เกาะติดความเคลื่อนไหวของ "ชุมนุมวันนี้" (18 พ.ย.63 ) โดยเครือข่าย "กลุ่มคณะราษฎร 2563” ได้นัดรวมพลกันที่ราชประสงค์ และมีแผนเคลื่อนขบวนไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งหลังจากที่ทราบว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะเคลื่อนขบวนมา จึงได้มีคำสั่งภายในให้ข้าราชการตำรวจทุกกองบัญชาการที่ปฏิบัติหน้าที่ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินทางกลับบ้านก่อนเวลาเลิกงานตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป
ขณะเดียวกัน ได้มีกองร้อยควบคุมฝูงชนเข้ามาประจำจุดในสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกลุ่มผู้ชุมนุมวันนี้ และประสานเจ้าหน้าที่จากหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดหรือ EOD และเจ้าหน้าที่กทม. เข้าดูแลพื้นที่ด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เกาะติด สถานการณ์การชุมนุม ม็อบคณะราษฎร 18 พ.ย.63
เปิดภาพ รถเสียหาย 35 คัน หลังเหตุม็อบชุมนุมแยกเกียกกาย
รับมือ“ม็อบราษฎร”จัดกำลัง 14 กองร้อยคุมเข้ม สตช.
ตำรวจ เตรียมพร้อมขั้นสูงสุด รับมือ ม็อบราษฎร
ม็อบคณะราษฎร ปักหลักแยกราชประสงค์ ตร.ลั่นห้ามเข้าสตช.เด็ดขาด
ม็อบคณะราษฎร เคลื่อนขบวน พ่นสีใส่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
นอกเหนือจากภาพของกองร้อยที่ได้เห็นในวันนี้แล้ว ยังมีภาพของรถฉีดน้ำ ซึ่งบนรถจะมีเครื่องส่งเสียง #LRAD Long Range Acoustic Device ที่ใช้ปราบจราจลได้ โดยเครื่องนี้ทำงานแบบไหน และจะมีวิธีการป้องกันตนเองจากเครื่องนี้อย่างไรบ้าง เพจ "ThaiArmedForce.com" ได้โพสต์ข้อความอธิบายโดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้
"รู้จักเครื่องส่งเสียง #LRAD อุปกรณ์ปราบจลาจลบนรถฉีดน้ำของตำรวจ"
สำหรับท่านที่เคยผ่านไปพบนั้น บนรถฉีดน้ำ #ปราบจลาจล เราจะพบอุปกรณ์รูปแปดเหลี่ยมแบน ๆ สีเทา ๆ ครับ อุปกรณ์นี้คือ Long Range Acoustic Device หรือเรียกย่อ ๆ ว่า LRAD ซึ่งเป็นอุปกรณ์ส่งคลื่นเสียงระยะไกล แท้จริงแล้วอุปกรณ์นี้ออกแบบมาสำหรับการสื่อสารด้วยเสียงระยะไกล แต่มันสามารถประยุกต์ใช้เป็นอุปกรณ์ความรุนแรงต่ำสำหรับงานปราบจลาจลได้ โดยเครื่องสามารถส่งคลื่นเสียงความถี่ราว 2.5 kHz เป็นกรวยออกไปทำมุม 30-60 องศาจากหน้ารถ
โดยผู้ควบคุมจะมีคันบังคับสำหรับเปลี่ยนทิศทางของคลื่นเสียงให้ไปยังเป้าหมายที่ต้องการ ซึ่งคลื่นเสียงที่ส่งออกมาอาจจะมีทั้งคำพูดของเจ้าหน้าที่สำหรับในแทนลำโพง สัญญาเตือน หรือไฟล์เสียงตามที่เจ้าหน้าที่จะเปิด
นอกจากนั้นผู้ผลิตยังมีเสียงเฉพาะที่ออกแบบมาให้ผู้ฟังเกิดอาการปวดหูและกระทบกับการได้ยินที่เราเรียกว่า Deterrent Tone โดยเสียงจะดังวี๊ด ๆ ๆ ๆ ๆ ถี่ ๆ ต่อเนื่องกันซึ่งจะสร้างความเจ็บปวดให้ที่ระบบการได้ยินและหูอื้อ
แต่เนื่องจากเป็นคลื่นความถี่สูงที่ต้องบีบมุมของคลื่นเสียง ทำให้ถ้าขยับออกมาพ้นแนวกรวยเสียง ก็จะสามารถลดอาการปวดหูลงได้บ้าง แต่ถ้ารับคลื่นเสียงเต็ม ๆ จนหูอื้อนั้น ก็สามารถนั่งพักราว ๆ 5 - 10 นาทีก็หายปวดหูได้แล้ว แต่ถ้าได้รับอย่างต่อเนื่องและนานพอก็อาจทำลายเยื่อแก้วหูหรือเซลล์ขนข้างในหูได้
วิธีป้องกันตนเองจากคลื่นเสียงนี้คือการใช้ที่ปิดหูหรือ Ear Plug หรือพวกที่ครอบหูหรือ Earmuff ต่าง ๆ ก็จะลดอาการปวดหูลงไปได้ อีกทั้งการเดินหลบมุมยิงคลื่นเสียงก็เป็นวิธีที่ได้ผลค่อนข้างมาก โดยมุมยิงคลื่นเสียงนั้นมีมุมราว 30 - 60 องศา ดังนั้นถ้าหลบออกมาเยื้อง ๆ รถหรือข้างรถ ก็จะลดอาการปวดหูลงไปได้มากครับ