สายธารแห่งพระเมตตา ช่วยปวงประชาสู้ภัยโควิด-19

06 ม.ค. 2564 | 11:55 น.

ในวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 เราได้เห็นการส่งต่อความช่วยเหลือจากหลากหลายหน่วยงาน แก่ประชาชนคนไทยที่ได้รับความเดือดร้อน ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ตั้งแต่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกแรก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าวอย่างใกล้ชิด

นางนวลพรรณ ล่ำซำ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรกิตติมศักดิ์ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างใกล้ชิด และทรงรับเป็นพระราชภารกิจสำคัญ ที่จักต้องให้ความช่วยเหลือพสกนิกรของพระองค์ ตลอดจนคนทุกคนที่อยู่บนผืนแผ่นดินไทยอุปกรณ์สำคัญทางการแพทย์ที่พระราชทานด้วยพระเมตตาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ถูกส่งต่อไปยังผู้ที่เดือดร้อน และประสบปัญหา ให้ได้รับการช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์ อย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ต้นปี 2563 เป็นต้นมา

สายธารแห่งพระเมตตา ช่วยปวงประชาสู้ภัยโควิด-19

ในโรงพยาบาล และศูนย์บริการทางการแพทย์หลายแห่ง มีเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือผู้ที่ติดเชื้อจาก “โครงการเครื่องช่วยหายใจและเครื่องมือแพทย์พระราชทาน เพื่อรับมือสถานการณ์โรคโควิด-19” จากพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ถูกตั้งขึ้นจากพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระราชทานเครื่องช่วยกดหน้าอกเพื่อฟื้นคืนชีพ เครื่องมือช่วยใส่ท่อช่วยหายใจ เครื่องติดตามการทำงานของหัวใจและสัญญาณชีพเครื่องสกัดสารพันธุกรรมอัตโนมัติ เครื่องเอ็กซเรย์ดิจิทัล โคมไฟผ่าตัดใหญ่โคมคู่ เครื่องกำจัดเชื้อโรคและฟอกอากาศบริสุทธิ์ เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว กล้องส่องทางเดินหลอดลมแบบเคลื่อนที่ และเครื่องช่วยหายใจจำนวน200 เครื่อง ซึ่งได้ส่งมอบให้กับหลายโรงพยาบาลใหญ่ อาทิ โรงพยาบาลตำรวจ โรงพยาบาลตากสิน โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เป็นต้น 

ทรงพระราชทานห้องตรวจหาเชื้อ Modular Swab Unit ตรวจเชื้อจำนวน 20 ห้อง รถพยาบาลกู้ชีพฉุกเฉิน จำนวน 8 คันที่สำคัญคือ รถตรวจเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย จำนวน 13 คัน เพื่อเป็นหน่วยเคลื่อนที่ในการให้บริการตรวจคัดกรองเชื้อไวรัส แก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยง อย่างทั่วถึงและรวดเร็ว โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดที่มีการระบาดรุนแรง ซึ่งที่ผ่านมา รถดังกล่าวได้ให้บริการแก่ประชาชนกว่า 50,000 คน ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย อาทิ นครราชสีมา ระยองนครศรีธรรมราช  กาญจนบุรี เชียงราย เชียงใหม่ ตาก แม่ฮ่องสอน

สายธารแห่งพระเมตตา ช่วยปวงประชาสู้ภัยโควิด-19

เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นระลอก 2 ที่ตลาดกลางกุ้ง จังหวัดสมุทรสาคร รถตรวจเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทาน เป็นหน่วยเคลื่อนที่หน่วยแรกที่เข้าถึงพื้นที่ เพื่อให้บริการตรวจคัดกรองแก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยงทุกคน อันนับว่าเป็นส่วนสำคัญของการช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส บรรเทาการขยายวงกว้างของการแพร่ระบาดได้ในระดับหนึ่ง

สายธารแห่งพระเมตตา ช่วยปวงประชาสู้ภัยโควิด-19

ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในระลอกที่ 2 ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และทรงรับทราบถึงความรุนแรงของปัญหาที่ก่อให้ความทุกข์ยากแก่ประชาชนจำนวนมาก จึงทรงมีพระมหากรุณาธิคุณที่จะพระราชทาน รถตรวจเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยเพิ่มเติมอีก 7 คัน รวมเป็น 20 คัน เพื่อให้เพียงพอสำหรับการเป็นหน่วยเคลื่อนที่ ในการให้บริการประชาชนในจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อ 

รถตรวจเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทาน ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพในการตรวจเชื้อ มีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัย ภายในห้องเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยถูกจัดให้เป็นห้องปลอดเชื้อ ประกอบด้วยระบบปรับอากาศเพื่อควบคุมความเย็น ระบบกรองอากาศจากภายนอกเพื่อให้บริสุทธิ์ ระบบและอุปกรณ์ควบคุมความดันภายในห้องต้องเป็นบวกตลอดเวลา รวมทั้งมีส่วนปฏิบัติการเก็บตัวอย่าง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานไม่ต้องสัมผัสกับผู้ที่มีความเสี่ยงโดยตรง ด้วยการสอดมือผ่านหน้าต่างและถุงมือยางที่ติดตั้งไว้กับตัวรถได้ นอกจากนี้ ภายหลังการปฏิบัติงาน ยังมีระบบการฆ่าเชื้อภายในตัวรถด้วยโอโซน 

สายธารแห่งพระเมตตา ช่วยปวงประชาสู้ภัยโควิด-19

นอกเหนือจากอุปกรณ์ทางการแพทย์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยังทรงใส่พระทัยแม้เพียงในสิ่งเล็กน้อยทรงพระราชทานชุด PAPR (Power Air Purifying Respiratory) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ชุดพัดลมกรองอนุภาคระดับสูง ที่ใช้ต่อกับชุดคลุมศีรษะของบุคลากรทางการแพทย์ ช่วยป้องกันเชื้อโรค เชื้อไวรัสภายนอก ไม่ให้เข้าไปยังตัวบุคคลผู้สวมใส่สร้างความมั่นใจในการดูแลและรักษาคนไข้ โดยเฉพาะคุณหมอแผนกวิสัญญี และ ศัลยแพทย์ที่ทำการผ่าตัดระบบหายใจ ซึ่งต้องพบเจอกับผู้ที่ติดเชื้อไวรัสมากกว่าผู้อื่น ทรงพระราชทานชุด PPE (Personal Protective Equipment) ซึ่งเป็นชุดอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล จำนวน 5,000 ชุด แก่ผู้ปฎิบัติงานทางด้านสาธารณสุขที่มีความจำเป็นต้องสวมใส่เพื่อดูแลและป้องกันตนเอง เมื่อต้องให้บริการหรือให้ความช่วยเหลือแก่บุคคลที่ได้รับเชื้อไวรัส ตลอดจนได้พระราชทาน Face Shield จำนวน 50,000 ชิ้น และหน้ากากอนามัย จำนวน 2,000,000 ชิ้น เพื่อให้ประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์ ได้ใช้ป้องกันตนเองเมื่อยามวิกฤตโควิด-19 ระบาดอย่างหนัก 

 

หากท่านใดที่ไม่เคยประสบกับปัญหาด้านสุขภาพ ท่านจะไม่รู้เลยว่า อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่ได้รับนี้ มีค่ามากเพียงใด สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ ที่มีความตั้งใจในการรักษาคนไข้ รวมทั้งตัวของผู้ป่วยเอง เมื่อมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เพียบพร้อมและเพียงพอ ย่อมจะสามารถช่วยเหลือคนได้อีกเป็นจำนวนมาก ด้วยกระบวนการรักษาที่พร้อมและทันท่วงที 

สายธารแห่งพระเมตตา ช่วยปวงประชาสู้ภัยโควิด-19

จาก “โครงการเครื่องช่วยหายใจและเครื่องมือแพทย์พระราชทาน เพื่อรับมือสถานการณ์โรคโควิด-19” ด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ยังมีอีกหลายโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนในช่วงการระบาดของโควิด-19 อาทิ การวิจัยและทดสอบรถโมบายที่สามารถเป็นห้องปฏิบัติการพิเศษเคลื่อนที่ ที่จะติดตั้งควบคู่ไปกับรถตรวจเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทาน และยังมีโครงการอื่นๆ ที่เกิดขึ้นจากพระราชดำริ เพื่อให้ความช่วยเหลือพสกนิกรชาวไทยอีกมากมายในทุกสถานการณ์ ช่วยบรรเทาความทุกข์ยาก และเป็นกำลังใจให้กับผู้ปฎิบัติงานตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า เพื่อให้เราทุกคนสามารถข้ามผ่านวิกฤตินี้ไปได้ในเร็ววัน