นับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นมา “เวอร์มอนท์” (Vermont) เป็นรัฐแรกของสหรัฐอเมริกา ที่ ห้ามประชาชนทิ้งขยะอาหาร ซึ่งรวมถึงเศษผักผลไม้ และอาหารที่เหลือจากการบริโภค ลงในถังขยะสาธารณะ นั่นหมายถึงครัวเรือนทั่วไปรวมถึงบริษัทเอกชน ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ จะต้องเก็บขยะอาหารของตัวเองไปฝังกลบในที่ดินของตัวเองหรือทำ ปุ๋ยอินทรีย์ บำรุงดินและพืชผักเอาไว้ใช้
กรณีดังกล่าวนับเป็นตัวอย่างแรกของสหรัฐอเมริกา ที่รัฐบาลท้องถิ่นซึ่งเป็นรัฐบาลระดับมลรัฐ ได้ออกกฎหมายในลักษณะนี้มาบังคับใช้ โดยนิยามของ "ขยะอาหารและเศษอาหาร" ในที่นี้ ครอบคลุมตั้งแต่เศษผักผลไม้ เปลือกผลไม้ เปลือกไข่ ไล่ไปจนถึงเศษกระดูก กากชา-กาแฟ หญ้าและใบไม้ เหล่านี้เป็นสิ่งที่ห้ามนำไปถมหรือเทในบ่อขยะสาธารณะนับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.เป็นต้นมา
ในอดีต ขยะประเภทนี้ถูกทิ้งในถังขยะสาธารณะและไปจบลงในบ่อขยะของทางการหรือของเอกชนในสัดส่วนเกือบ 1 ใน 4 ของขยะทั้งหมดจากครัวเรือนของรัฐเวอร์มอนท์ นอกจากนี้ สถิติยังชี้ว่า มากกว่าครึ่งหนึ่งหรือกว่า 50% ของขยะต่างๆ ที่ออกมาจากร้านอาหารหรือโรงอาหารของโรงเรียนและออฟฟิศต่างๆ ก็คือขยะอาหารนั่นเอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขยะเหล่านี้เมื่อถูกนำไปเททิ้งในบ่อขยะมันก็จะย่อยสลายตามธรรมชาติและขณะเดียวกันก็จะก่อให้เกิดแก๊สมีเทนซึ่งเป็นหนึ่งในแก๊สเรือนกระจก แต่ถ้าหากนำมาฝังกลบในดินหรือนำมาหมักทำเป็นปุ๋ยอินทรีย์ ก็จะมีประโยชน์ในการช่วยบำรุงดินและเป็นปุ๋ยบำรุงพืชทำให้เจริญงอกงาม ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า นโยบายดังกล่าวนี้ เหมาะสมกับรัฐเวอร์มอนต์ที่โครงสร้างทางเศรษฐกิจตั้งอยู่บนพื้นฐานการเกษตร การทำปุ๋ยบำรุงพืชที่เป็นปุ๋ยอินทรีย์ ไม่ปนเปื้อนสารเคมี ก็ถือเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรอินทรีย์ที่เป็นมิตรต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมด้วย
กฎหมายใหม่ฉบับนี้มีชื่อว่า กฎหมายห้ามทิ้งขยะอาหาร (Food Scrap Ban) ทางการรัฐเวอร์มอนท์คาดหมายว่า การบังคับใช้กฎหมายจะช่วยให้เกิดการจ้างงานมากขึ้นในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการบริหารจัดการขยะ และทางการก็ขอให้ประชาชนร่วมมือปฏิบัติตามกฎหมายใหม่ด้วยความสมัครใจ
ทั้งนี้ ผลสำรวจพบว่า ก่อนการบังคับใช้กฎหมายใหม่ ชาวเวอร์มอนท์ 72% รู้จักนำขยะอาหารมาทำปุ๋ยบำรุงดินใช้เองในครัวเรือนอยู่แล้ว บ้างก็นำเศษอาหารเหลือไปเลี้ยงสัตว์ ส่วนมือใหม่หัดบริหารจัดการขยะ แต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร ก็มีการจัดทำเว็บไซต์เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชน สามารถเข้าไปหาข้อมูลได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ
นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 หน้า 23 ฉบับที่ 3,591 วันที่ 12 - 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2563
ข้อมูลอ้างอิง
Vermont Food Scrap Ban requires residents, businesses to compost