IPO ใหม่หืดจับ ราคาตํ่าจองเพียบ

18 ธ.ค. 2562 | 23:10 น.

 

หุ้นไอพีโอใหม่ 26 บริษัท ราคาลดลงตํ่ากว่าราคาจองซื้อ ไม่เว้นแม้แต่หุ้นมาร์เก็ตแคปใหญ่อย่างAWC เหตุภาวะตลาดผันผวน แนะถือยาว ลดหวังผลตอบแทนสั้น

รายงานข่าวจากตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า การซื้อขายของหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ในปี 2562 ยังคงไม่สดใสต่อเนื่องจากปี 2561 จากปัจจัยทั้งในและต่างประเทศคอยกดดันตลอดเวลา โดยตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 16 ธันวาคม 2562 มีบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่เริ่มขายไอพีโอใหม่จำนวน 25 บริษัท มีจำนวน 20 บริษัท ที่ราคาปิด วันที่ 16 ธันวาคม 2562 ลดลงตํ่ากว่าราคาไอพีโอ ส่วนราคาเพิ่มขึ้นมีจำนวน 4 บริษัท และราคาปิดเท่ากับราคาไอพีโอ จำนวน 1 บริษัท คือ หุ้นไอพีโอล่าสุด บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (BAM)

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของหุ้นขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ราคาไอพีโอ สูงถึง 185,742 ล้านบาท อย่าง บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) (AWC) ราคาปิด วันที่ 16 ธันวาคม 2562 เมื่อเทียบกับราคาไอพีโอ ลดลง 0.83% ด้านหุ้นของกลุ่มสิงห์ อย่าง บริษัท เอสโฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) (SHR) ลดลงกว่า 26.92% และหุ้นที่นักลงทุนจับตาอย่าง BAM ทันทีที่เปิดซื้อขาย ราคาปรับเพิ่มขึ้น 0.90 บาท หรือ 5.14% อยู่ที่ 18.40 บาท จากราคาไอพีโอ 17.50 บาท แต่จากนั้นมีแรงขายออกมาต่อเนื่อง ทำให้ราคาปิดวันแรกเท่ากับราคาไอพีโอ ท่ามกลางดัชนีหุ้นไทยที่ปิดลบ 24.17 จุด หรือ 1.54% อยู่ที่ 1,549.74 จุด

IPO ใหม่หืดจับ  ราคาตํ่าจองเพียบ


 

นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลท. กล่าวว่า ราคาหุ้นไอพีโอที่ปรับตัวลดลงหลายบริษัท มาจากภาวะตลาดผันผวนในปัจจุบัน โดยหุ้นที่ราคาปรับตัวลดลงไม่ได้มีแค่หุ้นไอพีโอเท่านั้น ยังมีหลายบริษัทที่อยู่ในตลาดก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน ทั้งนี้นักลงทุนต้องพิจารณาให้รอบคอบเกี่ยวกับข้อมูลของหุ้นไอพีโอที่กำลังจะเข้าซื้อขาย รวมถึงควรลงทุนแบบระยะยาว มากกว่าการลงทุนที่หวังผลตอบแทนในระยะสั้น

นางทองอุไร ลิ้มปิติ ประธานกรรมการบริษัท BAM เปิดเผยว่า มีความพอใจที่ราคาเปิดการซื้อขายในวันแรกเพิ่มขึ้น 5.14% อีกทั้งยังไม่มีความกังวลหากราคาหุ้นจะปรับตัวลง หลังสิ้นสุดระยะเวลาการใช้การซื้อหุ้นเพื่อส่งมอบหุ้นที่จัดสรรเกิน (Green Shoe) โดยเชื่อว่าบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานที่ดี จากการดำเนินงานมามากกว่า 20 ปี มีกำไรและรายได้เติบโตต่อเนื่องถึงแม้เศรษฐกิจจะขาขึ้นหรือขาลงก็ตาม นอกจากนี้ยังเป็นหุ้นที่คล้ายกับกองรีท ซึ่งสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 5-6% ต่อปี

นายชัยรัตน์ ศิวะพรพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน SHR กล่าวว่า ราคาหุ้นของบริษัทที่ปรับตัวลดลงมาตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ นั้น มูลค่าหุ้นทางบัญชี (Book Value) ปัจจุบันของบริษัทถือว่ามีความเหมาะสมกับสินทรัพย์ที่บริษัทมีอยู่ในปัจจุบันและโครงการในอนาคตที่กำลังพัฒนา ส่วนในอนาคตผู้บริหารจะซื้อหุ้นเพิ่มหรือไม่นั้น มองว่าเป็นเรื่องที่ผู้บริหารจะพิจารณาเองหากได้ราคาที่เหมาะสม

 บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวงฯ ระบุว่า แนะนำซื้อหุ้น AWC โดยราคาหุ้นที่ลงมาตํ่ากว่าราคาไอพีโอ ถือเป็นการเปิดโอกาสให้เข้าลงทุน และราคาหุ้นกลับมามีอัพไซด์ต่อราคาเป้าหมายอีกครั้งราคาเป้าหมาย 6.80 บาท ในปี 2563 ทั้งนี้มองว่า AWC จะเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวไทยเต็มๆ ซึ่งบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากโรงแรมสูงถึง 67% และจะมีการขยายโรงแรมจากปัจจุบัน 10 แห่ง 3,432 ห้อง เป็น 27 แห่ง 8,506 ห้อง ภายใน 5 ปี และยังมีการขยายฝั่งค้าปลีกด้วย จะหนุนให้กำไรโต 134% ในปีหน้า นอกจากนี้ยังมีที่ดินจำนวนมากที่เป็นของบริษัทเอง และราคาที่ดินก็จะสูงขึ้นในอนาคตอีกด้วย

 

หน้า 18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,532 วันที่ 19-21 ธันวาคม 2562

IPO ใหม่หืดจับ  ราคาตํ่าจองเพียบ