เมื่อเกิดสถานการณ์ที่บจ.ประสบปัญหาขาดทุน นอกจากจะไม่สามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นแล้ว ราคาหุ้นยังเป็นขาลง สะท้อนผลขาดทุนกิจการ นั้นๆด้วย ทำให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ต้องมีการออกเกณฑ์ดูแลและควบคุม รวมถึงเตือนนักลงทุนด้วยเครื่องหมายต่างๆ เพื่อให้นักลงทุนได้มีการชะลอพิจารณาซื้อขาย และให้บจ.ได้แก้ไขเหตุของการถูกขึ้นเครื่องหมายนั้นๆ โดยเฉพาะบจ.ที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน
เช่นเดียวกันบริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน)หรือ THAI ที่อยู่ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการภายใต้ศาลล้มละลาย หลังจากขาดทุนต่อเนื่องหลายปี จนส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ ทำให้เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนจากการเป็นบจ. ซึ่งทางตลท.ได้มีหนังสือแจ้งให้การบินไทย เร่งแก้ปัญหาดังกล่าว เพื่อให้สามารถคงสถานะการเป็นบจ.ต่อไปได้
ทั้งนี้เพราะ ระหว่างการเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน ตลท.มีการดำเนินการ เพื่อให้บริษัทมีแนวทางในการแก้ไขที่ชัดเจนและกระตุ้นให้เร่งฟื้นฟูกิจการ โดยขึ้นเครื่องหมายSP (Suspension) เพื่อสั่งห้ามซื้อขายนับแต่วันที่การดำเนินงาน/ ฐานะการเงินมีลักษณะเข้าเหตุอาจถูกเพิกถอน, ประกาศเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน (NC ระยะที่ 1) พร้อมขึ้นเครื่องหมาย NC (Non-compliance) ภายใน 7 วันทำการนับแต่วันที่ปรากฏเหตุของการเข้าเหตุเพิกถอน และห้ามซื้อขายหลักทรัพย์อีก 1 เดือน
เมื่อ SP ครบกำหนด 1 เดือน และบริษัทแจ้งแนวทางการฟื้นฟูกิจการแล้ว จะอนุญาตให้ซื้อขายหลักทรัพย์เป็นเวลา 1 เดือน โดยให้ซื้อด้วยบัญชี Cash Balance แต่ยังคงเครื่องหมาย NC หลังจากนั้นจะ SP จนกว่าบริษัทสามารถฟื้นฟูกิจการจนทำให้เหตุเพิกถอนหมดไปและมีคุณสมบัติเพื่อกลับมาซื้อขายได้ รวมถึงกำหนดให้บริษัทรายงานความคืบหน้าของการฟื้นฟูกิจการหรือเปิดเผยความคืบหน้าในการฟื้นฟูกิจการทุก 3 เดือนหรือในวันเดียวกับวันครบกำหนดส่งงบการเงินในแต่ละไตรมาส
ขณะที่ ในส่วนของบจ.ที่อยู่ระหว่างการฟื้นฟูกิจการ ระยะเวลาในการฟื้นฟูกิจการ แบ่งเป็นช่วงดำเนินการให้เหตุแห่งการเพิกถอนหมดไป มี 3 ระยะ แต่ละระยะมีเวลา 1 ปี ได้แก่ NC ระยะที่ 1-3 หากบริษัทแก้ไขเหตุเพิกถอนหมดไปได้ภายใน 3 ปีนับแต่วันที่ถูกประกาศเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน เช่น มีส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่ามากกว่าศูนย์ เป็นต้น ตลท.จะประกาศให้เข้าสู่ช่วงดำเนินการให้มีคุณสมบัติเพื่อกลับมาซื้อขาย (Resume Stage) แต่หากไม่สามารถแก้ไขเหตุเพิกถอนหมดไปได้ภายใน 3 ปี จะสั่งเพิกถอน โดยจะเปิดให้ซื้อขายหลักทรัพย์ 7 วันทำการก่อนการเพิกถอน พร้อมทั้งขึ้นเครื่องหมาย NC และให้ซื้อด้วยบัญชี Cash Balance
สำหรับ Resume Stage มีระยะเวลา 2 ปีนับแต่วันที่ครบกำหนดดำเนินการให้เหตุเพิกถอนหมดไป หรือได้รับหนังสือที่ครบถ้วนถูกต้องจากบริษัทว่าได้ดำเนินการให้เหตุเพิกถอนหมดไปแล้ว แล้วแต่วันใดจะถึงก่อน หากบริษัทมีคุณสมบัติกลับมาซื้อขายได้ภายใน 2 ปี บริษัทสามารถยื่นคำขอให้ปลด NC และ SP เพื่อกลับมาซื้อขายได้ตามปกติ แต่หากบริษัทไม่มีคุณสมบัติกลับมาซื้อขายได้ภายใน 2 ปี จะพิจารณาสั่งเพิกถอน โดยจะเปิดให้ซื้อขายหลักทรัพย์ 7 วันทำการก่อนการเพิกถอน พร้อมทั้งขึ้นเครื่องหมาย NC และให้ซื้อด้วยบัญชี Cash Balance
อย่างไรก็ตาม ในปี 2564 นอกจาก THAI แล้ว ตลท.ได้ประกาศขึ้นเครื่องหมาย NC อีก 2 บริษัท เนื่องจากส่วนผู้ถือหุ้นมีค่าน้อยกว่าศูนย์คือ บริษัท บางกอก โพสต์ จำกัด (มหาชน) หรือ POST และบริษัท เอเพ็กซ์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (APEX) โดย THAI ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 มีอัตราส่วนหนี้สินรวมต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเท่ากับ -2.6 เท่า และส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทและบริษัทย่อยมีจำนวน -128,665 ล้านบาท ลดลงจากวันที่ 31 ธันวาคม 2562 อยู่ที่ 140,431 ล้านบาท
ขณะที่ POST มีผลขาดทุนเบ็ดเสร็จรวมส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563 จำนวน 364.9 ล้านบาท เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจำนวน 308.8 ล้านบาท ส่วน APEX มีผลขาดทุนส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท จำนวน 374.48 ล้านบาท
สำหรับจำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อย THAI ณ วันที่ 3 กรกฎาคม 2563 อยู่ที่ 110,510 ราย, POST ณ วันที่ 11 มีนาคม 2563 อยู่ที่ 506 ราย และ APEX ณ วันที่ 23 กรกฎาคม 2563 อยู่ที่ 2,140 ราย
หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,667 วันที่ 4 - 7 เมษายน พ.ศ. 2564