"เกาหลีเหนือ" ลั่นพร้อมส่งทหารเข้าเขตปลอดอาวุธ

16 มิ.ย. 2563 | 23:40 น.

ข่าวเศรษฐกิจ อัพเดทข่าววันนี้ ราคาทอง น้ำมัน ข่าวตลาดหุ้น การเงิน ธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ การตลาด เจาะลึกแบบตรงประเด็น | ฐานเศรษฐกิจ

สำนักข่าว KCNA สื่อของรัฐบาลเปียงยาง รายงานยืนยันวานนี้ (16 มิ.ย.) ว่า ศูนย์ประสานงานร่วมระหว่างเกาหลีเหนือเกาหลีใต้ ในเขตนิคมอุตสาหกรรมแกซองถูกทำลายด้วย “แรงระเบิดอันเกรียงไกร” อย่างไม่เหลือซาก ขณะที่ทางการ เกาหลีเหนือ ออกแถลงการณ์ในวันเดียวกันว่า จะส่งกองทัพเข้าประจำการบริเวณพรมแดนซึ่งเป็นเขตปลอดอาวุธระหว่าง 2 ชาติตามข้อตกลงที่เคยทำร่วมกันอีกด้วย

ภาพจากคลิปแสดงให้เห็นกลุ่มควันที่พวยพุ่งขึ้นจากการระเบิดอาคารศูนย์ประสานงานร่วมสองเกาหลีในเขตนิคมฯแกซองเมื่อบ่ายวันที่ 16 มิ.ย.2563 (ภาพจากสำนักข่าวยอนฮัป/รอยเตอร์/นิวยอร์คไทม์)

สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลียังทวีความตึงเครียดหลังจากที่ เกาหลีเหนือ ได้ระเบิดอาคารศูนย์ประสานงานร่วมระหว่างเกาหลีเหนือ-ใต้ ในเขตนิคมอุตสาหกรรมแกซอง ซึ่งตั้งอยู่ในดินแดนของเกาหลีเหนือเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (14.49 น. ตามเวลาท้องถิ่น) ตามคำขู่ของ นางคิม โย จอง น้องสาวผู้ทรงอำนาจของนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ที่ประกาศเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ตัวแทนฝ่ายความมั่นคงเกาหลีใต้ ได้ออกมาเคลื่อนไหวว่า เกาหลีใต้เองก็พร้อมจะตอบโต้หากเกาหลีเหนือยกระดับความรุนแรงบริเวณพรมแดน

“คิม โย จอง” น้องสาว “คิม จอง อึน” กร้าวประกาศแตกหัก "เกาหลีใต้"

ทหารเกาหลีใต้ซ้อมรบใกล้เขตปลอดอาวุธในเมืองปาจู ฝั่งเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.2563

หอสังเกตุการณ์ของทหารในฝั่งเกาหลีเหนือที่มองเห็นได้จากเมืองปาจู ชายแดนเกาหลีใต้

ด้านกระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ ซึ่งกำกับดูแลความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลี ได้ออกมาแถลงว่าการระเบิดศูนย์ประสานงานร่วมในนิคมแกซอง ถือเป็นการกระทำที่ไร้เหตุผล

 

นายคริสโตเฟอร์ ฮิลล์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก และเป็นอดีตหัวหน้าคณะผู้แทนสหรัฐในการเจรจายุติปัญหานิวเคลียร์ในเกาหลีเหนือ ให้ความเห็นต่อกรณีพฤติกรรมข่มขู่คุกคามของเกาหลีเหนือที่มีต่อเกาหลีใต้ในระยะหลังนี้ น่าจะมีเป้าหมายต้องการทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกาและขยายช่องห่างความสัมพันธ์ระหว่างสองพันธมิตรดังกล่าว ซึ่งในระยะหลังเขาเห็นว่า เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีนัก และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐก็ออกมาเรียกร้องให้เกาหลีใต้จ่ายเงินบำรุงให้มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่สำหรับการรักษากองกำลังของสหรัฐเอาไว้ในเกาหลีใต้ โดยรายงานระบุว่าปัจจุบันมีทหารอเมริกันประจำการอยู่ในเกาหลีใต้ประมาณ 28,500 นาย

