‘ธรรมนัส’ผงาด!

“รอดตัว” และ “โล่งอก” ไปแล้ว สำหรับ  ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ส.ส.พะเยา และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)

เมื่อคำวินิจฉัยของ “ศาลรัฐธรรมนูญ” เมื่อวันที่ 5 พ.ค.2564 ออกมา เป็น “เอกฉันท์” ทำให้ไม่ต้องพ้นจากทั้งเก้าอี้ ส.ส. และ รัฐมนตรี

การที่ศาลออสเตรเลียได้มีคำพิพากษาจำคุกฐานนำเข้าและค้ายาเสพติด ไม่ได้มีผลทำให้เขาขาดคุณสมบัติการดำรงตำแหน่งทางการเมืองในปัจจุบันแต่อย่างใด 

เพราะ “ศาลรัฐธรรมนูญ” มองว่า อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นประมุขทรงใช้อำนาจนั้นทาง รัฐสภา ครม.และศาล 

อำนาจอธิปไตยคือ มีความเด็ดขาด สมบูรณ์ ไม่อยู่ในอาณัติ หรืออยู่ภายใต้อำนาจของรัฐอื่น 

หลักการปกครองของประเทศที่มีอำนาจอธิปไตยโดยสมบูรณ์ มีหลักการสำคัญคือ หลักการไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น และไม่ถูกประเทศอื่นแทรกแซงกิจการภายในของตน

การบังคับตามคำพิพากษาของศาลต่างประเทศก็ดี การตีความให้คำพิพากษาของศาลต่างประเทศมีสถานะทางกฎหมาย เช่นเดียวกับคำพิพากษาของศาลไทย จึงไม่สอดคล้องกับหลักการดังกล่าว

ตามหลักอธิปไตยของรัฐ ตามกฎหมายระหว่างประเทศ คำพิพากษาของศาลรัฐใดก็จะมีผลในดินแดนของรัฐนั้น

“แม้ข้อเท็จจริงในคดีฟังได้ว่า ร.อ.ธรรมนัส เคยต้องคำพิพากษาของศาลแขวงนิวเซาท์เวลส์ เครือรัฐออสเตรเลีย ก่อนลงสมัครส.ส. แต่มิใช่คำพิพากษาของศาลไทย จึงไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ” คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ระบุ

เมื่อ “ร.อ.ธรรมนัส” พ้นบ่วงกรรมที่ตามหลอกหลอนมานาน ต่อไปนี้อุปสรรคที่จะ “ขัดขวาง” การเจริญเติบโตในเส้นทางการเมือง ก็คงไม่มีมีอะไรมาสกัดกั้นเขาได้อีก  

ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมา “ร.อ.ธรรมนัส” มีบทบาทในพรรคพลังประชารัฐอย่างมาก การเลือกตั้งซ่อมเกือบทุกครั้งที่ผ่านมา เขาเป็นแม่ทัพแนวหน้า ลงพื้นที่ลำปาง ขอนแก่น นครศรีธรรมราช สู้ศึกเลือกซ่อมส.ส. จน “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค พปชร. มั่นใจว่าหากส่ง “ผู้กองมนัส” ลงคุมเกม ไม่ต้องกังวลว่าจะแพ้

อย่างล่าสุด ในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 3 ที่ต้องฟาดฟันกับเจ้าของพื้นที่เดิมอย่าง “ประชาธิปัตย์”  แต่ “ผู้กองมนัส” ก็สามารถช่วยให้ผู้สมัครของ พปชร.อย่าง “อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ” คว้าเก้าอี้ส.ส.มาได้

เมื่อผลงานของ “ร.อ.ธรรมนัส” เข้าตาจนสามารถเพิ่มที่นั่งส.ส.ภาคใต้ได้ ก็มีความพยายามของพรรคพลังประชารัฐ ในการเพิ่มบทบาทให้เขาเพื่อขยายฐานเสียงเพิ่มขึ้น ซึ่งเห็นได้จากคำสั่งของนายกรัฐมนตรีที่ 85/2564 เรื่องมอบหมายให้รัฐมนตรี รับผิดชอบแนวคิดการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับพื้นที่จังหวัด

“ร.อ.ธรรมนัส” ที่เดิมดูแลพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู พะเยา เชียงราย แต่เปลี่ยนมาเป็นดูแลพื้นที่จังหวัดสงขลา นครศรีธรรมราช และภูเก็ต ซึ่งถูกมองว่าเป็นการเตรียมขยายฐานเสียงเพื่อการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต 

