จับพิรุธ “อัยการ” ชักเข้าชักออก คดี “บอส อยู่วิทยา”

03 ส.ค. 2563 | 06:36 น.

ย้อนรอยคดี “บอส อยู่วิทยา” พบ อัยการสูงสุด เคยมีคำสั่งยุติเรื่องขอความเป็นธรรม ตั้งแต่ปี 2556 ก่อน "เนตร นาคสุข” ในฐานะรักษาการ รองอัยการสูงสุด รื้อคดีขึ้นมาใหม่ ขณะที่อัยการฝ่ายคดีพิเศษ ตีตกคำร้องขอความเป็นธรรม ต.ค. 62 แต่กลับมีการสอบสวนพยานเพิ่ม จนอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง

กรณี อัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ หรือ  "บอส อยู่วิทยา" ทายาทเครื่องดื่มชูกำลังกระทิงแดง ในทุกข้อกล่าวหา และพนักงานสอบสวนได้ทำเรื่องขออนุมัติศาลเพิกถอนหมายจับในคดีขับรถชนตำรวจ สน.ทองหล่อเสียชีวิต จากการตรวจสอบคำสั่งไม่ฟ้องของคดีของพนักงานอัยการ พบข้อสังเกตที่น่าสนใจเกี่ยวกับกรณีการรื้อฟื้นคดีนี้ขึ้นมาสอบสวนใหม่ภายหลังเกิดเหตุนายบอส อยู่วิทยา ได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุดหลายครั้ง และอัยการสูงสุดก็มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนสอบสวนเพิ่มเติมตามหนังสือร้องขอความเป็นธรรม

กระทั่งในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2556 อัยการสูงสุดมีคำสั่งยุติเรื่องขอความเป็นธรรมของนายวรยุทธ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ตามภายหลังจากที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งให้ยุติเรื่องขอความเป็นธรรมของนายวรยุทธ ในฐานะผู้ต้องหาที่ 1 ไปแล้ว  นายวรยุทธ ยังคงยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุดหลายครั้ง รวมถึงยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมต่อคณะกรรมมาธิการกฎหมายกระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ( สนช. 2557 ) จนอัยการสูงสุดมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนเพิ่มเติมตามหนังสือร้องขอความเป็นธรรมอีกหลายครั้ง

 

ต่อมารองอัยการสูงสุด (นายเนตร นาคสุข อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลสูง ขณะรักษาการในตำแหน่ง รองอัยการสูงสุด ) พิจารณาผลการสอบสวนเพิ่มเติมแล้ว มีความเห็นว่า คดีมีปัญหาที่จะต้องพิจารณา เฉพาะข้อกล่าวหาของผู้ต้องหาที่ 1 ว่าขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 291 ตามที่อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ มีคำสั่งฟ้องว่ามีข้อเท็จจริงใหม่เพียงพอที่จะกลับความเห็นและคำสั่งเดิมหรือไม่ อย่างไร

จากการตรวจสอบของฐานเศรษฐกิจ พบว่า หลังมีการรื้อคดีขึ้นมาสอบสวนใหม่ อัยการฝ่ายคดีพิเศษร้องขอความเป็นธรรม 2 ได้ตีตกคำงขอความเป็นธรรมของของนายวรยุทธ ในวันที่ 29 ตุลาคม 2562 โดยนายพินันพ์ ลักษณ์ศิริ อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สำนักงานคดีกิจการอัยการสูงสุด ปฏิบัติราชการในหน้าที่อัยการพิเศษฝ่ายคดีร้องขอความเป็นธรรม 2 มีความเห็น ดังนี้

กรณีทนายความซึ่งเป็นผู้รับมอบอำนาจของ นายวรยุทธ อยู่วิทยา ได้ทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมให้สอบพยานเพิ่มเติม ลงวันที่ 7 ตุลาคม 2562 ขอให้อัยการสูงสุดมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนเพิ่มเติมพยานปาก พล.อ.ท.จักรกฤช ถนอมกุลบุตร หรือ นายจารุชาติ มาดทอง ซึ่งเป็นประจักษ์พยานอยู่ในที่เกิดเหตุ และกรณีที่ผู้ต้องหาที่ 1 (นายวรยุทธ) ได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อประธานคณะกรรมาธิการกฏหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.2557) โดย กมธ. ได้เชิญ รศ.ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับความเร็วของรถ อันเป็นหลักฐานที่ปรากฎขึ้นใหม่ทำให้ข้อเท็จจริงในคดีนี้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

