นายกฯเผย"ในหลวง" ทรงห่วงคนไทย-คนจีนในฐานะมิตรประเทศ

03 ก.พ. 2563 | 12:12 น.

นายกรัฐมนตรี เผย "ในหลวง" ทรงห่วงคนไทย-คนจีนในฐานะมิตรประเทศ ในสถานการณ์ไวรัสโคโรนา

ที่ทำเนียบรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมกล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมสรุปสถานการณ์ไวรัสโคโรนาว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยประชาชนคนไทยและคนจีนในฐานะมิตรประเทศด้วยซึ่งหลังจากนี้ก็จะรับทราบว่าเราจะดำเนินการอย่างไรต่อไปผ่านทางกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงสาธารณสุข

 

นายกฯกล่าวอีกว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องดูแลคนไทยและคนต่างประเทศที่มาอยู่ในเมืองไทยสิ่งสำคัญที่ตามมาคือถ้าเราตื่นตระหนกมากเกินไปแล้วเราจะแก้ปัญหาไม่ได้มันจะยิ่งทำให้ตื่นตระหนกมากขึ้นเรื่อยๆดังนั้นเราจะไม่ปิดบังวันนี้ก็เปิดเผยทั้งหมดว่ามีกี่รายและวันนี้ก็ยังไม่ถึงขั้นที่มีผู้เสียชีวิตสามารถคัดกรองและควบคุมได้เพื่อรักษาพยาบาลและมีการรักษาหายไปแล้วในประเทศไทยดังนั้นอย่าไปสร้างความตื่นตระหนกโดยที่ทั้งเจตนาและไม่เจตนาฝากไว้ด้วยก็แล้วกันในเรื่องไวรัสโคโรนา

นายกฯเผย"ในหลวง" ทรงห่วงคนไทย-คนจีนในฐานะมิตรประเทศ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่าทั้งนี้ขอให้รับฟังแถลงการณ์และการให้ข่าวของคณะกรรมการที่แก้ปัญหาเหล่านี้รวมถึงคำแนะนำทางการแพทย์การป้องกันตัวเองและการใช้หน้ากากซึ่งขณะนี้มีการบิดเบือนว่าหน้ากากมีราคาแพงโดยมีการรายงานมายังกระทรวงพาณิชย์และได้มีการไปตรวจสอบพบว่าไม่ได้มีราคาแพงจนเกินไปส่วนหนึ่งรัฐบาลก็ยินดีที่จะแจกและที่แจกไปแล้วก็ต้องคำนึงว่าไปทิ้งที่ไหนด้วยเพราะหน้ากากที่ใช้ไปแล้วหากไปทิ้งเรื่อยเปื่อยก็ไม่รู้ว่าติดเชื้อใครมาบ้างดังนั้นต้องมีมาตรการที่เหมาะสมในการกำจัดหน้ากากจึงขอให้ระมัดระวังโดยเฉพาะผู้ที่เก็บขยะอีกทั้งย้ำว่ากระทรวงสาธารณสุขได้ติดตามสถานการณ์ตลอด24 ชั่วโมงโดยขอความร่วมมือจากสถานที่เอกชนพื้นที่สาธารณะและแหล่งท่องเที่ยวให้มีการรณรงค์การใส่หน้ากากและแจกหน้ากากกับผู้ที่มีความเสี่ยงถ้าทุกคนรู้ว่าอันตรายโดยเฉพาะผู้ที่เป็นไข้ต้องพบแพทย์ก่อนเพื่อคัดกรองซึ่งโรคนี้มีระยะฟักตัว14 วันรวมถึงผู้ที่จะรับกลับมาก็ต้องมีการกักตัว14 วันเช่นกันดังนั้นการจะไปรับกลับมาก็ต้องผ่านการคัดกรองจากจีนว่าติดเชื้อหรือไม่ถึงจะรับกลับมาได้และเมื่อกลับมาก็ต้องคัดกรองที่นี่อีกเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเข้าใจตรงนี้รัฐบาลไม่สามารถปล่อยตรงนี้ไปได้ไม่ใช่กลับมาแล้วสามารถปล่อยไปได้เลย

 

 

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่าวันนี้เป็นการหารือในประเด็นสำคัญโดยในนามนายกฯและหัวหน้ารัฐบาลจำเป็นต้องขับเคลื่อนในขณะนี้ซึ่งสถานการณ์ยังไม่ถึงขั้นที่นายกฯต้องใช้อำนาจอย่างเต็มรูปแบบซึ่งอยู่ในระดับที่1-2 เป็นเรื่องการป้องกันการแพร่กระจายภายในประเทศของเรามาตรการตั้งรับเตรียมการรับกลับและเตรียมการในเรื่องการรักษาพยาบาลเพื่อป้องกันการแพร่ไปสู่ระดับ3  ซึ่งจะอันตรายในการแพร่ระบาดในประเทศของเราโดยถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่เราสามารถรับมือกันได้ดีพอสมควรและได้รับคำชมเชยจากต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศต้นทางและหลายประเทศแม้กระทั่งทูตต่างๆที่มาพบก็อยากใช้ประสบการณ์ของไทยในการขับเคลื่อนป้องกันและแก้ไขโรคอุบัติใหม่เราเป็นประเทศที่เป็นอับดับ6 ของโลกในประเทศที่รับมือกับโรคอุบัติใหม่ได้เป็นอย่างดีในช่วงที่ผ่านมา 

