สื่อท้องถิ่นรายงานเมื่อวันเสาร์ (26 ก.ย.) ว่ามีนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์เมโทรโพลิแทน (MMU) ที่ถูกสั่งให้กักตัวเองอยู่ในห้องพักเป็นเวลา 14 วัน เป็นจำนวน 1,700 คนแล้ว หลังมีการตรวจพบผู้มีผลตรวจเชื้อโรคโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)เป็นบวก 127 คน
เหตุการณ์นี้ถือเป็น "ภัยพิบัติครั้งล่าสุดในรอบสัปดาห์ที่สามารถคาดเดาได้ทั้งหมดและมีการคาดการณ์ไว้แล้วการระบาดของโควิต-19 ได้สร้างความเสียหายให้กับวิทยาเขตทั่วสหราชอาณาจักร" สหภาพวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย (UCU) กล่าว
โจ กราดี เลขาธิการใหญ่ของสหภาพวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย เรียกร้องให้รัฐบาลและบรรดามหาวิทยาลัยดำเนินการเพื่อปกป้องเจ้าหน้าที่และนักศึกษา
"เมื่อเดือนที่แล้วเราไต้เตือนเกี่ยวกับปัญหาเรื่องการเคลื่อนที่ของนักศึกษาหลายพันคนทั่วประเทศ และถึงเวลาแล้วที่รัฐมนตรีและมหาวิทยาลัยจะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อปกป้องเจ้าหน้าที่และนักศึกษา" กราดีกล่าว
สำนักข่าวรายงานว่า โฆษกของมหาวิทยลัยรายหนึ่งระบุว่าจะการดำเนินการทางวินัยกับผู้ที่ละเมิดกฎระเบียบนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม หลังยอดผู้ติดเชื้อโรคโควิต-19 พุ่งสูง พื้นที่ส่วนใหญ่ของเกรตเตอร์แมนเชสเตอร์(Greater Manchester) ต้องอยู่ภายใต้ข้อจำกัดที่เข้มงวดยิ่งขึ้น
อัตราผู้มีผลตวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวกยังเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในเมืองแมนเชสเตอร์แตะที่ 1,026 รายในหนึ่งสัปดาห์ นับจนถึงวันที่ 22 ก.ย. ขณะที่สัปดาห์ก่อนหน้าตัวเลขนี้อยู่ที่ 515 ราย
สถานีโทรทัศน์สกายนิวส์รายงานว่า จากข้อมูลที่รวบรวมได้จนถึงวันที่ 25 ก.ย. มหาวิทยาลัยอย่างน้อย 32 แห่งทั่วสหราชอาณาจักรที่ยืนยันการตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิต-19 ขณะที่อีกหนึ่งแห่งพบผู้ต้องสงสัยหลายรายโดยมากกว่า 510 ราย ในนี้เป็นนักศึกษาและเจ้าหน้าที่ที่กลับมายังสถานศึกษานับตั้งแต่มหาวิทยาลัยเปิดให้บริการอีกครั้ง
ด้านรัฐบาลสหราชอาณาจักรประกาศเมื่อวันศุกร์ (25 ก.ย.) ว่าจะมีคำสั่งล็อกดาวน์ในระดับท้องถิ่นของเมืองต่างๆ มากขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการควบคุมผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตัวเลขทางการที่เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ ระบุว่าสหราชอณาจักรมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอีก 6,874 ราย ซึ่งเป็นยอดการเพิ่มรายวันที่สูงทีสุด นับตั้งแต่เกิตการระบาดของโรคนี้ในประเทศ
โดยจำนวนผู้ติดเชื้อโควิต-19 ในสหราชอาณาจักรรวมอยู่ที่ 423,236 ราย เสียชีวิตเพราะโรคนี้แล้ว 41,936 ราย หลังพบผู้เสียชีวิตรายใหม่ 34 รายขณะที่หลายประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร จีน รัสเซีย และสหรัฐอเมริกา ล้วนกำลังแข่งกับเวลาเพื่อพัฒนาวัคซีนป้องกันโคโคต-19
แพทริก วัลแลนซ์ หัวหน้าที่ปรึกษาตำนวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลสหราชอาณาจักร กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ในช่วงปลายปีนี้อาจมีวัคซีนบางชนิดเริ่มวางจำหน่ายในปริมาณน้อย และแม้ว่าจะยังไม่มีการรับประกัน แต่ก็มีแนวโน้มว่าวัคซีนนั้นจะมีจำหน่วยในช่วงต้นปีหน้า
ที่มา : สำนักข่าวซินหัว