อุตสาหกรรมการบินชะลอฉุดยอดใช้น้ำมันเชื้อเพลิงรอบ 4 เดือนร่วง 3.5%

31 พ.ค. 2564 | 05:05 น.

กรมธุรกิจพลังงานเปยยอดใช้นำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยต่อวันรอบ 4 เดือนลด 3.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน เหตุการใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ร่วงหนัก 64.8%

นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวถึงภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยต่อวันรอบ 4 เดือนของปี 2564 (มกราคม-เมษายน) ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.5% โดยสาเหตุหลักมาจากการใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) ที่ลดลง 64.8% สำหรับการใช้กลุ่มเบนซินเพิ่มขึ้น 4.5% กลุ่มดีเซลเพิ่มขึ้น 1% น้ำมันเตาเพิ่มขึ้น 24.4% น้ำมันก๊าดลดลง 4.7% LPG เพิ่มขึ้น 3.8% และ NGV ลดลง 23.6%
    ทั้งนี้ การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเดือนมกราคม-เมษายน 2564 เฉลี่ยอยู่ที่ 30.8 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (เพิ่มขึ้น 4.5%) โดยปริมาณการใช้กลุ่มแก๊สโซฮอล์เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 30.1 ล้านลิตร/วัน (เพิ่มขึ้น 4.8%) ในขณะที่การใช้น้ำมันเบนซินลดลงมาอยู่ที่ 0.7 ล้านลิตร/วัน (ลดลง 9%)
    อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาการใช้กลุ่มเบนซินเฉพาะเดือนเมษายน 2564 พบว่าการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 29.9 ล้านลิตร/วัน เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า (เดือนมีนาคม 2564 อยู่ที่ 33.9 ล้านลิตร/วัน) โดยเป็นการลดลงของกลุ่มเบนซินทุกชนิด เนื่องจาก การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 ที่ทำให้ภาครัฐต้องออกมาตรการควบคุมพื้นที่ ซึ่งส่งผลต่อความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง
    การใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลเดือนมกราคม-เมษายน 2564 เฉลี่ยอยู่ที่ 66.8 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อย (เพิ่มขึ้น 1%) สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี7 มีปริมาณการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 39.7 ล้านลิตร/วัน (ลดลง 18.7%) น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ซึ่งเริ่มจำหน่ายตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม 2562 มีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 23.8 ล้านลิตร/วัน และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 มีปริมาณการใช้อยู่ที่ 1.1 ล้านลิตร/วัน
    การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยอยู่ที่ 4.9 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน  (ลดลง 64.8%) เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยวและการเดินทางโดยเครื่องบินทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ
    การใช้ LPG เฉลี่ยอยู่ที่ 16.2 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (เพิ่มขึ้น 3.8%) โดยปริมาณการใช้ในภาคปิโตรเคมีขยายตัวและมีการใช้มากที่สุดอยู่ที่ 6.8 ล้านกก./วัน (เพิ่มขึ้น 8.5%) ถัดมาเป็นภาคอุตสาหกรรมมีการใช้อยู่ที่ 1.9 ล้านกก./วัน (เพิ่มขึ้น 7%) และภาคครัวเรือนมีการใช้อยู่ที่ 5.7 ล้านกก./วัน (เพิ่มขึ้น 4.2%) ขณะที่ภาคขนส่งมีการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 1.8 ล้านกก./วัน (ลดลง 13.5%)
    การใช้ NGV เฉลี่ยอยู่ที่ 3.3 ล้านกก./วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (ลดลง 23.6%) โดยเป็นผลต่อเนื่องจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ประกอบกับจำนวนสถานีบริการและรถ NGV ที่ลดลง
    การนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงเดือนมกราคม-เมษายน 2564 เฉลี่ยอยู่ที่ 914,677 บาร์เรล/วัน ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ลดลง 7.5%) โดยการนำเข้าน้ำมันดิบลดลงมาอยู่ที่ 872,568 บาร์เรล/วัน (ลดลง 8%) มูลค่าการนำเข้าอยู่ที่ 49,185 ล้านบาท/เดือน (เพิ่มขึ้น 1.2%) สำหรับการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป (น้ำมันเบนซินพื้นฐาน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน และ LPG) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 42,109 บาร์เรล/วัน (เพิ่มขึ้น 2.8%) คิดเป็นมูลค่านำเข้ารวม 2,541 ล้านบาท/เดือน (เพิ่มขึ้น 32.3%) โดยมูลค่าการนำเข้าที่สูงขึ้นนั้นเป็นผลจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่เริ่มปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นปี 2564
    การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปเดือนมกราคม-เมษายน 2564 เป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน น้ำมันก๊าด และ LPG โดยปริมาณส่งออกลดลงมาอยู่ที่ 170,163 บาร์เรล/วัน (ลดลง 8.8%) คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 10,262 ล้านบาท/เดือน (เพิ่มขึ้น 11%)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :