ต่อ “พรก.ฉุกเฉิน” อำนาจเบ็ดเสร็จยังอยู่ที่ “บิ๊กตู่” 100% 

25 มิ.ย. 2563 | 20:00 น.

รายงานพิเศษ : ต่อ “พรก.ฉุกเฉิน” อำนาจเบ็ดเสร็จยังอยู่ที่ “บิ๊กตู่” 100%

ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า รัฐบาล ภายใต้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศบค. มีแนวโน้มในการ ต่ออายุ ประกาศ พรก.ฉุกเฉิน หรือ พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน รอบที่ 4 เพื่อควบคุมสถานการณ์โควิดอีก 1 เดือน ไปจนถึงสิ้นเดือนก.ค. นี้ เหลือเพียง ที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่ เคาะในวันจันทร์ที่ 29 มิ.ย.นี้เท่านั้น ว่าเห็นชอบตามข้อเสนอนี้หรือไม่ 

ข้อเสนอต่ออายุ พรก.ฉุกเฉิน ดังกล่าว เป็นมติจากที่ประชุม คณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ที่มี พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) เป็นประธานการประชุมเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ที่ผ่านมา 

ฐานเศรษฐกิจ สังเคราะห์เหตุผลของการมีมติต่ออายุ พรก.ฉุกเฉิน รอบที่ 4 ตามที่เลขาสมช.ให้สัมภาษณ์ ดังนี้ 
-    เกณฑ์การพิจารณา ดูในทุกมิติ ความมั่นคง ข่าวกรอง กฎหมายและสาธารณสุข 
-    กิจกรรม/กิจการที่ได้รับการคลายล็อกในระยะที่ 5 มีความเสี่ยงสูงต่อการระบาดซ้ำ
-    หากไม่มี พรก.ฉุกเฉิน ต้องใช้กฎหมายถึง 5 ฉบับมาแทนที่ แต่ไม่มั่นใจว่าจะมีประสิทธิภาพเท่า 
-    พรก.ฉุกเฉินเป็นกลไกสำคัญในการป้องกันโควิดตั้งแต่แรกคือควบคุมไม่ให้มีการนำโรคจากต่างประเทศเข้ามา
-    ยืนยันการต่อ ไม่มีนัยทางการเมืองตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบันและอนาคต 
-    สถานการณ์โลกมีความน่าเป็นห่วง 

การ ต่อ พรก.ฉุกเฉิน สิ่งที่จะยังคงอยู่ต่อภายใต้อำนาจตามกฎหมายคือ “ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด หรือ ศบค. โดยมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นผู้อำนวยการศูนย์ศบค. ยังคงมีอำนาจเต็มในการบริหารสถานการณ์ ซึ่งต่างจากข้อเสนอการให้ไปใช้ พรบ.ควบคุมโรคติดต่อ ตามอำนาจปกติ ที่จะให้อำนาจกระทรวงสาธารณสุข โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รับผิดชอบสถานการณ์ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดังนั้น การต่อพรก.ฉุกเฉิน หากศบค.ชุดใหญ่ เห็นชอบตามข้อเสนอของที่ประชุมเฉพาะกิจ คำสั่งนายกรัฐมนตรี คำสั่งของครม. ที่ออกภายใต้พรก.ฉุกเฉินจะยังคงอยู่ดังเดิมเกือบทั้งหมด 

ดังเช่นเดียวกับการต่อ พรก.ฉุกเฉิน รอบที่ 3 ระหว่างวันที่ 1 มิ.ย. – 30 มิ.ย. 63 ซึ่งหลังจากครม.เห็นชอบต่อพรก.ฉุกเฉิน ตามที่ศบค.เสนอ สิ่งที่ตามมาคือ การออกประกาศจำนวน 4 ฉบับ ที่ลงในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งประกาศทั้ง 4 ฉบับ มีความเกี่ยวเนื่องกันในการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไปอีก 1 เดือน ซึ่งทุกฉบับลงนามโดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  ได้แก่ 

1.    ประกาศ เรื่องการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ 2) 

2.    ประกาศ เรื่อง การให้ประกาศที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินยังคงมีผลใช้บังคับ 

3.    ประกาศ เรื่อง การให้ข้อกำหนด ประกาศ และคำสั่งที่นายกรัฐมนตรีกำหนด ตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินยังคงมีผลใช้บังคับ 

4.    ประกาศ เรื่อง การกำหนดอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีตามกฎหมายเป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี (ฉบับที่ 2) 

ดังนั้นสรุปโดยง่าย คือ การต่อพรก.ฉุกเฉิน รอบที่ 4 หมายความว่า ศูนย์ “ศบค.” ก็ยังคงอยู่ โดยมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังมีอำนาจเต็มบริหารจัดการกฎหมายฉบับของกระทรวงต่างๆได้เบ็ดเสร็จ 100% ดังเดิม