“ศรัณย์วุฒิ"แฉกลางสภานายกฯเอื้อเจ้าสัว10ล้านล้าน

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณญัตติอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ เมื่อเวลา 18.15 น. วันที่ 9 ก.ย.63 นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายการทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม

นายศรัณย์วุฒิ กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้การอภิปรายของตนเป็นความเศร้าใจของประเทศชาติและประชาชน ถึง 6 ปีเผด็จการที่สืบทอดอำนาจ มีการฉีกรัฐธรรมนูญและร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เพื่อจะสืบทอดอำนาจต่อโดยมีการกู้เงินมากที่สุดเป็นประวัติการ และยังมีการผลาญงบประมาณมากที่สุดกว่า 20 ล้านล้านบาท และยังมีกาเอื้อเจ้าสัวมากที่สุด และทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำมากที่สุด เพราะมีการโกงถึง 48% ทำให้เศรษฐกิจพังพินาศ มีคนตกงานกว่า 15 ล้านคน 

นายศรัณย์วุฒิ กล่าวต่อว่า ในวันนี้คนไทยมีหนี้ 100% และมีคนฆ่าตัวตายมากที่สุดตั้งแต่มีนายกรัฐมนตรี ชื่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา รวมถึงมีการจัดชุมนุมประท้วงของกลุ่มนักศึกษา โดยรวมแล้วพลเอกประยุทธ์ เป็นนายกฯ ที่ล้มเหลวมากที่สุดและนำประเทศมาถึงจุดเสื่อมสุด ที่สุดความภาคภูมิใจหายไปหมด

ส่วนตัวเข้าใจนักศึกษาและประชาชนปลดแอกที่ออกมาต่อสู้ และขอชื่นชมรวมถึงฝากบอกนายกฯว่า อย่าสร้างสถานการณ์ยึดอำนาจ หรือ ทำรัฐประหารโดยตนเอง เพราะประชาชนจะไม่ยอมเด็ดขาด

นายศรัณย์วุฒิ อภปรายว่า เจ้าสัว ส. เป็นเจ้าของพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง เคยชวนผมไปอยู่ด้วยให้เงินเดือน 2 แสนบาทต่อเดือน ผมไม่ไปแต่มีคลิปการชวนไว้เป็นหลักฐาน

“มีแก๊งผูกขาดพลังงานชาติ โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นหัวหน้าแก๊งร่วมกับเจ้าสัว ส., นายพล น. เป็นผู้ประสานงาน, นาย พ. ที่เคยติดคดี ผู้อยู่เบื้องหลังรัฐมนตรีสายเศรษฐกิจ เพราะไม่สามารถเป็นรัฐมนตรีเองได้ และนาย ศ. ลูกพี่เก่านาย พ. ร่วมกันผูกขาดพลังงานรวมถึง 10 ล้านล้านบาท ทั้งโรงไฟฟ้า 5,000 เมกกะวัต

ฮั๊วประมูลท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3, ท่าเรือมาบตาพุต เฟส 3, สัมปทานโรงไฟฟ้า 1,400 เมกกะวัต โดยไม่ต้องประมูล, เอื้อท่อก๊าซของ ปตท. เราลงทุนสร้างท่อก๊าซก็ใช้เงินหลวง ตอนแรกบอกซื้อก๊าซ  นายทุน ส.เปลี่ยนเป็นเช่าเฉย ทำไม่เราต้องเสียค่าโง่ให้กับนายทุน ส. และผมสงสัย นาย พ. กำลังจะให้เป็นประธาน ยึด ปตท. เพราะรับใช้ทั้ง ส. และ ป. คดีเต็มเพียบ และตั้งเป็นรองนายกฯ เป็นรัฐมนตรีไม่ได้ ก็เลยไปอยู่เบื้องหลัง คอยจับดู เดี่ยว พ.จะเป็นใหญ่เป็นโต”

นายศรัณย์วุฒิ สรุปว่า ผู้นำแบบนี้ทำเศรษฐกิจไทยพังยับเยิน พร้อมตะโกนว่า “เผด็จการประยุทธ์ออกไป ออกไป ออกไป คนไทยไม่เอานายกรัฐมนตรีคนนี้แล้ว”

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ได้ลุกขึ้นชี้แจงว่า “เรื่องโรงไฟฟ้าที่กล่าวหาว่าผมได้รับผลประโยชน์ ผมคิดว่าผมไม่ได้อะไร เพราะเป็นข้อตกลงของรัฐบาลก่อนหน้าที่ผมเข้ามา และตกลงไว้ 5,000 กิโลวัตต์ ขอให้ไปทบทวนดูด้วยว่าสมัยไหนของใคร

เมื่อผมเข้ามาก็ได้สั่งทบทวน เพราะได้พิจารณาข้อกฎหมายแล้วเสียเปรียบทุกอย่าง เพราะท่านไปเซ็นสัญญากันไว้ รัฐบาลพยายามอย่างยิ่งที่จะแก้ปัญหาแต่แก้ไม่ได้ เพราะพันด้วยสัญญาที่ทำกันไว้ก่อนหน้าที่ผมจะเข้ามา”