คดีโฮปเวลล์ "ศักดิ์สยาม" เล็งตั้งคณะกรรมการเอาผิดทางอาญา หลังรอคำวินิจฉัยกลางฉบับเต็ม

18 มี.ค. 2564 | 05:48 น.

"ศักดิ์สยาม" เร่งเคลียร์คดีค่าโง่โฮปเวลล์ รอคำวินิจฉัยกลางฉบับสมบูรณ์จากศาลรธน.ลั่นเป็นสัญญาณที่ดีจ่อตั้งคณะกรรมการเอาผิดทางอาญาเพิ่ม

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยโดยมีมติที่ประชุมศาลปกครองสูงสุดคดีโฮปเวลล์ขัดรัฐธรรมนูญ ว่า ขณะนี้กระทรวงคมนาคมพยายามดูข้อระเบียบกฎหมาย รวมถึงข้อเท็จจริง และต่อสู้ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศเต็มความสามารถ เบื้องต้นทางกระทรวงขอดูคำวินิจฉัยกลางฉบับสมบูรณ์จากศาลรัฐธรรมนูญก่อนว่าเป็นอย่างไร เนื่องจากตามกระบวนการกระทรวงไม่ได้เป็นผู้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพียงแต่กระทรวงกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ยื่นเรื่องนี้ต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน

"เรายังไม่เห็นคำวินิจฉัยกลางฉบับจริง ตามขั้นตอนของศาลรัฐธรรมนูญจะต้องส่งคำวินิจฉัยกลางมายังผู้ตรวจการแผ่นดิน และรัฐสภา ก่อนที่จะส่งต่อคำวินิจฉัยมายังกระทรวงคมนาคม ขั้นตอนหลังจากนี้คือกระทรวงคมนาคมต้องรอทุกอย่างให้ออกมาเป็นทางการก่อน ว่าคำวินิจฉัยกลางออกมาว่าอย่างไร ถึงจะทราบว่ากระทรวงคมนาคมต้องเดินหน้าอย่างไรต่อ ตอนนี้ต้องรอให้เห็นคำวินิจฉัยกลางมาก่อน ว่าได้มีการวินิจฉัยอะไรบ้าง ซึ่งเรื่องนี้เป็นกระบวนการทางข้อกฎหมาย หากได้รับคำวินิจฉัยมาแล้วก็จะรีบดำเนินการตามข้อกฎหมายและขบวนการที่ทำได้ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศ”

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ส่วนอายุความของคดีดังกล่าวคงต้องรอดูคำวินัจฉัยกลางจากศาลรัฐธรรมนูญด้วย ในกรณีที่มีคำตัดสินจากศาลฯต้องรอคำวินิจฉัยกลางหรือองค์คณะทำงานที่ดำเนินการ ซึ่งจะเป็นข้อยุติตามหลักกฎหมายข้อใด ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เบื้องต้นถือเป็นสัญญาณที่ดี แต่ขอดูรายละเอียดให้ชัดเจนก่อน โดยที่ผ่านมาทางกระทรวงได้ยื่นทั้งหมด 2 เรื่อง 1.การวินิจฉัยเป็นไปตามหลักกฎหมายสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ 2.อายุความ ต้องรอคำวินิจฉัยกลางว่าจะเป็นอย่างไร โดยที่ผ่านมาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจหากยังไม่มีความผิดในการละเมิดหรือชำระค่าชดเชยจะไม่นับอายุความ

"ทั้งนี้ทางกระทรวงจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดทางอาญาเพิ่มเติม โดยมีนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน ซึ่งเรื่องดังกล่าวรายละเอียดเยอะต้องใช้เวลาพิจารณา เพราะที่ผ่านมาเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2532 ขณะนี้คณะกรรมการสอบสวนความผิดในการละเมิด อยู่ระหว่างการส่งรายชื่อคณะกรรมการฯ เพื่อแต่งตั้งสอบสวนหาความผิดดังกล่าวมาที่เราให้พิจารณา เนื่องจากเรื่องที่เกิดขึ้นเราไม่ได้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ซึ่งเป็นอำนาจที่เราสามารถแต่งตั้งได้ หากเราเกี่ยวข้องจะเป็นอำนาจของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้พิจารณา ทั้งนี้ต้องดูคุณสมบัติของคณะกรรมการด้วยว่ามีความรู้ความสามารถอย่างไรบ้าง"