ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(29 สิงหาคม 2563) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงข้อถกเถียงกรณีถูกศาลนครศรีธรรมราชตัดสินพิพากษาจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา และถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี ในคดีอาญาฐานร่วมกันกระทำความผิดในการทุจริตการเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช เมื่อปี 2557 กรณีจัดเลี้ยงอาหาร เพื่อจูงใจผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจนทำให้ถูกตัดสิทธิ์พ้นตำแหน่งส.ส.หรือไม่ว่า จะมีผลทันทีหรือไม่ เรื่องนี้ผู้ที่จะชี้ขาด คือ ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อไม่ให้เกิดข้อครหา โดยส่วนตัวเข้าใจว่า ตนยังไม่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองทันทีและยังทำหน้าที่ ส.ส.ต่อไปได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศาลสั่งจำคุก“เทพไท-มาโนช”คนละ 2 ปี ทุจริตเลือกตั้ง
"ธนกร" สวน "เทพไท" อย่าทำปชป.มัวหมองเพราะความปากพล่อย
เทพไท เสนอรัฐบาลเจ้าภาพแก้รธน.ยึดผลศึกษากมธ. เพื่อปลดล็อคประเทศ
เสนอรัฐเยียวยานักเรียนคนละ1,000 ลดภาระผู้ปกครองเปิดเทอม
ทั้งนี้ ในรัฐธรรมนูญกำหนดคุณสมบัติ ห้ามผู้ถูกตัดสิทธิ์ลงสมัครับเลือกตั้ง ส.ส. แต่กรณีของตนถูกตัดสิทธิ์ระหว่างเป็น ส.ส. ไม่ได้ระบุไว้ในคุณสมบัติการพ้นตำแหน่ง ส.ส. จะต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพราะในรัฐธรรมนูญเขียนเรื่องคุณสมบัติไม่ชัดเจน
“อีกทั้งความเห็นของนักวิชาการด้านกฎหมาย ยังเห็นไม่ตรงกัน ทั้งในส่วนของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ออกความเห็นว่ายังไม่พ้นจากตำแหน่ง ส.ส. เพราะยังไม่ถูกคุมขังหรือจำคุก และความเห็นของนายเจษฎ์ โทณวณิก อดีตกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ. นายคมสัน โพธิ์คง อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ก็แตกต่างกันไป ดังนั้น คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ควรจะเป็นผู้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ และ กกต. ไม่ควรที่จะด่วนสรุปตัดสินเองว่าผมพ้นจาก ส.ส.”
นายเทพไท ระบุว่า หาก กกต. ด่วนวินิจฉัยและจัดการเลือกตั้งซ่อม โดยไม่รอศาลรัฐธรรมนูญ อาจจะเกิดความเสียหายตามมาภายหลัง ก็ต้องรับผิดชอบผลที่เกิดขึ้นตามมาด้วย