FDA ไฟเขียว "ไฟเซอร์ อิงค์ - BioNTech" ได้ fast track ผลิตวัคซีนต้านโควิด  

13 ก.ค. 2563 | 12:52 น.

"ไฟเซอร์ อิงค์ - BioNTech "  2 บริษัทยารายใหญ่ของโลกได้ "fast track"  จาก FDA ผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19   ขณะที่มหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ในออสเตรเลีย เริ่มทดลองวัคซีนในคนแล้ว 

         
"ไฟเซอร์ อิงค์" ซึ่งเป็นบริษัทยาใหญ่ที่สุดของสหรัฐ และ BioNTech ซึ่งเป็นบริษัทยาของเยอรมนี ออกแถลงการณ์ในวันนี้ ระบุว่า ทั้งสองบริษัทได้รับสถานะ "fast track" จากสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ในการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ซึ่งจะทำให้ทางบริษัทได้รับการผ่อนคลายกฎระเบียบจาก FDA และส่งผลให้การพัฒนาวัคซีนเป็นไปอย่างรวดเร็วมากขึ้น
         

ขณะนี้ วัคซีน BNT162b1 และ BNT162b2 ถือเป็นวัคซีน 2 ตัวที่มีความคืบหน้ามากที่สุดของไฟเซอร์ และ BioNTech จากทั้งหมด 4 ตัว

 

ไฟเซอร์ และ BioNTech เปิดเผยว่า หากวัคซีนดังกล่าวได้รับการอนุมัติจาก FDA ทางบริษัทจะสามารถผลิตวัคซีนจำนวน 100 ล้านโดสภายในสิ้นปีนี้ และมากกว่า 1.2 พันล้านโดสภายในสิ้นปีหน้า

 

นอกจากนี้ ไฟเซอร์ และ BioNTech เตรียมทำการทดลองกับอาสาสมัครจำนวน 30,000 รายภายในเดือนนี้ หากได้รับการอนุมัติจาก FDA

 

ก่อนหน้านี้ บริษัท Gilead Sciences Inc ซึ่งเป็นผู้ผลิตยาของสหรัฐ เปิดเผยว่า ผลการทดลองพบว่า ยา remdesivir สามารถลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยโควิด-19 ได้ถึง 62% เมื่อเทียบกับการรักษาด้วยวิธีมาตรฐาน

 

ขณะนี้ ยา remdesivir ได้รับการยอมรับในหลายประเทศ โดยรัฐบาลสิงคโปร์ ญี่ปุ่นและอินเดีย ต่างก็ให้การอนุมัติการใช้ยา remdesivir ในการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรง

 

 

 

ด้านสำนักข่าวซินหัวรายงานว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ในออสเตรเลีย ได้เริ่มต้นการทดลองในมนุษย์แล้ว โดยการทดลองระยะที่ 1 จะครอบคลุมอาสาสมัครอายุ 18-55 ปี ประมาณ 120 คน
         

ศาสตราจารย์พอล ยัง ผู้นำร่วมของโครงการพัฒนาวัคซีน เปิดเผยว่า จากการทดลองก่อนหน้านี้พบว่า วัคซีนตัวนี้ช่วยกระตุ้นแอนติบอดีหรือโปรตีนภูมิคุ้มกันที่สามารถลบล้างฤทธิ์ของไวรัสได้ และผลการทดลองเบื้องต้นชี้ว่ามีความปลอดภัยต่อมนุษย์
         

สำหรับการทดลองระยะที่ 1 ในมนุษย์ จะทราบผลในอีกราว 3 เดือนข้างหน้า และพร้อมเดินหน้าสู่การทดลองขั้นต่อไปโดยเร็วที่สุด โดยการทดลองขั้นต่อไปจะเป็นการทดลองในกลุ่มใหญ่ขึ้น และมีผู้เข้าร่วมการทดลองหลากหลายช่วงอายุ เพื่อให้มั่นใจว่าวัคซีนใช้ได้ผลกับคนทุกกลุ่ม
         

ศาสตราจารย์เทรนต์ มุนโร ผู้อำนวยการโครงการพัฒนาวัคซีน กล่าวว่า หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน บริษัท ซีเอสแอล (CSL) ผู้นำด้านชีวเวชภัณฑ์ของออสเตรเลีย จะเดินหน้าผลิตวัคซีนจำนวนหลายสิบล้านโดสอย่างรวดเร็ว และผลักดันโครงการสู่การทดลองทางคลินิกขั้นสุดท้าย การอนุมัติโดยหน่วยงานที่รับผิดชอบ การผลิตในปริมาณมาก ไปจนถึงการแจกจ่าย