เมียนมา‘ปฏิวัติ’ พ่อค้าผ่องถ่ายจ๊าด ตุน‘บาท-ดอลลาร์’

05 ก.พ. 2564 | 20:00 น.

ทหารเมียนมายึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนเบ็ดเสร็จ แต่ยังปล่อยเศรษฐกิจขับเคลื่อนต่อ แบงก์พาณิชย์ไทยในเมียนมาเดินหน้าธุรกิจปกติ แต่พ่อค้าเมียนมาเริ่มตุนดอลลาร์-บาทเพื่อความมั่นใจ ค้าชายแดนยังเปิดขนส่งสินค้าเข้าออกตามเดิมแต่ยังเกาะติดสถานการณ์

 

การรัฐประหารในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาที่ผ่านมานั้น นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน 1 ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ชี้แจงว่า ธนาคารพาณิชย์ยังไม่เห็นผลกระทบเชิงธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ธปท.จะติดตามประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป ปัจจุบันธนาคารพาณิชย์ไทยในเมียนมา ยังทำธุรกิจได้ตามปกติ ทั้งธุรกรรมภายในประเทศและธุรกรรมระหว่างประเทศ

 

สำหรับการลงทุนของธุรกิจไทยในเมียนมา (TDI) อยู่ในอันดับที่ 10 โดยมีมูลค่าเฉลี่ยในช่วงปี 2558-2562อยู่ที่ 281 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี (8,711 ล้านบาท) (2.3% ของมูลค่าสุทธิTDI และ 0.1%ของ GDP) โดยยอดคงค้างการลงทุนโดยตรงไทยในเมียนมามีมูลค่า 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (155,000 ล้านบาท) ส่วนเม็ดเงินลงทุนโดยตรง(FDI)จากเมียนมาเป็นอันดับ 58 มูลค่าเฉลี่ย 0.85ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี (0.01%ของมูลค่าสุทธิ FDI และ 0.0002% ของ GDP)โดยมียอดคงค้างการลงทุนโดยตรงจากพม่าในไทย 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐในสิ้นปี 2562

 

ด้านกองทุนความร่วมมือการค้าและการลงทุน กรมการค้าต่างประเทศ (คต.) กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า การค้าชายแดนและผ่านแดนในปี 2562 คิดเป็น 12.2% ของจีดีพีไทย ส่วนในปี 2563 การค้าชายแดนระหว่างไทยและเมียนมามียอดส่งออกรวมมูลค่า 87,090 ล้านบาท หดตัว 12.38%จากช่วงเดียวกันปีก่อน ประเภทสินค้าส่งออกสูงสุด 3 อันดับได้แก่ 1.เครื่องดื่มที่ไม่มีแฮลกอฮอล์ 2.น้ำมันดีเซล 3.ผ้าผืนและด้าย ส่วนการนำเข้ามูลค่า 77,689ล้านบาท ลดลง 17.24% ประเภทสินค้านำเข้าสูงสุด 3 อันดับคือ ก๊าซธรรมชาติ, ธัญพืช และสัตว์น้ำ

 

นายสารัชต์ รัตนาภรณ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว ธนาคารไทยพาณิชย์ เมียนมา ได้หยุดทำการ 2 วัน ปัจจุบันกลับมาเปิดให้บริการเป็นปกติแล้ว ไม่มีประเด็นน่าห่วง ทั้งนี้ ธนาคารไทยพาณิชย์เมียนมา มีธนาคารไทยพาณิชย์ถือหุ้นเต็ม 100% ได้รับอนุญาตจัดตั้งธุรกิจธนาคารลูก (Subsidiary License) ในเมียนมา และเพิ่งเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2564 ที่ผ่านมานี้เอง

 