 

นายกฯกล่าวอีกว่าข้อสำคัญที่สุดคือเราต้องไม่ตื่นตระหนกและดูแลตัวเองให้มากที่สุดเพราะรัฐบาลก็จะดูแลในภาพรวมในที่สาธารณะในพื้นที่ชุมชนและพื้นที่ท่องเที่ยวรวมถึงมาตรการคัดกรองต่างๆตามสนามบินตามช่องทางด่านตรวจและจุดสกัดต่างๆตามแนวชายแดนโดยเป็นความร่วมมือทั้งพลเรือนตำรวจและทหารในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นรวมทั้งทางช่องทางธรรมชาติทั้งหมด

 

 

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่าขณะเดียวกันตนได้ย้ำเตือนในที่ประชุมไปหมดแล้วในการป้องกันไวรัสโคโรนาสิ่งสำคัญที่สุดที่อันตรายกว่าโรคนี้คือโรคตื่นตระหนกดังนั้นการเสนอข่าวต่างๆขอให้เสนอด้วยความระมัดระวังโดยให้เครดิตเจ้าหน้าที่บ้างไม่เช่นนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะไม่มีกำลังใจในการทำงานซึ่งวันนี้ต้องชมเชยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและทุกหน่วยงานที่พยายามแก้ปัญหาอย่างหนักพร้อมการทำงาน24 ชั่วโมงนอกจากนี้ในเรื่องการไปดูแลคนกลับจากต่างประเทศขณะนี้เราเตรียมการพร้อมแล้วเมื่อเรียบร้อยเมื่อไหร่ก็คงรับทราบกันยืนยันว่าเราไม่นิ่งนอนใจและถือเป็นมาตรการระหว่างประเทศขณะเดียวกันเรามีมาตรการเสนอความช่วยเหลือไปยังประเทศต้นทางไปแล้ว

 

   "น่าเสียใจที่หลายอย่างมีคนบางคนคนบางกลุ่มพยายามขับเคลื่อนทางการเมืองในเรื่องเหล่านี้ไม่เป็นประโยชน์กับประเทศเลยไม่ว่าจะทำเพื่อไม่ชอบผมหรืออะไรก็แล้วแต่ซึ่งต่างประเทศก็มีมาตรการไม่แตกต่างกันหลายอย่างเราทำได้ดีกว่าด้วยซ้ำดังนั้นเราควรมั่นใจเจ้าหน้าที่ของเราทุกอย่างไม่พ้นสติปัญญาของมนุษย์ไปได้เพราะทุกเรื่องปัญหาเกิดจากมนุษย์ทั้งสิ้นดังนั้นมนุษย์ต้องเป็นคนแก้ไขปัญหาเหล่านี้เราต้องชื่นชมให้กำลังใจแพทย์สาธารณสุขรวมถึงเจ้าหน้าที่ต่างๆที่ทำงานไม่ได้หลับได้นอนนอกจากนี้รัฐบาลจีนก็ขอบคุณไทยที่มีมาตรการที่มีประสิทธิภาพวันนี้เราก็ต้องดูแลเพื่อนบ้านด้วยรอบบ้านก็เป็นห่วงเป็นใยคนของเขาเหมือนกันวันนี้เราจึงต้องเตรียมว่าถ้าหลังจากเหตุการณ์ยุติแล้วจะมีการประชุมเรื่องนี้อีกหรือไม่เหมือนที่เราเคยจัดประชุมช่วงโรคตซาร์สและโรคไข้หวัดนกแบบที่ผ่านมาเพราะเราเป็นผู้นำเรื่องการป้องกันโรคอุบัติใหม่"นายกฯกล่าว

 

   นายกฯกล่าวอีกว่าสิ่งต่างๆต้องเข้มงวดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งสถานการณ์เปลี่ยนแปลงตลอด24 ชั่วโมงหากเมื่อไหร่ก็ตามีความรุนแรงเกิดขึ้นก็ต้องมีมาตรการที่เข้มขึ้นแม้เราก็ไม่ได้คาดหวังว่ามันจะแรงขึ้นแต่ก็ต้องเตรียมการไว้ซึ่งรัฐบาลต้องทำเช่นนี้ทำแบบอื่นไม่ได้อยู่แล้ว