อีกทั้งยังมีกระแสข่าวภายในพลังประชารัฐ ว่า ได้มอบหมายให้ ร.อ.ธรรมนัส ไปเป็นหัวหน้ากลุ่มดูแล 14 ส.ส.ภาคใต้ ที่เดิมยังกระจัดกระจาย และไม่มีหัวหน้ากลุ่มดูแลอย่างเป็นทางการ

อย่างไรก็ตาม คำสั่งแบ่งงานของนายกฯ ดังกล่าว สร้างความไม่พอใจให้กับ “ประชาธิปัตย์” จนเกิดการทักท้วง ในที่สุด “นายกฯ” ก็ต้องยอมเซ็นยกเลิกคำสั่งแบ่งงานดังกล่าว  

สำหรับ “ร.อ.ธรรมนัส” สิ่งที่น่าจับตาต่อไปนี้คือ ตำแหน่งเก้าอี้ “เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ” 

เมื่อ “พลังประชารัฐ” มีการประชุมใหญ่ประจำปี เพื่อเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรคเมื่อไหร่ ก็มีแนวโน้มสูงที่จะมีการเปลี่ยนมือจาก “เสี่ยแฮงค์-อนุชา นาคาศัย” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มาเป็น “ร.อ.ธรรมนัส” แทน

หลัง “ชนักติดหลัง” หลุด นาทีนี้  “ร.อ.ธรรมนัส” ก็เสมือนเสือติดปีก ต้องเร่งสร้าง “บารมี” ในพรรคเพิ่ม สร้างผลงานให้เข้าตาผู้ใหญ่ของพรรค 

ในการเลือกตั้งครั้งหน้า หากพลังประชารัฐประสบความสำเร็จ “เก้าอี้รัฐมนตรีว่าการ” จะหนีไปไหนเสีย...

พลิกปูม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
 

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เกิดเมื่อ 18 ส.ค.2508 ปัจจุบันอายุ 56 ปี ดำรงตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในรัฐบาล พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา 

ร.อ.ธรรมนัส สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 25 (รวมเหล่ารุ่นที่ 2) ปริญญาตรีวิทยาศาสตรบัณฑิต โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 36 รุ่นเดียวกับ พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม

ปริญญาโทพุทธศาสนมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (พระพุทธศาสนา) มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
 ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (รัฐศาสตร์) มหาวิทยาลัยรามคำแหง และปริญญาเอกปรัชญาดุษฎีบัณฑิต Doctor of Philosophy (รัฐประศาสนศาสตร์) California University FCE ประเทศสหรัฐอเมริกา

ก่อนหน้าที่จะเป็นนักการเมือง ร.อ.ธรรมนัส เคยเป็น ประธานกรรมการบริษัทในเครือธรรมนัสกรุ๊ป ดำเนินธุรกิจ บจก.รักษาความปลอดภัย ที.พี.การ์ด และ หจก.ขวัญฤดี ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลรายใหญ่

นอกจากนี้ ร.อ.ธรรมนัส ยังเคยเป็นประธานสโมสรฟุตบอลจังหวัดพะเยา

เส้นทางการเมือง ร.อ.ธรรมนัส เริ่มงานการเมืองกับพรรคไทยรักไทย เมื่อปี  2542 ต่อมาในปี  2557 ได้ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แต่การเลือกตั้งเป็นโมฆะ

ต่อมาเมื่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติเข้ายึดอำนาจ เขาเป็นหนึ่งในบุคคลที่ คสช. มีคำสั่งเรียกมารายงานตัว ก่อนที่ในปี 2561 ร.อ.ธรรมนัส ได้เข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ โดยได้รับแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการยุทธศาสตร์ภาคเหนือของพรรค และได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.พะเยา เขตที่ 1 

ด้านชีวิตส่วนตัว สมรสกับ นางอริสรา (หรือธนสร) พรหมเผ่า และใช้ชีวิตคู่ร่วมกับ ธนพร ศรีวิราช ข้าราชการการเมือง ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ นางสาวไทยประจำปี 2559 มีบุตร 7 คน 

ร.อ.ธรรมนัส เคยแจ้งทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. มีทรัพยสินรวม 866 ล้านบาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• “จรัญ”ยันคำวินิจฉัยศาลรธน.ปม”ธรรมนัส”ถูกต้องเห็นด้วย100%
• เปิดละเอียดเหตุผลศาลรธน.เอกฉันท์ ทำไม"ธรรมนัส"รอด ไม่พ้น ส.ส.-รมต.
• ด่วน! "ธรรมนัส"รอด ไม่สิ้นสภาพส.ส.-รมต.