KEY
POINTS
พล.อ.ณัฐพงษ์ เพราแก้ว รองเสนาธิการทหาร เปิดเผยภายหลังการพบปะหารือในวันแรกของการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ระหว่างไทยและกัมพูชา ที่จังหวัดจันทบุรี วันแรก โดยระบุว่าการหารือในวันนี้เป็นการพบปะกับฝ่ายเลขานุการ GBC ของฝั่งกัมพูชา เพื่อร่วมกันกำหนดวาระและประเด็นสำคัญที่จะนำเข้าสู่การประชุมอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้ (25ธ.ค.68)
ในการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้มีการชี้แจงจุดยืนและรายละเอียดในส่วนของประเทศตนให้ได้รับทราบ และมีการตกลงกันว่าการประชุมเต็มคณะจะเริ่มขึ้นในเวลา 09.00 น. ของวันพรุ่งนี้ ณ สถานที่เดิม โดยคาดว่าทางกัมพูชาจะส่งคณะผู้แทนมาเข้าร่วมแบบเต็มคณะ
พล.อ.ณัฐพงษ์ ระบุเสริมว่า บรรยากาศการพูดคุยเป็นไปอย่างราบรื่นและมีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เนื่องจากตนและผู้แทนฝั่งกัมพูชาเคยร่วมงานกันมาหลายครั้งในการประชุม GBC ครั้งก่อนๆ ทั้งที่ประเทศมาเลเซียและเกาะกง
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับจุดยืนของทั้งสองฝ่ายนั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยต่อสื่อมวลชนได้ในขณะนี้ โดยให้เหตุผลว่า "เรื่องบางเรื่องไม่สามารถพูดไปได้ก่อน เพราะจะทำให้การทำงานยากขึ้น"
ทั้งนี้ พล.อ.ณัฐพงษ์ มองว่าการพบปะและสัญญาณจากทางกัมพูชาในวันแรกนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดีและน่าพอใจ โดยความคืบหน้าและผลการเจรจาในประเด็นต่างๆ จะมีการสรุปและแจ้งให้สื่อมวลชนทราบอีกครั้งหลังการประชุมเต็มคณะในวันพรุ่งนี้
ก่อนหน้านั้น เวลา 14.00 น. ณ ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ได้แถลงความคืบหน้าสถานการณ์การปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในเขตความรับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 1 และกองกำลังบูรพา ซึ่งมีการสู้รบอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา
พ.อ.ริชฌา เปิดเผยว่า ปัจจุบันไทยสามารถควบคุมพื้นที่ที่เคยถูกลุกล้ำอธิปไตยคืนได้สำเร็จแล้ว 2 พื้นที่ ได้แก่ บริเวณ บ้านคลองแผง อำเภออรัญประเทศ และบ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ขณะที่บริเวณบ้านหนองจานสามารถควบคุมพื้นที่ได้แล้วบางส่วน แต่ยังคงมีการรบปะทะกันอย่างต่อเนื่อง
ในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 แม้จะมีพื้นที่ที่ควบคุมได้เพิ่มมากขึ้น แต่ในจุดสำคัญอย่างภูมะเขือและห้วยตาเรียยังคงมีการยิงปะทะและถูกโจมตีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ประเด็นสำคัญจากการตรวจสอบพื้นที่ที่ควบคุมได้แล้ว กองทัพบกพบหลักฐานสำคัญคือ การใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN2 ซึ่งถือเป็นการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา (Ottawa Convention)อย่างชัดเจน
นอกจากนี้ยังตรวจพบการดัดแปลงระเบิดแสวงเครื่องจำนวนมากบริเวณปราสาทตาควายและเนิน 350 รวมถึงการนำทุ่นระเบิดดักรถถังมาดัดแปลงเพื่อสังหารบุคคล เพื่อเพิ่มอานุภาพทำลายล้าง และการดัดแปลงลูกระเบิดคอ (มอร์ต้าร์) และ RPG เพื่อใช้โจมตีทหารไทยที่พยายามเข้าควบคุมพื้นที่
พ.อ.ริชฌา เน้นย้ำว่า หลักฐานการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลเหล่านี้ถูกพบในทุกพื้นที่ปฏิบัติการ ทั้งในส่วนของกองทัพเรือ กองทัพภาคที่ 1 และกองทัพภาคที่ 2 ซึ่งพบมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วงรอบการปฏิบัติการในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยกระทรวงการต่างประเทศได้นำหลักฐานเหล่านี้ไปชี้แจงต่อชมนุมนานาชาติ เพื่อยืนยันถึงการละเมิดอนุสัญญาออตตาวาของฝ่ายตรงข้าม
ในช่วงท้ายของการแถลง รองโฆษกกองทัพบกได้ฝากความห่วงใยถึงประชาชนในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยขอความร่วมมือให้หลีกเลี่ยงพื้นที่สู้รบ และขอให้อพยพไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวที่จัดเตรียมไว้ พร้อมทั้งติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิดเพื่อความปลอดภัย