พิจารณาแล้วมีความเห็นดังนี้

1.กรณีพยานปาก พล.อ.ท.จักรราช ถนอมกุลบุตร เคยมีการสอบพยานปากนี้เพิ่มเติมไปแล้ว ตามสำนวน 2ข.เลขที่ 182/2556 พยานปากนี้จึงมิใช่พยานหลักฐานใหม่

2.กรณีพยานปากนายจารุชาติ มาดทอง นั้นพนักงานสอบสวนได้เคยสอบปากคำพยานปากนี้ไว้เป็นพยานแล้ว ในคดีจราจรที่ 632/2555 ของสถานีตำรวจทองหล่อ โดยมีการสอบเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2555 และต่อมาพยานปากนี้ผู้ต้องหาเคยร้องขอความเป็นธรรมให้สอบพยานปากนี้อีกและพนักงานสอบสวนได้แจ้งว่าพยานปากนี้เดินทางไปต่างประเทศ ไม่สามารถสอบสวนเป็นพยานได้ และผู้ต้องหาไม่ได้ติดใจพยานปากนี้เป็นพยานแล้ว (ปรากฎตามข้อเท็จจริงที่ได้จากสำนวน 2ข. 182/2556 แผ่นที่ 8 และสำนวน 1ข.130/2559 แผ่นที่ 52) ดังนั้นพยานปากนี้จึงไม่ใช่พยานหลักฐานใหม่ พยานปากนี้จึงมิใช่พยานหลักฐานใหม่

3. รวมทั้งประเด็นที่ผู้ต้องหาที่ 1 ได้ยื่นขอความเป็นธรรมต่อ ประธานกรรมาธิการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.2557) และคณะกรรมาธิการกฎหมายได้เชิญ รศ.ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับความเร็วเฉลี่ยของรถจักรยานยนต์ก่อนเกิดเหตุนั้น เห็นว่าพยานปาก รศ.ดร.สายประสิทธิ์ ผู้ต้องหาที่ 1 เคยร้องขอความเป็นธรรมและพยานเคยให้การต่อพนักงานสอบสวนแล้ว และอัยการสูงสุด(นายพงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร) ได้เคยวินิจฉัยในประเด็นพยานปากนี้ไว้แล้ว (ข้อเท็จจริงปรากฎตามสำนวน 1ข.เลขที่ 79/2560 แผ่นที่ 7-9) ดังนั้นพยานปากนี้จึงไม่ใช่พยานหลักฐานใหม่

ดังนั้น ตามหนังสือร้องขอความเป็นธรรมดังกล่าวที่ผู้ร้องให้สอบพยานเพิ่มเติมดังกล่าว จึงไม่ใช่พยานหลักฐานใหม่อันสำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงความเห็นและคำสั่งเดิมได้ ประกอบกับผู้ต้องหาที่ 1 เคยร้องขอความเป็นธรรมเข้ามามาหลายครั้ง อันอาจเชื่อได้ว่าเป็นการประวิงคดี

ประกอบกับคดีนี้ผู้ต้องหาที่ 1 ยังหลบหนี แต่ได้มอบอํานาจให้ทนายความมาร้องขอความเป็นธรรมแทนผู้ร้อง โดยผู้ร้องมิได้มาร้องขอความเป็นธรรมด้วยตนเอง จึงเห็นควรยุติเรื่องร้องขอความเป็นธรรมของผู้ร้อง และ เห็นควรงดแจ้งคําสั่งยุติให้ผู้ร้องทราบ เนื่องจากเคยมีการแจ้งคําสั่งยุติให้ผู้ร้องทราบแล้ว (ตามหนังสือประทับตราสํานักงานอัยการสูงสุด ด่วนที่สุด ที่ อส 0008 (คธ2)/4099 ลงวันที่ 11 เมษายน 2559

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2562 ได้การสอบสวนพยาน พล.อ.ท.จักรกฤช ถนอมกุลบุตร หรือ นายจารุชาติ มาดทอง เพิ่มเติมอีกครั้ง จนนำมาสู่คำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ หรือ  "บอส อยู่วิทยา” ในที่สุด