สตาร์บัคส์ชูคุณภาพ/บริการสู้ร้านกาแฟแข่งเดือด

สตาร์บัคส์ ชี้เทรนด์ร้านกาแฟต่างชาติแข่งดุ ผลพวงพฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทยมีวัฒนธรรมการดื่มกาแฟชัดขึ้น เปิดแผนรับปีลิง เน้นสร้างคุณภาพและบริการ พร้อมกับกิจกรรมการตลาดโยงโซเชียลมีเดียผ่านสตาร์บัคส์โมบายล์ แอพพลิเคชัน เจาะคนรุ่นใหม่

นางสาวสุมนพินทุ์ โชติกะพุกกณะ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร บริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ ไทยแลนด์ จำกัด ผู้บริหารร้านกาแฟสตาร์บัคส์ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ปัจจุบันการแข่งขันในธุรกิจร้านกาแฟรุนแรงขึ้นและมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกประเภท เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทยเริ่มมีวัฒนธรรมการดื่มกาแฟที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเทรนด์ในการดื่มกาแฟไม่ได้จำกัดแค่เพียงบางสถานที่จำเพาะเท่านั้น หากแต่ยังสามารถดื่มได้ในหลายสถานที่และโอกาส โดยเฉพาะในกลุ่มกาแฟพรีเมียมถือเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีการเติบโตสูง

"การขยายตัวของศูนย์การค้าในช่วงปีที่ผ่านมา เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อดีต่อธุรกิจร้านกาแฟ เนื่องจากทางศูนย์การค้าต้องการสร้างเอกลักษณ์ ความแตกต่าง ในการดึงกลุ่มเป้าหมายเข้ามา ร้านกาแฟจึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกลำดับต้นๆ ที่ศูนย์การค้าให้ความสนใจในการดึงแบรนด์ดังจากต่างชาติเข้ามาเพื่อเรียกลูกค้า ประกอบกับเทรนด์คนทำงานในปัจจุบัน หันมาประกอบอาชีพอิสระ ที่ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงในออฟฟิศ และมักใช้ร้านกาแฟเป็นที่นัดพบเพื่อพูดคุยเจรจาธุรกิจ หรือแม้แต่ co-working space ต่างๆ ก็มีบริการเครื่องดื่ม โดยเน้นกาแฟเป็นหลัก เพื่อดึงดูดลูกค้า"

ทั้งนี้ในส่วนของกลยุทธ์ทางการตลาดที่สำคัญ ในการนำมาใช้เพื่อรองรับการแข่งขันในปีนี้ สตาร์บัคส์ ยังคงให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงทุกกิจกรรมทางการตลาดและโปรโมชันต่างๆ กับช่องทางการสื่อสารในโซเชียลมีเดียกับสตาร์บัคส์ โมบายล์ แอพพลิเคชัน ซึ่งถือเป็นช่องทางล่าสุดของบริษัทในการติดต่อและเข้าถึงลูกค้าได้ทุกเวลาและสถานที่ และเป็นช่องทางใหม่ที่เอื้ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์สตาร์บัคส์ได้อย่างครอบคลุม ซึ่งจะรวมถึงฟีเจอร์ที่สามารถเช็กข้อมูลสถานะบัตรสตาร์บัคส์ หรือ My Starbucks Rewards (MSR) ลอยัลตีโปรแกรม เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า โดยปัจจุบันมีลูกค้าสมาชิกในระบบ MSR จำนวนกว่า 6 แสนคน

นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับเรื่องของคุณภาพสินค้าและการบริการ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็น ในเรื่องของคุณภาพและบริการจากบาริสต้า ควบคู่กับการให้บริการกาแฟแบบ Starbucks Reserve Bar ในจำนวน 13 สาขา โดยมีวางจำหน่ายในรูปแบบเมล็ดกาแฟและแบบชงสดที่ร้าน ทั้งในแบบ Cone Brew ซึ่งเป็นการชงกาแฟแบบ Drip ที่น้ำร้อนไหลผ่าน หรือชงแบบ Coffee Press ด้วย รวมไปถึงการนำแคมเปญ MY Starbucks Reward ในการสะสมการซื้อเครื่องดื่ม และสะสมยอดการจับจ่ายในสตาร์บัคส์ ลูกค้าที่ลงทะเบียนบัตรสตาร์บัคส์การ์ดสามารถรับเครื่องดื่มฟรี 1 แก้ว เมื่อซื้อเครื่องดื่มสะสมครบทุก 12 แก้ว และยังสามารถสะสมยอดการใช้จ่ายตั้งแต่ระดับ Welcome Green และ Gold เพื่อสิทธิพิเศษที่มากยิ่งขึ้น

ปัจจุบันสตาร์บัคส์มีสาขารวมทั้งสิ้น 247 สาขา และเพื่อตอบสนองผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกสบายขณะเดินทาง สตาร์บัคส์มีบริการสตาร์บัคส์ไดรฟ์ธรู โดยปัจจุบันมีจำนวนร้านสตาร์บัคส์ ไดรฟ์ธรู ในประเทศไทยแล้วรวม 11 ร้าน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,120 วันที่ 7 - 9 มกราคม พ.ศ. 2559