“อ๊อด มิยาบิ” กับธุรกิจคนมีสี "คริสตัล-เอมเมอรัลด์ ทองหล่อ”

19 เม.ย. 2564 | 10:33 น.

รายงานพิเศษ : “อ๊อด มิยาบิ” กับธุรกิจคนมีสี "คริสตัล-เอมเมอรัลด์ ทองหล่อ

“คลัสเตอร์ทองหล่อ” โดยเฉพาะร้าน “คริสตัล-เอมเมอรัลด์” นอกจากจะเป็นต้นตอวิกฤตโควิด-19 ที่ทำให้ปั่นป่วนอีกระลอก โยงใยไปสู่พื้นที่ต่างๆ จนทำให้สถานการณ์โควิด 19 ในประเทศไทยมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสะสมพุ่งสูงขึ้น ก็ยังทำให้เห็นความเชื่อมโยงของธุรกิจสถานบันเทิงและวงการสีกากีชัดเจนขึ้น 

ล่าสุด วันที่ 19 เม.ย.64  พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล  กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับสถานบริการที่พบเป็นต้นเหตุการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ว่า ปัจจุบันในพื้นที่นครบาลมีการดำเนินคดีทั้งหมด 3 สถานที่ คือสถานบันเทิงคริสตัลคลับ เอมเมอรัลด์ และโรงแรมแกรนด์เซ็นเตอร์พ้อยท์ ทองหล่อ ซึ่งได้ประสานขอหลักฐานอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาพิจารณาอย่างละเอียด ก่อนจะดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องรายอื่นๆ รวมถึงผู้ถือหุ้น และผู้ที่ปรากฎข้อมูลว่าเป็นเจ้าของกิจการตามที่มีการเปิดเผยข้อมูลจากทางสื่อมวลชน

เฉพาะคริสตัลคลับและเอมเมอรัลด์ อยู่ระหว่างการตรวจสอบภาพจากวงจรปิด หลังจากที่มีการตรวจยึดเซิร์ฟเวอร์ของสถานบันเทิงดังกล่าวไปแล้ว จะงานแท้หรืองานลุ้นก็ต้องดูว่าจะสามารถกู้ภาพในวันเกิดเหตุได้หรือไม่ 

ส่วนการตั้งคณะกรรมการสอบสวนตำรวจ สน.ทองหล่อ มีการเรียกสอบปากคำพยานไปแล้วบางส่วน แต่ยังไม่สามารถสรุปข้อเท็จจริงได้ เพราะต้องรอผลพิจารณาคดีทางอาญาจากการตรวจสอบพยานหลักฐานเพิ่มเติม

สิ่งที่ฉายภาพของธุรกิจสถานบันเทิงและวงการสีกากีชัดขึ้นก็คงเป็นเพราะ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เจ้าของสถานบันเทิงหลายแห่ง และ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับตำรวจสันติบาล ออกมาเปิดเผยเบื้องลึกของอาณาจักร สาวไปจนถึงร้านอาหารญี่ปุ่น “มิยาบิ คัปโปะ”ตั้งอยู่ละแวกเดียวกัน โดยปรากฎชื่อ “อ๊อด มิยาบิ” 

ข้อมูลที่ฐานเศรษฐกิจตรวจเคยตรวจสอบจาก กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า ทั้ง บริษัท กินซ่า เอ แอนด์ ที จำกัด  บริษัท คริสตัล เคแอนด์เค จำกัด และบริษัท เอมเมอรัลกรุ๊ป จำกัด ปรากฎว่ามีชื่อ นายเกียรติพงษ์ คำต่าย เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ทั้ง 3 บริษัท ที่ว่ากันว่าก็คือ  “อ๊อด มิยาบิ” ผู้ที่กว้างขวาง มีลูกค้าระดับวีวีไอพี นักการเมือง ข้าราชการ ระดับที่เรียกว่า “บิ๊ก” ทั้งวงการสีเขียว สีกากี ต้องแวะเวียนมาใช้บริการกันทั้งนั้น นี่จึงไม่แปลกหรือไม่ที่เขาจะมีแบ็คดีคอยหนุนหลัง 

