สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยผนึกพันธมิตรดัน SMEs เพิ่มมูลค่าส่งออกตะวันออกกลาง

07 ต.ค. 2564 | 13:00 น.

สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยร่วมมือกับกรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลางและแอฟริกา และพันธมิตร ดันเอสเอ็มอีไทยเพิ่มสัดส่วนและมูลค่าการส่งออกตะวันออกกลาง

นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดเผยว่า สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยได้ดำเนินการร่วมกับภาครัฐ และภาคเอกชน สนับสนุน ส่งเสริมเอสเอ็มอีให้เข้าถึงตลาดส่งออกไปยังตะวันออกกลาง โดยจัดอบรมผ่านระบบออนไลน์ทั่วประเทศ ซึ่งมีเอสเอ็มอี (SMEs) เข้าร่วมชมกว่า 300 ราย 
ทั้งนี้ ตลาดตะวันออกกลาง มีประชากรประมาณ 300 ล้านคน โดยมีมูลค่าส่งออกของไทยกว่า 250,000 ล้านบาทต่อปี ขณะที่ GDP แต่ละประเทศในตลาดตะวันออกกลางสูง โดย GDP ตะวันออกกลาง มีมูลค่ากว่า 3,000 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (USD) ส่วน GDP per capita สูงถึงประมาณ 20,000 USD และมีช่องว่างทางการตลาดที่สามารถเปิดตลาดใหม่ได้ 

สำหรับการส่งออกของไทยในช่วง 8 เดือนของปี 2564 (ม.ค.-ส.ค.) มีมูลค่าการส่งออกไปตลาดตะวันออกกลางกว่า 174,000 ล้านบาท  โดยที่ผ่านมา ปี พ.ศ.2563 มูลค่าส่งออกกว่า 225,000 ล้านบาท และ ปี พ.ศ.2562 มูลค่าส่งออกกว่า 257,000 ล้านบาท แต่สัดส่วนมูลค่าการส่งออกของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยไปยังตลาดตะวันออกกลางยังไม่ถึง 15% ซึ่งหากมีความร่วมมือพัฒนาขีดความสามารถ คุณภาพ มาตรฐานที่มีความต่อเนื่อง ตรงความต้องการตลาด และเปิดโอกาสให้ผลิตภัณฑ์ของเอสเอ็มอีเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้นจะทำให้เพิ่มมูลค่าการส่งออกในตลาดนี้อย่างรวดเร็ว และเป็นตลาดโอกาสอนาคตเอสเอ็มอีไทย
สำหรับตะวันออกกลางมี 15 ประเทศ ประกอบด้วยประเทศต่างๆ ได้เเก่ บาห์เรน อิหร่าน ตุรกี อีรัก อิสราเอล จอร์เเดน คูเวต เลบานอน โอมาน การตาร์ ซาอุดีอาระเบีย ซีเรีย สหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ เยเมน เเละดินเเดนปาเลสไตน์ ประชากรส่วนใหญ่มีฐานะทางเศรษกิจดี เป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง มีแรงงานคุณภาพ เเหล่งเงินทุนที่สำคัญ อีกทั้งเป็นเเหล่งพลังงานน้ำมันเเละก็าซธรรมชาติที่สำคัญ จึงมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย

"หน่วยงาน หรือองค์กรที่เข้าร่วมดำเนินการครั้งนี้ประกอบด้วย กรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลางและแอฟริกา กระทรวงการต่างประเทศ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) บริษัท ดีวี8 จำกัด (มหาชน) และบริษัท เวก้า อินเตอร์เทรด แอนด์ เอ็กซิบิชั่น จำกัด"