สอนมวยแก้"โควิดสมุทรสาคร"ต้องมอบดาบผู้ว่าฯ

26 ธ.ค. 2563 | 03:44 น.

ที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการสำนักนายกฯ สอนมวย  ชี้แนวทางจัดการ"โควิดสมุทรสาคร”  ควรถอดบทเรียนของ ศบค. และศอ.บต. มาเป็นตัวแบบ ควบคู่กับการแก้แรงงานเถื่อน-หลบหนีเข้าเมือง  โดยตั้งคณะทำงานร่วมทุกฝ่าย  ให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดมากขึ้น  ถึงเวลาสมุทรสาครต้องเป็นเขตปริมณฑลพิเศษ 

ที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการสำนักนายกฯ สอนมวย  ชี้แนวทางจัดการ"โควิดสมุทรสาคร”  ควรถอดบทเรียนของ ศบค. และศอ.บต. มาเป็นตัวแบบ ควบคู่กับการแก้แรงงานเถื่อน-หลบหนีเข้าเมือง  โดยตั้งคณะทำงานร่วมทุกฝ่าย  ให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดมากขึ้น  ถึงเวลาสมุทรสาครต้องเป็นเขตปริมณฑลพิเศษ 

พ.ต.ท.สุรินทร์  ชัยพานิช  ที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีด้านสิ่งแวดล้อม  และรองประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร  ได้เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า  วิกฤติโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ณ  จังหวัดสมุทรสาครในช่วงปลายปี  2020 นี้  ถือเป็นภัยธรรมชาติที่เกิดจากการขาดระบบควบคุมความเจริญทางสังคมและการมุ่งแสวงหาผลประโยชน์ทางการค้า  จนทำให้เชื้อไวรัสระบาดไปทั่วโลก  ตนจึงอยากจะเสนอรัฐบาลและผู้เกี่ยวข้อง ให้หันมาสนใจในแนวทางดำเนินการเร่งด่วนสำหรับจังหวัดสมุทรสาครและพื้นที่อื่น ๆ ดังนี้ คือ
สอนมวยแก้"โควิดสมุทรสาคร"ต้องมอบดาบผู้ว่าฯ     

1.ควรถอดบทเรียนความสำเร็จของการตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)  หรือ ศบค.ส่วนกลาง  และตั้งเป็นทีมคณะทำงานโดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้นำในการวางแผนร่วม  เพื่อที่ทางสาธารณธสุขจังหวัดจะต้องทำแผนให้ชัดเจน ในการของบประมาณฉุกเฉินจากส่วนกลาง  ทั้งสนง.ตำรวจแห่งชาติและกระทรวงแรงงานจะต้องแสดงบทบาทที่ชัดเจนในการดูแล-ควบคุม-สงเคราะห์ผู้ป่วย ซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าวอย่างเท่าเทียมกับคนไทย  โดยทำประวัติ-ออกใบรับรอง-ออกบัตรประจำตัวกรณีแรงงานเข้าเมืองผิดกฎหมาย-และขึ้นทะเบียนผู้ป่วย  เพื่อคนงานเถื่อนเหล่านี้จะได้เข้าสู่ระบบตามกฎหมายแรงงานในอนาคต  ทั้งทีมนายแพทย์ซึ่งเป็นโฆษกสาธารณสุขของจังหวัด  จะต้องแถลงข่าวข้อมูลจริงประจำวันให้ชัดเจน  เพื่อสร้างบรรยากาศและรักษาชื่อเสียงของจังหวัดสมุทรสาคร  ไม่ให้กระทบต่อเศรษฐกิจในภาครวมอย่างที่เป็นอยู่
    

2.วิกฤติครั้งนี้น่าจะเป็นโอกาสที่ทางรัฐบาลจะส่งเสริม ให้ทางสมุทรสาครสามารถแก้ปัญหาและปรับขบวนการแรงงานให้เข้าระบบ  โดยมีการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง  และดำเนินการอย่างเข้มงวด  ให้ผู้ว่ากราชการจังหวัด มีอำนาจในการเข้าควบคุมแรงงานต่างชาติมากขึ้น  เช่น  ทางราชการสามารถติดต่อกับต่างประเทศได้โดยตรงไม่ต้องผ่านบริษัทนายหน้า  เพื่อลดขั้นตอนและค่าใช้จ่ายในการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างชาติ  เพื่อผู้ประกอบการจะได้ไม่หลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อลดต้นทุน  หรือการแอบเปลี่ยนย้ายนายจ้าง ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดแรงงานเถื่อนตลอดมา

