กทม.ระดม 50 เขตออกสำรวจโรงหนัง อาบอบนวดฝ่าฝืนนอนคุก

18 มี.ค. 2563 | 14:00 น.

“อัศวิน”เรียกประชุมผู้อำนวยการเขต 50 เขต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกสำรวจในพื้นที่เขตต่างๆปฎิบัติ ตามประกาศหรือไม่ ใครฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี


     

 วันนี้เวลา 14.00 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมเพื่อชี้แจงแนวทางการดำเนินงานโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) โดยมี นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้อำนวยการเขต 50 เขต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า วันนี้ได้เรียกผู้อำนวยการเขตทั้ง 50 เขต มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการออกประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว เป็นระยะเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 18 – 31 มี.ค. 63 ซึ่งได้มีการออกประกาศไปเมื่อวานนี้ (17 มี.ค. 63) โดยได้มอบหมายให้สำนักงานเขตออกสำรวจในพื้นที่เขตของตนว่าสถานที่ต่างๆ ตามประกาศได้ปฏิบัติตามประกาศหรือไม่ สำหรับสถานที่ที่เข้าข่ายการประกาศปิดนั้นเป็นสถานที่ซึ่งมีคนมารวมตัวเบียดเสียดใกล้ชิด และเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อได้ง่าย ดังนี้ 1. สถานประกอบกิจการอาบ อบ นวด เว้นแต่การให้บริการดังกล่าวในสถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล 2. สถานประกอบกิจการอาบน้ำ อบไอน้ำ อบสมุนไพร เว้นแต่การให้บริการดังกล่าวในสถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล 3. สถานประกอบกิจการโรงมหรสพ (โรงภาพยนตร์ โรงละคร โรงมหรสพ) 4. สถานประกอบกิจการสถานที่ออกกำลังกาย 5. สถานบริการและสถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการ 6. สนามมวย 7. สนามกีฬา และ 8. สนามม้า ทั้งนี้กรณีมีผู้ที่ยังสงสัยถึงสถานที่ตามประกาศ ข้อ.5 นั้น สถานที่ดังกล่าวหมายถึงสถานที่จำหน่ายอาหารและสุราที่มีการแสดงดนตรี เต้นโชว์ เต้นรำ หรือมีพนักงานบริการใกล้ชิด จะต้องปิด แต่ร้านอาหารทั่วไปที่ไม่มีลักษณะนี้ยังคงสามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ นอกจากนี้ในส่วนของ ข้อ 7. นั้น การปิดสนามกีฬาจะปิดเฉพาะส่วนที่คนต้องออกกำลังกายอย่างใกล้ชิดกัน เสี่ยงต่อการสัมผัสและเป็นสถานที่ปิด อาทิ ฟิตเนส และโรงยิม ในส่วนที่เป็นสถานที่ออกกำลังกายแบบโล่งแจ้ง อาทิ สนามกีฬาที่เปิดให้คนเข้าไปวิ่งออกกำลังกายไม่จำเป็นต้องปิด อย่างไรก็ดี ผู้ฝ่าฝืนประกาศดังกล่าว จะมีโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี ทั้งนี้ราชกิจจานุเบกษาได้ประกาศให้ผู้อำนวยการเขต และหัวหน้าฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล เป็นเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ มีอำนาจหน้าที่ในการตักเตือน ให้คำแนะนำ และบังคับใช้กฎหมาย  

นอกจากนี้ ในส่วนของการดูแลผู้ป่วยที่มารับบริการที่โรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานครนั้น เพื่อเป็นการลดการแออัดและความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อยากให้ผู้ที่มีอาการป่วยเล็กน้อยหรือแค่มารับยาไปขอรับยาที่ศูนย์บริการสาธารณสุข สังกัดกรุงเทพมหานคร คลินิกอบอุ่น ของ สปสช. หรือร้านขายยาที่อยู่ใกล้บ้านแทน ทำความสะอาดพื้นที่ วัสดุอุปกรณ์ที่ต้องใช้งานหรือสัมผัสร่วมกันต่อเนื่อง

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมากรุงเทพมหานครได้มีการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อและทำความสะอาดสถานที่ต่างๆ รวมถึงโรงพยาบาลไปแล้ว อีกทั้งมีการจัดกิจกรรม Big Cleaning สถานที่ต่างๆ ด้วย แต่อย่างไรก็ตามเพื่อให้มีการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แต่ละหน่วยงานยังมีการเช็ดทำความสะอาดสถานที่หรือวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้หรือสิ่งที่ต้องสัมผัสร่วมกันอยู่ ในส่วนของภาคเอกชนหรือประชาชนที่อยากให้กรุงเทพมหานครเข้าไปฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อฯ ให้นั้น กรุงเทพมหานครไม่สามารถดำเนินการให้ได้ทั้งหมด แต่มีเจ้าหน้าที่พร้อมให้ความรู้ในการดูแลทำความสะอาดพื้นที่ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส 2019 ให้ประชาชนได้ และหากกรณีเป็นพื้นที่ที่พบผู้ป่วยก็จะมีเจ้าหน้าที่จากสำนักอนามัยเข้าไปฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อฯ ให้ได้

 ส่วนกรณีแอลกอฮอล์เจลขาดตลาดนั้น กรุงเทพมหานครได้มีการสั่งซื้อเอทิลแอลกอฮอล์เพื่อนำมาทำแอลกอฮอล์เจลแจกประชาชน และได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่จากมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช สำนักพัฒนาสังคม และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเร่งผลิตแอลกอฮอล์เจล คาดว่า 1 วันจะผลิตได้ 6,000 ขวด ภายใน 15 วัน จะผลิตได้ 8 แสนขวด ซึ่งเมื่อผลิตแอลกอฮอล์เจลได้แล้วจะมอบให้สำนักงานเขตนำไปแจกให้ประชาชนตามชุมชนต่างๆ คนละ 1 ขวด ต่อไป

นอกจากนี้ การตัดเย็บหน้ากากผ้าแจกบุคลากรนั้น กรุงเทพมหานครยังคงเร่งดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบุคลากรในสังกัดที่มีความเสี่ยงต่อการสัมผัสเชื้อโรคฯ ได้แก่ เจ้าหน้าที่เก็บขนขยะ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (19 มี.ค. 63) จะมีการแจกหน้ากากผ้า จำนวน 7,000 ชิ้น ให้เจ้าหน้าที่เก็บขนขยะ เวลา 09.30 น. ณ ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เพิ่มเติมให้กับสำนักงานที่มีการจัดทำอยู่แล้วแต่อาจจะยังไม่เพียงพอ