สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส Royal Thai Embassy - Paris, France ได้รายงานว่าสภาสูงสาธารณสุขฝรั่งเศส (Haute Autorité de santé) ได้ให้ความเห็นชอบต่อวัคซีนต้านโควิด-19 ( covid-19 ) ของบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า AstraZeneca โดยถือเป็นวัคซีนตัวที่สามที่ได้รับอนุญาตในฝรั่งเศส หลังจากที่วัคซีนดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจาก สนง.ยายุโรปเมื่อวันที่ 29 ม.ค.2564
ทั้งนี้ วัคซีนของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) ใช้เทคโนโลยีที่ต่างจากวัคซีนของบริษัท Pfizer-BioNtech และ Moderna โดยได้พัฒนาและดัดแปลงจากเชื้อไวรัสชนิดอื่นเพื่อต่อสู้กับเชื้อไวรัส covid-19 มีประสิทธิภาพประมาณร้อยละ 63 - 70 (ซึ่งยังคงเป็นประสิทธิภาพที่สูงกว่าวัคซีนต้านไข้หวัดใหญ่ส่วนมาก) และสามารถเก็บรักษาในตู้เย็นปกติได้ (2 - 8 องศาเซลเซียส)
อีกทั้งยังมีราคาเพียง 1.78 ยูโร/โดส (ขณะที่วัคซีนบริษัทไฟเซอร์-บิออนเทค ราคา 12 ยูโร และวัคซีนบริษัทโมเดอร์นา ราคา 14.70 ยูโร)
สภาสูงสาธารณสุขฝรั่งเศสยังไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีนดังกล่าวให้แก่ผู้ที่มีอายุสูงกว่า 65 ปี เนื่องจากปัจจุบันยังขาดข้อมูลการวิจัยที่เพียงพอในกลุ่มผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี แต่คาดว่าจะมีผลการศึกษาเพิ่มเติมในอีกไม่นานนี้
โดยสภาสูงฯ แนะนำให้เริ่มฉีดวัคซีนแก่กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และผู้ที่มีอายุ 50 - 65 ปี ซึ่งมีปัจจัยเสี่ยงป่วยอาการหนัก ทั้งนี้ เยอรมนีและสวีเดนก็ได้แนะนำให้ฉีดวัคซีนดังกล่าวให้แก่ประชาชนที่มีอายุ 18 - 64 ปีเท่านั้น
ขณะที่บริษัท AstraZeneca ยืนยันว่าสามารถฉีดให้แก่ผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปีได้ และสหราชอาณาจักรก็ได้อนุญาตให้ฉีดวัคซีนแก่ผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปีได้
ทั้งนี้สภาสูงฯ ได้แจ้งด้วยว่า วัคซีนของบริษัท AstraZeneca สามารถใช้งานได้ง่าย ดังนั้น แพทย์และพยาบาลจึงสามารถทำการฉีดวัคซีนดังกล่าวได้อย่างง่ายดาย และหวังว่าจะได้รับวัคซีนจำนวน 10 ล้านโดสในช่วงสามเดือนนี้ เพื่อที่จะสามารถฉีดวัคซีนให้แก่ประชากร จำนวน 5 ล้านคนได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ยอดโควิด 2 ก.พ.64 ทั่วโลกผู้ป่วยเพิ่ม 3.66 แสนราย รวม 103.89 ล้านราย
แอฟริกาติดเชื้อโควิดทะลุ 3,500,000 ราย ตายกว่า 90,000 ราย