สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทางการจีนได้นำเข้าน้ำมันเข้าคลังน้ำมันเป็นจำนวนมาก เพื่อสร้างความได้เปรียบจากการที่ราคาน้ำมันตกต่ำทั่วโลก อันเป็นผลจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 และสงครามราคาน้ำมัน
รายงานข่าวระบุว่า จีนนำเข้าน้ำมันเพิ่มขึ้น 4.5% ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และเมื่อรวมทั้งไตรมาสแรกแล้ว จีนนำเข้าเพิ่มขึ้น 5% โดยจีนซื้อน้ำมันเพิ่มขึ้น แม้ขณะนั้นจีนได้สั่งปิดเมืองเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส ขณะที่ความต้องการน้ำมันในจีนก็ปรับตัวลดลง
ด้านคณะกรรมการฝ่ายการเมืองและกฎหมายประจำพรรคคอมมิวนิสต์จีน เปิดเผยผ่านบัญชีโซเชียลมีเดียว่า ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงนั้นเป็นผลดีต่อจีน โดยแม้กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันจะได้รับผลกระทบ แต่ในอีกทางหนึ่ง ผู้ผลิตสารเคมี โรงงาน และผู้ขับขี่ชาวจีน ก็ได้รับประโยชน์จากส่วนนี้
ทั้งนี้ จีนไม่ได้เป็นประเทศเดียวที่ตุนน้ำมันในช่วงที่ราคาน้ำมันตกต่ำ โดยก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ เปิดเผยว่า ทางการสหรัฐมีแผนที่จะเพิ่มปริมาณน้ำมันเข้าคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) มากถึง 75 ล้านบาร์เรล หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบทรุดตัวลงสู่ระดับติดลบเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ในคืนก่อนหน้านั้น
ปธน.ทรัมป์ ให้เหตุผลในการพิจารณาซื้อน้ำมันเพิ่มเติมว่าเป็นเพราะราคาน้ำมันทรุดตัวลงอย่างหนัก และเมื่อซื้อน้ำมันเข้าคลังเพิ่มขึ้นแล้ว แล้วก็จะทำให้ปริมาณน้ำมันในคลังสำรอง SPR ปรับตัวสูงขึ้น ตามวัตถุประสงค์ของทางรัฐบาล
ปธน.ทรัมป์ เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันที่ติดลบนั้นเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว โดยตนต้องการให้สภาคองเกรสอนุมัติแผนการดังกล่าว เนื่องจากขณะนี้เป็นเวลาที่สมควรซื้อน้ำมัน