เอสเอ็มอี เช็คด่วน ครม.เคาะจ่ายเงินเยียวยา 3,000 บาท พยุงจ้างงาน3เดือน

05 ต.ค. 2564 | 08:25 น.

โฆษกรัฐบาล เผย ครม.มีมติเห็นชอบจ่ายเงินเยียวยา 3,000 บาทต่อหัว พยุงการจ้างงานของเอสเอ็มอี นาน3เดือน ตามมติของ ศบศ.

วันที่ 5 ตุลาคม 2564 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติล่าสุด เห็นชอบการจ่ายเงินเยียวยา จำนวน 3,000 บาทต่อหัวของจำนวนลูกจ้าง ไม่เกิน 200 คน ช่วยพยุงการจ้างงานของเอสเอ็มอี เป็นเวลานาน3เดือน ตามมติของ ศบศ. 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยรายละเอียดว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 5 ต.ค. 64 มีมติเห็นชอบหลักการโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs  เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงาน ตลอดจนสร้างความแข็งแรงให้แก่ธุรกิจ  

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

โดยมอบหมายให้กระทรวงแรงงานประสานกระทรวงการคลังเพื่อพิจารณาแนวการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้กับผู้ประกอบการในส่วนของรายได้จากเงินอุดหนุนดังกล่าว  

พร้อมให้กระทรวงแรงงานจัดทำรายละเอียดข้อเสนอต่อคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ พิจารณา ก่อนเสนอ ครม. พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป

รายละเอียดที่สำคัญ ดังนี้ 

  1. คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการฯ จะต้องเป็นนายจ้างภาคเอกชนที่อยู่ในระบบประกันสังคม มีการจ้างงานลูกจ้างสัญชาติไทยไม่เกิน 200 คน โดยลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการในเดือนตุลาคม 2564 และรับเงินอุดหนุนในเดือนที่ 1 - 3 (ตั้งแต่พฤศจิกายน 2564 ถึงมกราคม 2565) 
  2. เงื่อนไขการจ่ายเงินอุดหนุน 
  • รัฐจ่ายเงินอุดหนุนเพื่อส่งเสริมและรักษาการจ้างงานให้แก่นายจ้าง ให้กับลูกจ้างสัญชาติไทย จำนวนไม่เกิน 200 คน ในอัตรา 3,000 บาท/คน/เดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน
  • เงินอุดหนุนคำนวณตามยอดการจ้างจริงทุกเดือน โดยพิจารณาจากจำนวนลูกจ้างที่นำส่งเงินสมทบประกันสังคม 
  • นายจ้างจะต้องรักษาการจ้างงานไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 ในระหว่างร่วมโครงการ โดย (หากต่ำกว่าร้อยละ 95 จะไม่ได้รับเงินอุดหนุนในเดือนนั้น) ในกรณีนายจ้างมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น จะได้รับเงินอุดหนุนเพิ่มตามจำนวนการจ้างงานจริง ไม่เกินร้อยละ 5 ของจำนวนลูกจ้างสัญชาติไทย ณ วันเริ่มโครงการ

“มาตรการนี้คาดว่าจะรักษาระดับการจ้างงานลูกจ้างสัญชาติไทยในธุรกิจ SMEs ที่มีลูกจ้างไม่เกิน 200 ราย ที่มีสถานประกอบการจํานวน 480,122แห่งและจะสามารถรักษาการจ้างงานลูกจ้างได้จำนวน 5,040,176คน” นายธนกร กล่าว