 

อย่างไรก็ตามฮิลล์ไม่เชื่อว่าเกาหลีเหนือจะทำตามคำขู่จริงที่ว่าพร้อมจะใช้ปฏิบัติการทางทหารกับเกาหลีใต้  “ผมเชื่อว่าการกระทำของเกาหลีเหนือเป็นการเดินหมากทางการเมืองที่ต้องการทำให้รัฐบาลเกาหลีใต้เสียหน้ามากกว่า และขณะเดียวกันก็พยายามที่จะทำให้ช่องว่างระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐขยายห่างจากกันมากยิ่งขึ้น”

 

ความตึงเครียดระหว่างสองเกาหลีที่เพิ่มมากขึ้นนี้เกิดขึ้นท่ามกลางสถานภาพความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือที่ไม่มีอะไรคืบหน้าเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเจรจาเพื่อให้เกาหลีเหนือปลดอาวุธนิวเคลียร์หลังจากที่ผู้นำของทั้งสองประเทศ คือประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายคิม จอง อึน ได้พบกันแล้วถึง 3 ครั้ง แต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้ามากนัก โดยทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถตกลงกันได้ว่าจะปลดอาวุธถึงระดับไหนและมีขั้นตอนอย่างไร และยังไม่มีข้อตกลงใด ๆ เกี่ยวกับการลดหรือยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรที่สหรัฐมีต่อเกาหลีเหนือ  ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์เกาหลีเหนือ-ใต้ส่วนหนึ่งยังมองว่า ความเดือดดาลของเกาหลีเหนือในระยะหลังนี้ ไม่ได้มาจากเรื่องที่เกาหลีใต้ปล่อยให้นักเคลื่อนไหวซึ่งเป็นผู้แปรพักตร์จากเกาหลีเหนือออกมาโปรยใบปลิวโจมตีผู้นำเกาหลีเหนือบริเวณตะเข็บขายแดนของทั้งสองประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นความไม่พอใจที่มีต้นเหตุมาจากการที่รัฐบาลเกาหลีใต้ไม่สามารถฟื้นโครงการความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับเกาหลีเหนือตามที่เคยรับปากกันไว้เนื่องจากติดขัดมาตรการคว่ำบาตรของฝ่ายสหรัฐนั่นเอง

ผู้นำเกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ และสหรัฐอเมริกา พบกันครั้งประวัติศาสตร์บริเวณชายแดนเกาหลีเหนือ-ใต้ เมื่อปีที่ผ่านมา (2562)

การระเบิดทำลายศูนย์ประสานงานร่วมเกาหลี ถือเป็นความเสียหายครั้งใหญ่ของรัฐบาลเกาหลีใต้ เพราะเป็นการเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์ที่ชัดเจนจากฝั่งเกาหลีเหนือ หลังจากที่สำนักงานแห่งนี้ไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ มาร่วมหลายเดือน และเจ้าหน้าที่ชาวเกาหลีใต้ที่ประจำการอยู่ในศูนย์ประสานงานที่นิคมอุตสาหกรรมแกซองต่างก็เดินทางกลับเกาหลีใต้ตั้งแต่เดือนมกราคมเนื่องจากวิกฤตโควิด-19 นอกจากนี้ ยังเป็นการทำลายความหวังของสหรัฐในความพยายามที่จะทำให้เกาหลีเหนือยอมปลดอาวุธนิวเคลียร์ในอนาคต

 

ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ มีกำหนดบินด่วนไปรัฐฮาวายในวันนี้ (17 มิ.ย.) เพื่อหารือกับทางการจีน ซึ่งคาดว่าจะมีการนำประเด็นความบาดหมางของ 2 เกาหลีมาหารือด้วย

ข้อมูลอ้างอิงN. Korea's military threatens to reenter disarmed border areas