"ปฏิรูปกองทัพ" ลดทหารประจำการ เริ่มต้นปีงบ 64

15 มิ.ย. 2563 | 03:55 น.

โฆษกกลาโหม เผย ปฏิรูปกองทัพคืบ เตรียมลดทหารประจำการ-เพิ่มข้าราชการพลเรือน เริ่มต้นปีงบ64

ในสังคมไทยพูดถึงการปฏิรูปภาคส่วนต่างๆมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในส่วนของภาคราชการ ในส่วนของกองทัพถูกจับจ้องถึงเรื่องนี้เช่นเดียวกัน ความคืบหน้าล่าสุด พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม (โฆษก กห.) ออกมาเปิดเผยถึงการปฏิรูปกองทัพว่า มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องโดยกระทรวงกลาโหมได้จัดกลุ่มภารกิจงานให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคงและให้น้ำหนักกับภารกิจของภัยจากสงครามรูปแบบใหม่มากขึ้น โดยได้ปรับปรุงโครงสร้างและอัตรากำลังของทุกเหล่าทัพให้มีขนาดที่เหมาะสม และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น สามารถรองรับภัยคุกคามด้านความมั่นคงในมิติต่างๆ ที่มีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ในปี 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (รมว.กห.) ได้กำหนดเป็นนโยบายเร่งด่วนในการปฏิรูปกองทัพและส่งเสริมการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาล ให้นำกำลังพลสำรองเข้าทำหน้าที่ทหารเป็นการชั่วคราวและนำข้าราชการพลเรือนกลาโหมมาบรรจุรับราชการ เพื่อทดแทนการบรรจุกำลังทหารประจำการ กลาโหมได้ปฏิรูประบบงานกำลังพล โดยตั้งเป้าหมายในการปรับลดอัตรากำลังทหารประจำการลง ด้วยเงื่อนไขไม่เพิ่มจำนวนข้าราชการและงบประมาณ บนพื้นฐานการบริหารจัดการงานหลักๆ ทั้งด้านสมรรถนะ ด้านผลงาน ตลอดจนด้านคุณธรรมและความเป็นมืออาชีพ
 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ลุยปฏิรูปกองทัพ “ธนารักษ์” จับมือ “กองทัพบก” จัดระเบียบ ท.พาณิชย์

สำหรับความคืบหน้าของการนำระบบข้าราชการพลเรือนกลาโหมมาใช้เพื่อลดจำนวนอัตราข้าราชการทหารและแก้ปัญหาความคับคั่งในแต่ละชั้นยศ โดยเฉพาะชั้นยศระดับสูงในอนาคตนั้น ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว เมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยคาดว่า จะสามารถบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนให้รับราชการในกลาโหมโดยมีตำแหน่งที่มิใช่อัตราทหารและไม่มีชั้นยศได้ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 64 เป็นต้นไป เพื่อปฏิบัติหน้าที่ที่ต้องใช้ความชำนาญเฉพาะทางในกลุ่มลักษณะงานต่างๆ เช่น ด้านการแพทย์ ด้านกฎหมาย ด้านการงบประมาณและการบัญชี ด้านครูอาจารย์ นักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ ด้านธุรการและอื่นๆ

ส่วนความคืบหน้าการนำกำลังสำรองเข้าทำหน้าที่ทหารเป็นการชั่วคราวในหน่วยรบและหน่วยสนับสนุนการรบนั้น ขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการสัญญาจ้างแล้วตั้งแต่ เม.ย.ที่ผ่านมา และจะดำเนินการสมัครและสอบคัดเลือกครบทุกเหล่าทัพให้เสร็จภายในปีงบประมาณ 63 โดยจะดำเนินการในรูปแบบสัญญาจ้างระยะเวลา 4-8 ปี เพื่อให้ได้กำลังพลสำรองที่มีอายุน้อย ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ ทดแทนการบรรจุข้าราชการทหารประจำการในหน่วยรบ ซึ่งจะเป็นการประหยัดและลดภาระผูกพันงบประมาณด้านบุคลากรในระยะยาว