นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นซึ่งมีนายพิชัย ชุณหวชิร ประธานกรรมการบริษัทฯ เป็นประธานในที่ประชุม มีมติอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียน จาก 10,000 ล้านบาท เป็น 16,508.50 ล้านบาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ จำนวน 1,301.70 ล้านหุ้น มูลค่าตราไว้หุ้นละ 5 บาท แบ่งจัดสรรหุ้นจำนวน 250 ล้านหุ้น เสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (RO) อัตรา 8 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นเพิ่มทุน ราคาเสนอขาย 11.50 บาท ขึ้นเครื่องหมายไม่ได้รับสิทธิเพิ่มทุน (XR) ในวันที่ 14 ตุลาคมนี้
ทั้งนี้ ยังได้จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 674.5 ล้านหุ้น เสนอขายให้บุคคลในวงจำกัด (PP) ในราคาหุ้นละ 11.50 บาท ให้แก่ Pilgrim Partners Asia (Pte.) Ltd. จำนวน 195.75 ล้านหุ้น คิดเป็น 5.93% ของทุนชำระแล้ว และ Capital Asia Investments Pte. Ltd. จำนวน 195.75 ล้านหุ้น คิดเป็น 5.93% และ จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 283 ล้านหุ้น เสนอขายให้ PP โดยผ่านกระบวนการเปิดให้ผู้ลงทุนสถาบันแสดงความประสงค์ซื้อหุ้นเพิ่มทุน ณ ระดับราคาที่ต้องการ (book Building)
นอกจากนี้ ยังได้จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 377.2 ล้านหุ้น รองรับการใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญ(วอร์แรนต์) จำนวน 4 รุ่น คือ BCPG-W1, BCPG-W2, BCPG-W3 และ BCPG-ESOP โดยบริษัทฯ จะแจก BCPG-W1 ให้ผู้ถือหุ้นเดิมที่ใช้สิทธิเพิ่มทุน ในอัตรา 2.80 หุ้นเพิ่มทุน ต่อ 1 วอร์แรนต์ ราคาแปลงสิทธิ 8 บาท อายุ 2 ปี อัตราใช้สิทธิ 1 ต่อ 1 ส่วน BCPG-W2 จะแจกให้กับผู้ถือหุ้นเดิมที่ใช้สิทธิเพิ่มทุนเช่นกัน ในอัตรา 2.80 หุ้นเพิ่มทุน ต่อ 1 วอร์แรนต์ ราคาแปลงสิทธิ 8 บาท อายุ 3 ปี อัตราใช้สิทธิ 1 ต่อ 1
ส่วน BCPG-W3 จะแจกให้กับผู้ถือหุ้นเพิ่มทุน PP ในอัตรา 2.1924 หุ้นเพิ่มทุน ต่อ 1 วอร์แรนต์ ราคาแปลงสิทธิ 8 บาท อายุ 1 ปี อัตราใช้สิทธิ 1 ต่อ 1 นอกจากนี้บริษัทฯ จะแจก BCPG-ESOP ให้กับกรรมการและพนักงานบริษัท โดยมีราคาใช้สิทธิครั้งแรก 13.70 บาท อายุ 5 ปี อัตราใช้สิทธิ 1 ต่อ 1
อย่างไรก็ดี ประเมินว่าเงินที่ได้จากการการเพิ่มทุนในครั้งนี้รวมประมาณ 10,235 ล้านบาท จะนำไปใช้รองรับแผนการขยายธุรกิจ แบ่งเป็นการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม กำลังการผลิต 600 เมกะวัตต์ (MW) ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประมาณ 3,570 ล้านบาท กำหนดระยะเวลาการใช้เงินในปี 2563-2566 ชำระคืนเงินกู้สำหรับการเข้าซื้อโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์รวมกำลังการผลิตตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 20 เมกะวัตต์ ในประเทศไทย ในปี 2563-2565
ชำระคืนเงินกู้ยืมบางส่วนสำหรับการเข้าซื้อโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Nam San 3A และ Nam San 3B กำลังการผลิตรวม 114 เมกะวัตต์ รวมถึงเงินลงทุนสำหรับการติดตั้งสายส่งเพิ่มเติม ประมาณ 1,870 ล้านบาท ภายในปี 2563 ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 3,700 ล้านบาท จะนำไปใช้ลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศในอนาคต ภายในปี 2563-2564
"การเพิ่มทุนครั้งนี้จะเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งและมั่นคงให้แก่ฐานะทางการเงินของบริษัทฯ ทำให้มีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนลดลง และยังช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงินเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยให้บริษัทฯ สามารถขยายการลงทุนในโรงไฟฟ้าเพิ่มเติม รวมถึงชำระคืนหนี้บางส่วนแก่สถาบันการเงินตามแผนที่วางไว้ ส่งผลให้การดำเนินงานของ บีซีพีจี มีแนวโน้มที่จะเติบโตในอนาคต"
นายบัณฑิต กล่าวต่อไปอีกว่า "บีซีพีจี" ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนที่มีศักยภาพจากการขายหุ้น PP ให้กับ Pilgrim Partners Asia และ Capital Asia Investments จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมถึงความสำเร็จจากการเพิ่มทุนในครั้งนี้ โดยคาดว่าจะส่งผลให้สามารถเพิ่มทุนได้ตามเป้าหมาย ซึ่งเป็นการเสริมสร้างโอกาสให้บริษัทฯ สามารถที่จะเข้าไปลงทุนในโครงการที่สร้างผลตอบแทน ที่ดี เป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและการพัฒนาธุรกิจให้สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
“บีซีพีจี” เดินหน้าโครงการสร้างสายส่ง 220 กิโลโวลต์ในลาวขายไฟให้เวียดนาม
“บีซีพีจี”กำไรไตรมาส 2/63 เพิ่มขึ้นกว่า 20%
“บีซีพีจี" เคพเพล ผนึก ทีมกรุ๊ป ลุยโครงการ “เมืองจุฬาฯ อัจฉริยะ” ปั้นรายได้ 7.5 พันล.