สอดคล้องกับการพบความเชื่อมโยงผู้ถือหุ้นในบริษัทต่างๆ โดยเฉพาะ “บริษัทกินซ่า เอ แอนด์ ที จำกัด” ซึ่งมีนายเกียรติพงษ์ คำต่าย ถือหุ้นรายใหญ่  44% และผู้ถือหุ้นคนหนึ่งมีชื่อว่า “นายพันธนะ นุชนารถ” ถือหุ้นด้วย 15%  ถูกตรวจสอบภายหลังพบว่านายพันธนะ ก็คือ พลตำรวจตรีพันธนะ นุชนารถ ผู้บังคับการกองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือ “บิ๊กเม่น” โดยปฎิเสธว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับ “คริสตัลคลับ” ด้าน พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง  ก็ปฏิเสธเช่นกันว่านายตำรวจในสังกัด ไม่ได้พัวพันกับธุรกิจคริสตัลคลับ 

แต่ก็ยังมีเสียงวิพากวิจารณ์หนาหู เพราะบิ๊กเม่น เป็นนายร้อยตำรวจรุ่น 48 (นรต.48) ฝีมือดีโดยเฉพาะการกวาดล้างบ่อนพนันออนไลน์ และทำงานใกล้ชิด  “บิ๊กปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มีเส้นทางการทำงานแบบก้าวกระโดด

เมื่อมองกลับมาดูที่การตั้งข้อหาผู้จัดการร้านคริสตัลคลับ และเอเมอรัลด์ ทั้งสองร้านถูกฟ้องร้องในข้อหาการตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ผิด พ.ร.บ.สถานบริการ โดยไม่มีใบอนุญาตตามกฎหมาย มีเพียงใบอนุญาตคาราโอเกะเท่านั้น ซึ่งพนักงานสอบสวนมีความเห็นว่าใบอนุญาตคาราโอเกะไม่สามารถครอบคลุมได้ในสถานบริการนี้  จึงตั้งข้อหาว่าตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และอีก 2 ข้อหาคือ เป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ ผิด พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ

จนมีการย้าย พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 (ศปก.บก.น.5) จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเพื่อลดกระแสวิพากวิจารณ์การละเลยทำให้เกิดครัสเตอร์ใหม่ 

ผู้กำกับด้วง มีฉายาว่า “ราชบุตรเขย” เพราะเป็นลูกเขย “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และมีศักดิ์เป็นหลานเขย “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ   

จึงไม่แปลกที่จะไม่มีใครกล้าแตะสถานบันเทิงระดับไฮเอนด์เหล่านี้ แม้จะไม่มีใบอนุญาต เปิดเกินเวลา หรือที่ตั้งของติดกับสถานศึกษาหลายแห่ง รวมถึงโรงพยาบาลชื่อดังใจกลางกรุง

มีการตั้งข้อสังเกตว่าเครือข่ายแบ็กอัพที่สำคัญส่วนใหญ่เป็น “บิ๊กสีกากี” โดยที่มี อ๊อด มิยาบิ เป็นเพียงผู้บริหาร มีกลุ่มทุนระดับบิ๊กลงขันเพื่อแลกกับการดูแลธุรกิจเหล่านี้หรือไม่  

คำถามก็คือใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังที่เรียกกันว่า “บิ๊ก” ที่ว่ากันว่าเกี่ยวโยงกับการเป็นเจ้าของ และมีความสัมพันธ์กับนักการเมืองอีกด้วย  
เรื่องนี้ “บิ๊กปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ก็คงต้องออกมาทำอะไรซักอย่าง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนทีมีต่อภาพลักษณ์สำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ 
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

"สันธนะ"เปิดตัว"อ๊อด มิยาบิ"หุ้นใหญ่"คริสตัล-เอมเมอรัลด์"ต้นตอแพร่โควิด 

เปิด 7 ผู้ถือหุ้น “คริสตัลคลับ ทองหล่อ” คลัสเตอร์ใหม่โควิด-19

ผ่าอาณาจักร “คริสตัลคลับ” คลัสเตอร์ทองหล่อ "โควิดรอบ3"