราะมีระยะทางไกล รวมถึงมักชอบย้อนไปวนใต้สะพานท่าจีน ซึ่งก็ผิดกฎจราจร และทำให้เกิดอุบัติเหตุมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นประจำ