“กระทรวงมหาดไทยต้องทำบันทึกข้อตกลงกับกระทรวงแรงงาน-สนง.ตำรวจแห่งชาติ-กระทรวงสาธารณสุข  ให้มีการตรวจสอบคุมประวัติของแรงงานต่างชาติ  โดยทำเป็นศูนย์ข้อมูลรวมที่เดียวกัน  มีการตั้งชุดเฉพาะกิจร่วมกับส่วนกลางเพื่อจัดมาตรการดูแลทุกโรงงานอย่างต่อเนื่อง  ต้องห้ามย้ายแรงงานต่างชาติออกนอกพื้นที่ปกครองของจังหวัด  จัดทำสมุดประวัติและแยกสีบัตรประจำตัวของแรงานต่างด้าวตามอาชีพ  เช่น อาชีพคนงานประมงในเรือ  อาชีพคนงานในโรงงานอุตสาหกรรม-ก่อสร้าง  อาชีพแม่บ้าน-คนสวน  เป็นต้น  เพื่อสะดวกต่อการควบคุม” 

 

นอกจากนั้นยังควรใช้มาตรการพิเศษทางด้านภาษีกับผู้ประกอบการที่ใช้แรงงานต่างด้าว  เพื่อนำมาใช้เป็นงบประมาณด้านสวัสดิการพิเศษกับแรงงานชาติ  ทั้งผวจ.จะต้องรับผิดชอบรายงานข้อมูลสถานะของแรงงานต่างด้าวทุก 30 วัน  กับต้องออกระเบียบของจังหวัดเพื่อเป็นแนวทางการปฏิบัติงานที่ชัดเจนให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและหน่วยงานท้องถิ่น  ตั้งแต่ระดับอำเภอ  ตำบล  หมู่บ้าน

    
“โดยอำนาจ-หน้าที่-รูปแบบของคณะทำงานที่เข้ามาดูแลแรงงานต่างชาติโดยตรงของจังหวัดสมุทรสาคร  อาจคล้ายกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้  (ศอ.บต.)  หรืออื่นๆ  รวมถึงการกำหนดโทษทางวินัยกับผู้เกี่ยวข้องจะต้องเข้มข้น-จริงจังมากขึ้น  หากพบข้อบกพร่องและเหตุแห่งการกระทำผิดของการใช้แรงงานเถื่อน”  รองประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรสาครกล่าว
สอนมวยแก้"โควิดสมุทรสาคร"ต้องมอบดาบผู้ว่าฯ

 

3.ต้องพัฒนาการใช้พื้นที่จังหวัดสมุทรสาครให้เกิดประโยชน์สูงสุดและลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้น  เนื่องจากปัจจุบันยังขาดการจัดระบบและการควบคุมในการใช้พื้นที่  ทั้งเพื่อให้สมุทรสาครเป็นพื้นที่ลงทุนของต่างชาติ  และเพื่อให้สมุทรสาครแบ่งรับการขยายตัวของ กทม.  หรือให้ช่วยแก้ปัญหาต่างๆที่มากมายของกทม.  ซึ่งการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ดีจะช่วยป้องกันการขยายตัวของเมืองอย่างไม่มีระบบ  โดยดูจากกรณีศึกษาของจังหวัดนนทบุรีและจังหวัดปทุมธานี   
     

“ต้องปรับปรุงการใช้ พ.ร.บ.ผังเมือง  พ.ศ.2562  โดยผังเมืองของจังหวัดสมุทรสาครจะต้องกำหนดอนาคตให้เชื่อมต่อกับกลุ่มจังหวัดสมุทรปราการและสมุทรสงคราม  เพื่อรองรับการขยายตัวของกรุงเทพมหานครอย่างมีระบบเนื่องจากปัจจุบันทั้ง 3 จังหวัดยังอยู่นอกเขตเศรษฐกิจพิเศษ  กระทรวงมหาดไทยจึงควรเร่งออกกฎหมายโดยด่วนให้สมุทรสาครเป็นเขตปริมณฑลพิเศษ  เพื่อจะได้สามารถแก้ปัญหาโรคระบาดและปัญหาอื่นๆได้  ก่อนที่สมุทรสาครจะล่มสลาย  ทั้งนี้ตามสภาพความเป็นจริงในอนาคต  จังหวัดสมุทรสาครจะต้องเป็นกทม.2  และเป็น  SMART  CITY”  
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สรุปสถานการณ์ "โควิดสมุทรสาคร"

การแก้ไขของบทเรียนมหาชัยโมเดล

โปสเตอร์ "ภาษาเมียนมา" สกัดโควิดสมุทรสาคร ขอแรงงานอย่าหนี-อย่ากลัว

ปิดตายห้ามเข้าออก"ตลาดกลางกุ้ง"มหาชัย

รง.“ทูน่า-กุ้ง”มหาชัยระส่ำหนัก สั่งยกระดับคุมเข้มโควิดขั้นสูงสุด

แนะรัฐจัดงบฉุกเฉินช่วยผู้ประกอบการ-แรงงานพื้นที่ “สมุทรสาคร"