ชง 5 ข้อเสนอ "ทางรอด กทม." ถึงรัฐบาล

25 มิ.ย. 2564 | 11:00 น.

“อริย์ธัช ชาติอาริยะพงศ์”จาก​พรรคกล้า​ ชง 5 ข้อเสนอ "ทางรอดกรุงเทพฯ" ถึงรัฐบาล

วันนี้(25 มิ.ย.)นาย​อริย์ธัช​ ชาติอาริยะพงศ์​ ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขตสวนหลวง พรรคกล้า​ กล่าวถึงสถานการณ์ในกรุงเทพมหานครขณะนี้ว่า หลายโรงพยาบาลในกรุงเทพมหานครเริ่มประกาศงดคัดกรองโควิด เนื่องจากหากเจอก็ต้องรับแต่เวลานี้ไม่มีเตียงเหลือพอสำหรับรับคนไข้อีกแล้ว หากจะรับได้ก็คงเป็นเฉพาะกรณีฉุกเฉินเท่านั้น

พูดง่ายๆก็คืออาการหนักแล้วจึงจะรับ ที่หนักหนาสาหัสกว่านั้นคือเริ่มมีข่าวว่าบางโรงพยาบาลอยู่ในภาวะวิกฤตระดับสูงที่อาจถึงเวลาต้องตัดสินใจเลือกว่าจะให้ใครอยู่หรือไป เนื่องจากไอซียูกำลังปริ่มจนใกล้ล้นทะลักเต็มทีแล้ว ส่วนที่โรงพยาบาลสนาม เวลานี้ก็เจอสถานการณ์แทบไม่ต่างกัน กระทั่งว่าถึงตรวจเจอเคสตอนนี้ก็ยากเหลือเกินที่จะส่งต่อผู้ป่วยไปไหนได้ สถานการณ์แบบนี้เรียกว่าด่านหน้าเหนื่อยล้าเต็มทีแล้ว​จากปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเฉพาะหน้าหรืออนาคต

“ผมมีความเห็นว่ารัฐบาลและ กทม.ต้องออกมาตราการเชิงรุกเป็นประกาศฉุกเฉินได้แล้ว​ เราไม่มีต้นทุนมากพอที่จะปล่อยให้เหตุการณ์ลุกลามบานปลายไปมากกว่านี้​ ผมจึงขอเสนอ​ 5 ข้อเพื่อทางรอดของ กทม.และประเทศในขณะนี้​ คือ 

)นาย​อริย์ธัช​ ชาติอาริยะพงศ์​ ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขตสวนหลวง พรรคกล้า​

1.เลิกสั่งซื้อวัคซีนชิโนแวค เพราะแนวโน้มหลายอย่างกำลังบ่งชี้ว่าเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่า ท่านควรจะหันมาทุ่มเทในการหาวัคซีนที่มีศักยภาพสูง วันนี้มีบทเรียนจากหลายประเทศให้เห็น​เช่นชิลี และมีบุคคลากรทางการแพทย์ที่จังหวัดเชียงราย​ที่ฉีดชิโนแวคครบ2เข็มแต่ยังคิดเชื้อ​

2.กรุงเทพมหานครและรัฐบาลต้องทำงานร่วมกันไม่แบ่งแยกและเลิกเล่นการเมืองบนสถานการณ์วิกฤตเช่นนี้​ จัดสรรวัคซีนให้เพียวพอ​ พร้อมลงฉีดเชิงรุกในพื้นที่สีแดง​ ตลอด​24ชม.

3.ถึงเวลาที่ต้องหาพื้นที่รองรับเพิ่มขึ้น ในกรณีนี้จะเป็นไปได้หรือไม่ที่กองทัพซึ่งมีพื้นที่มากและน่าจะมีอุปกรณ์ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้พอสมควร เข้าไปทำงานร่วมกับสาธารณสุขและเอกชน ในการปรับพื้นที่อันไพศาลของท่านให้กลายเป็นโรงพยาบาลสนามขนาดใหญ่เพื่อรองรับผู้ติดเชื้ิอในขณะนี้

4.ควรนำเทคโนโลยีแทรคเกอร์และแนวทางกักตัวเองที่บ้าน หรือ home isolation ในกรณีที่มีความพร้อมมาประยุกต์ใช้เพื่อลดความแออัดในสถานพยาบาล

5.ในอนาคตหากต้องล็อคดาวกรุงเทพฯ​ รัฐต้องเตรียมการช่วยเหลือเยียวยาอย่างถ้วนหน้าให้มากที่สุด และในภาคส่วนภาคธุรกิจ ควรอัดฉีดเม็ดเงินโดยตรงไปยังผู้ประกอบการ และผมยืนยันว่าต้องทำแบบนี้เท่านั้นจึงจะพอประคองสถานการณ์ให้ผ่านช่วงนี้ไปได้ทั้งในสาธารณสุขและเศรษฐกิจให้สมดุลกัน เพื่อรอจนกว่าจะมีวัคซีนที่มีประสิทธิภาพเข้ามาอย่างทั่วถึง เพราะวัคซีนเท่านั้นที่จะเป็นแสงสว่างที่แท้จริงสำหรับวิกฤติในครั้งนี้ได้”นายอริย์ธัช กล่าว

นาย​อริย์ธัช กล่าวต่อว่า ข้อเสนอทั้ง 5 ข้อ ตนไตร่ตรองบนพื้นฐานความจริงที่พี่น้องประสบในขณะนี้​ ขอความกรุณาให้รีบจัดการก่อนทุกอย่างจะช้าไปแล้วต้องมาแก้ปัญหาใหม่ทั้งหมดหมดอีกครั้ง​