"เลือกตั้งเทศบาล" 28 มี.ค.ตรวจสอบสิทธิที่นี่ พร้อมเปิดช่องทางแจ้งเหตุไม่ไปเลือกตั้ง

27 มี.ค. 2564 | 04:47 น.

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการ"เลือกตั้งเทศบาล" 28 มี.ค.นี้ ต้องมีคุณสมบัติอย่างไร วิธีการตรวจสอบสิทธิ ส่วนกรณีที่ไปเลือกตั้งไม่ได้สามารถแจ้งผ่านช่องทางไหนบ้าง และหากไม่ไปใช้สิทธิจะเสียสิทธิอะไรบ้าง เช็กได้ที่นี่

วันพรุ่งนี้ (อาทิตย์ 28 มีนาคม 2564) จะมีการเลือกตั้งเทศบาล หรือ เลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี ตั้งแต่เวลา 08.00 น. - 17.00 น. ณ หน่วยเลือกตั้งที่ตนเองมีชื่อ วันนี้ "ฐานเศรษฐกิจ" จึงได้รวบรวมข้อมูล ข้อควรรู้เกี่ยวกับการเลือกตั้งในครั้งนี้มานำเสนอ ประกอบไปด้วย 

คุณสมบัติผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
1.มีสัญชาติไทย แต่ถ้าแปลงสัญชาติ ต้องได้สัญชาติไทยมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี


2. มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ในวันเลือกตั้ง


3. มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้งมาแล้วเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง


4. คุณสมบัติอื่นตามที่กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนด

 

ลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้ง


1. เป็นภิกษุ สามเณร นักพรตหรือนักบวช


2. อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่ว่าคดีนั้นจะถึงที่สุดแล้วหรือไม่


3. ต้องคุมขังอยู่โดยหมายของศาลหรือโดยคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย


4. วิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ


5. มีลักษณะอื่นตามที่กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนด

 

การตรวจสอบสิทธิ์ในการเลือกตั้ง


-สามารถตรวจสอบสิทธิ์ในการเลือกตั้งผ่านช่องทางออนไลน์ โดยคลิกที่นี่ และกรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชนแล้วกดลงตรงคำว่าค้นหา ซึ่งจะปรากฎข้อมูลว่ามีสิทธิ์เลือกตั้งหรือไม่ ในเขต - หน่วย -สถานที่เลือกตั้ง รวมไปถึงลำดับที่ในบัญชีรายชื่อ 


-ตรวจสอบข้อมูลผ่านแอปพลิเคชัน Smart Vote ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยดาวน์โหลดใช้งานบนโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน ทั้งระบบแอนดรอยด์ (Android) และระบบไอโอเอส (iOS) ชื่อเมนู “ตรวจสอบหน่วยเลือกตั้งและสิทธิเลือกตั้ง” 


-ตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งได้จากหนังสือแจ้งรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ส่งไปยังเจ้าบ้าน

 

หลักฐานในการแสดงตนในการไปเลือกตั้ง
-บัตรประจำตัวประชาชน หรือ บัตรประจำตัวประชาชนที่หมดอายุก็ใช้ได้


-บัตรหรือหลักฐานอื่นใดของทางราชการหรือหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่าย และมีเลขประจำตัวประชาชน (จะต้องไม่หมดอายุ)เช่น บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่รัฐ,ใบขับขี่,หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต)

 

อย่างไรก็ตามหากผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่สามารถไปใช้สิทธิได้ สามารถแจ้งผ่านช่องทางดังนี้


-ระบบการแจ้งเหตุจำเป็นที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งทางอิเล็กทรอนิกส์ คลิกที่นี่ 
โดยมีข้อมูลที่จะต้องกรอก ดังนี้
1.เลขบัตรประจำตัวประชาชน
2.รหัสหลังบัตรประจำตัวประชาชน
3.ชื่อภาษาไทย (ไม่ต้องระบุคำนำหน้าชื่อ)
4.นามสกุลภาษาไทย
5.วันเดือนปีเกิดที่ปรากฏในบัตรประชาชน


-แจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งต่อนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่น โดยทำเป็นหนังสือตามแบบฟอร์มที่กำหนด ซึ่งต้องระบุเลขประจำตัวประชาชนและที่อยู่ตามหลักฐานทะเบียนบ้าน โดยมีระยะเวลาการยื่นเอกสาร ดังนี้
 - ภายใน 7 วัน ก่อนวันเลือกตั้ง (21 - 27 มีนาคม 2564) และ
 - ภายใน 7 วัน หลังวันเลือกตั้ง (29 มีนาคม - 4 เมษายน 2564) 

โดยยื่นได้ตนเอง หรือมอบหมายผู้อื่นยื่นแทนได้ หรือจัดส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน


-สามารถดาวน์โหลดหนังสือแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้ง คลิกที่นี่


-ตัวอย่างการกรอกข้อมูล หนังสือถึงสำนักทะเบียนอำเภอ คลิกที่นี่


 

ในกรณีที่ไม่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งและไม่แจ้งเหตุจำเป็นจะเสียสิทธิทางการเมือง หรือตัดสิทธิ  6 ข้อได้แก่ 


 1. เสียสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น หรือสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา


2. เสียสิทธิสมัครรับเลือกเป็นกำนันและผู้ใหญ่บ้าน

 

3. เสียสิทธิเข้าชื่อร้องขอให้ถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น


4. เสียสิทธิดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมืองและข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมือง


5. เสียสิทธิดำรงตำแหน่งรองผู้บริหารท้องถิ่น เลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยเลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ประธานที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น ที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น หรือคณะที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น


6. เสียสิทธิดำรงตำแหน่งเลขานุการประธานสภาท้องถิ่น ผู้ช่วยเลขานุการประธานสภาท้องถิ่น และ เลขานุการรองประธานสภาท้องถิ่น