ก่อนจะไปคลิกสั่งขนมไทยชื่อประหลาด “ข้าวเหนียวหน้าควายลุย” มากินกัน ไปดูที่มาที่ไปของเขาสักนิด ว่ามาขึ้นตลาดออนไลน์กันได้อย่างไร เรื่องนี้ ต้องเริ่มกันที่จังหวัดชัยนาทเลยทีเดียว
ชัยนาทเป็นจังหวัดเล็กๆ ทางภาคกลางตอนบนของไทย มีความอุดมสมบูรณ์มาตั้งแต่สมัยสุโขทัย มีแม่นํ้าท่าจีนตัดผ่าน ดินดี ปลูกอะไรก็ขึ้น จนเรียกได้ว่าเป็น ‘อู่ข้าวอู่นํ้า’ ของภาคกลาง กว่าครึ่งของชัยนาทเป็นพื้นที่ปลูกข้าว แต่การทำนาปลูกข้าวที่นี่ระยะหลังๆ มีปัญหาภัยแล้ง ทำให้ผลผลิตลด จากที่เคยผลิตได้ 3 รอบต่อปี ก็เหลือเพียงแค่ 1 รอบต่อปี ทำให้รายได้ของเกษตรกรหดหาย...นั่นคือคำบอกเล่าของ “ทิพษ์วัน เนตรนาค” หรือ “ผู้ใหญ่เกิ้ง” ผู้ใหญ่บ้านหญิงคนแรกแห่งบ้านท่าสำโรง อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท
เมื่อทำนามีปัญหา รายได้หด จึงเกิดการสร้างอาชีพเสริมให้กับคนในชุมชน โดยดึงศักยภาพภูมิปัญญาชาวชัยนาทสั่งสมกันมานับร้อยปี คือ เรื่องการทำขนมไทยขาย มาสร้างเป็นอาชีพเสริม ไม่ว่าจะเป็นการทำส้มแผ่น กล้วยตาก ขนมไทย ขนมหวาน เพื่อนำไปขายที่ตลาด อตก. และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นการรวมกลุ่มของชาวบ้านในนาม ‘วิสาหกิจชุมชนแม่บ้านอินเตอร์ (ผู้ใหญ่เกิ้ง)’
ขนมที่ทำมา ขายได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แล้วแต่จังหวะและโอกาส เพราะมีช่องทางขาช่องทางเดียว คือ การนำไปขายที่ตลาด อตก. จนกระทั่งได้รับการสนับสนุนจาก ทีม ‘ดีแทคเน็ตทำกิน’ ที่ลงพื้นที่และเห็นโอกาสของการทำตลาด ‘ข้าวเหนียวหน้าควายลุย’ ผ่านออนไลน์ ด้วยชื่อขนมที่แปลก ประกอบกับรสชาติที่อร่อย กลมกล่อม ไม่หวานแหลม ทำให้เพียงปรับเรื่องการตกแต่ง สีสัน และบรรจุภัณฑ์ ให้เข้ากับผู้บริโภคยุคใหม่เสียหน่อย ก็มีโอกาสทำตลาดได้
“ข้าวเหนียวหน้าควายลุย” ทำมาจากถั่วเขียวและเผือก กวนรวมกับกะทิแล้วใส่นํ้าตาลโตนด กวนให้เข้ากันจนออกมาเป็นลักษณะเหมือนโคลนในปลักควาย และนั่นคือที่มาของชื่อ “ข้าวเหนียวหน้าควายลุย” อาหารท้องถิ่นของอำเภอสรรคบุรี
ในวันนี้ ขนมไทยที่ชาวบ้านในชุมชนบ้านท่าสำโรงทำออกขาย ไม่ได้มีเพียงแค่ “ข้าวเหนียวหน้าควายลุย” เท่านั้น แต่ยังมี ขนมเปียกปูนกะทิสด ขนมต้ม สาคู และขนมเค้กหน้ามะพร้าว ที่ใครสนใจอยากลิ้มลอง วันนี้ไม่จำเป็นต้องไปเฉพาะที่ ตลาดย้อนยุคเมืองสรรค์ อำเภอสรรคบุรี หรือตลาด อตก.แค่นั้น ตอนนี้มีออนไลน์แล้ว ลองเสิร์จหาดูเลย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 หน้า 24 ฉบับที่ 3,671 วันที่ 18 - 21 เมษายน พ.ศ. 2564