มีเฮ!! ปลดล็อค ระบบขนส่งทางรางเต็มร้อย

01 ก.ย. 2563 | 12:04 น.

ขร.ปลดล็อคระบบขนส่งทางราง หลังยกเลิกเคอร์ฟิว ย้ำเข้มมาตรการป้องกันโควิด-19 ต่อเนื่องด้านรฟท.-รฟม.-BEM -BTS -แอร์พอร์ตลิงก์ ลุยเดินรถเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์

รายงานข่าวจากกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่าขร. ออกประกาศ เรื่อง การผ่อนคลายมาตรการพึงปฏิบัติด้านการจัดการระบบขนส่งทางราง ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ตามข้อกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (ฉบับที่ 14) ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2563 ข้อ 1 (3) ให้ระบบขนส่งสาธารณะทั้งทางบกและทางน้ำมีจำนวนผู้โดยสารได้เต็มตามความจุมาตรฐานของพาหนะ

 

ทั้งนี้ขร. ได้ดำเนินการติดตาม เฝ้าระวัง และป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID - 19 อย่างต่อเนื่อง ทั้งในระบบรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล และระบบรถไฟระหว่างเมือง เพื่อไม่ให้กลับมาระบาดซ้ำ โดยประกาศฉบับนี้ ขร. ได้มีการผ่อนคลายการรักษาระยะห่าง (Social Distancing) และความหนาแน่นของการเข้าใช้บริการระบบขนส่งทางรางให้สามารถใช้บริการได้เต็มความจุ เพื่อรองรับปริมาณการเดินทางในระบบขนส่งทางรางที่เพิ่มขึ้นจากการผ่อนคลายกิจกรรม/กิจการ โดยยังคงเข้มงวดในการป้องกัน คัดกรอง และควบคุมการเดินทาง โดยเฉพาะในเขตที่มีการเดินทางเชื่อมกับประเทศเพื่อนบ้าน

 

สำหรับประกาศนี้ แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1) ส่วนของผู้ให้บริการระบบขนส่งทางราง ประกอบด้วย การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.), บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) และบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BTS) และ 2) ผู้ใช้บริการระบบขนส่งทางราง ดังนี้

มีเฮ!! ปลดล็อค ระบบขนส่งทางรางเต็มร้อย

ข้อ 1 ให้หน่วยงานที่ให้บริการขนส่งทางรางทุกระบบดำเนินการ ดังต่อไปนี้ (1) สามารถเดินรถโดยมีจำนวนผู้โดยสารเต็มความจุมาตรฐานของขบวนรถ โดยให้กำกับ ดูแล บริหารจัดการภายในสถานีและขบวนรถไม่ให้เกิดความหนาแน่นของผู้โดยสารมากเกินไปหรือมีลักษณะเบียดเสียดแออัด อันเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) (2) คัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิผู้โดยสารก่อนเข้าระบบ หากมีผู้โดยสารที่มีอุณหภูมิสูงมากกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ควรแนะนำให้งดการใช้บริการและไปพบแพทย์ (3) แจ้งและกำกับดูแลให้ผู้โดยสารล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ทั้งก่อนและหลังเข้าใช้บริการในระบบ พร้อมทั้งจัดให้มีเจลแอลกอฮอล์บริการภายในสถานีอย่างเพียงพอ (4) กำกับ ดูแล และประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลาทั้งภายในสถานีและขบวนรถ งดการสนทนาและไม่หันหน้าเข้าหากันภายในขบวนรถ (5) เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาด เช็ด พ่น ฆ่าเชื้อโรคบริเวณจุดมือสัมผัส ทั้งภายในสถานีและขบวนรถ (6) ให้มีการใช้แอพพลิเคชั่นไทยชนะภายในสถานีและขบวนรถเผื่อกรณีสอบสวนโรค (7) ประชาสัมพันธ์ภายในขบวนรถและภายในสถานีให้ประชาชนรับทราบและถือปฏิบัติตามมาตรการที่ราชการกำหนดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) (8) การให้บริการโดยสารรถไฟทางไกลข้ามเขตพื้นที่จังหวัด ให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดการคัดกรอง เฝ้าระวัง และตรวจสอบเอกสารการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรที่ราชการกำหนด กรณีผู้โดยสารที่เป็นชาวต่างชาติหรือแรงงานต่างด้าว หากพบผู้ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายให้เร่งแจ้งสาธารณสุข เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องโดยด่วนต่อไป

มีเฮ!! ปลดล็อค ระบบขนส่งทางรางเต็มร้อย

ข้อ 2 ให้ผู้ใช้บริการระบบขนส่งทางรางดำเนินการ ดังต่อไปนี้ (1) สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ใช้บริการ ทั้งภายในสถานีและขบวนรถ (2) งดการสนทนาและไม่หันหน้าเข้าหากันภายในขบวนรถ (3) หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลาหรือในขบวนรถที่มีความหนาแน่นแออัด และพึงระวังการเบียดเสียดหรือการสัมผัสผู้อื่น (4) หมั่นใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือทั้งก่อนและหลังการใช้บริการในระบบ และหลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้า (5) ใช้แอพพลิเคชั่นไทยชนะภายในสถานีและขบวนรถเผื่อกรณีสอบสวนโรค

 

อย่างไรก็ตาม ขร. ขอความร่วมมือหน่วยงานที่ให้บริการขนส่งทางรางทุกระบบและผู้ใช้บริการระบบขนส่งทางรางถือปฏิบัติโดยเคร่งครัดเพื่อร่วมกันลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสฯ ภายใต้การเดินทางวิถีชีวิตรูปแบบใหม่ (New Normal)