ด้านแหล่งข่าวระบุว่า วันเกิดเหตุการณ์รัฐประหารในเมียนมา การค้าชายแดนระหว่างไทย-เมียนมา ได้รับผลกระทบในวันแรก เพราะถูกบล็อกการนำส่งสินค้าระหว่างทาง แต่หลังช่วงบ่ายทางเมียนมาได้ปลดล็อกทำให้กลับมาทำการค้าปกติ แต่ผู้ซื้อสินค้าในเมียนมาจะดึงการชำระเงินบ้าง เพราะทุกคนไม่ต้องการถือสกุลเงินจ๊าด เพราะขาดความเชื่อมั่น ส่วนใหญ่จึงต้องการถือเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐและเงินบาทเป็นหลัก ทั้งนี้ อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันอยู่ที่ 100 จ๊าดต่อ 2.15 บาท

 

ภาคเอกชนในพื้นที่เมืองหน้าด่านการค้าชายแดนกับเมียนมา ทั้งที่อ.แม่สาย จ.เชียงราย หรือแม่สอด จ.ตาก ตลอดจนที่ระนอง ระบุตรงกันว่า การค้าชายแดนกับเมียนมากลับมาดำเนินการไปตามปกติ โดยด่านเปิดให้ขนส่งสินค้าเข้า-ออกตามเดิม หลังปิดไป 4 ชั่วโมง โดยยังไม่เปิดให้คนเดินทางตามมาตรการคุมการระบาดเชื้อโควิด-19 ขณะที่บรรยากาศในเมืองคู่ค้าฝั่งเมียนมานั้นยังดำเนินไปเป็นปกติเช่นเดิม ไม่ปรากฎมีการวางกำลังของทหารหรือกำลังฝ่ายความมั่นคงเพิ่มเติมแต่อย่างใด มีเพียงรายงานจากอำเภอเกาะสองว่า มีเจ้าหน้าที่ความมั่นคงบางส่วนออกตรวจตราและปรามชาวเมียนมาไม่ให้รวมตัวแสดงการต่อต้านทหารเท่านั้น

 

ด้านนายตัน โซ อ่าว หนึ่งในแรงงานชาวเมียนมาที่ทำงานในจังหวัดระนอง เล่าว่า ญาติในเมียนมาโทรศัพท์มาเล่าให้ฟังว่า ทหารยึดอำนาจ จึงได้พยายามติดตามข่าวสารทั้งจากสื่อออนไลน์และโทรทัศน์ และกำชับครอบครัวให้รีบหาซื้อข้าวสารตุนไว้ก่อน เพราะกลัวว่าจะมีการสั่งปิดร้านขาย
ข้าวสาร และอาจติดต่อญาติพี่น้องลำบากหากเครือข่ายโทรศัพท์ในเมียนมา

 

ผลกระทบหนึ่งที่เกิดขึ้นคือ กลุ่มแรงงานข้ามชาติลักลอบเข้าเมืองชาวเมียนมา ที่ตกค้างถูกกักตัวอยู่ในจังหวัดระนองกว่า 300 คนจากสถานการณ์โควิด-19 ที่รอทางการเมียนมากำหนดวันส่งตัวกลับนั้น เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงการเมืองในเมียนมา คาดว่ากำหนดส่งตัวกลับคงต้องรอไปอีกระยะ

 

ที่มา : หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,651 วันที่ 7 - 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คณะรัฐประหารเมียนมา ส่งสัญญาณอาจจัดเลือกตั้ง คืนอำนาจให้ประชาชนกลางปี 65

เมียนมาสั่งปิดกั้นการสื่อสาร-ระงับการเข้าถึงเฟซบุ๊กแล้ว อ้างมีการบิดเบือนข่าว-ส่งข่าวลวง

เมียนมารัฐประหาร ทหารคุมตัว"อองซาน ซูจี"

“ณัฐวิน-กริช” เปิดมุมมองรัฐประหารเมียนมาไม่มีผลกับการทำธุรกิจ

เปิดใจครั้งแรก พล.อ.มิน อ่อง หล่าย ในวันที่การรัฐประหารเมียนมาเป็นสิ่ง "หลีกเลี่ยงมิได้"