"หมอนิธิ"แนะ ศบค.เปลี่ยนการนำเสนอให้คนฟังเกิดปัญญาไม่ใช่แค่เกิดอารมณ์

18 ก.ค. 2564 | 05:16 น.

"หมอนิธิ"แนะ ศบค.และกระทรวงสาธารณสุขเปลี่ยนแนวทางนำเสนอข้อมูลเพื่อให้คนฟังเกิดปัญญาไม่ใช่แค่เกิดอารมณ์ ชี้จะได้ด้ใช้ปรับแผน วางแผน พาประเทศเราไปให้รอดด้วยกัน

รายงานข่าวระบุว่า ศาสตราจารย์ นพ.นิธิ มหานนท์ ผอ.โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โพสต์เฟซบุ๊ก Nithi Mahanonda โดยมีข้อความว่า 
ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อใหม่รายวันเกินหมื่นราย ตัวเลขนี้ทำให้ทุกคนรวมทั้งผมด้วยก็มีอารมณ์ตื่นเต้นและกลัวไป (การตัดสินใจใดๆบนพื้นฐานความกลัวที่เป็นbiasชนิดหนึ่งจะไม่ค่อยได้ผลดีนัก) แต่ผมอยากเสนอ ศบค.กับทีมงานกระทรวงสาธารณสุขว่าน่าจะเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนวิธีการนำเสนอเสียใหม่ เพื่อให้เกิดไม่เพียงอารมณ์แต่เกิดปัญญากับคนที่ได้รับทราบข้อมูล   โดยอาจเริ่มตั้งแต่การระบาดระลอกใหม่(เริ่มเดือน มีนาคม 64)ด้วยก็ได้หรือไปข้างหน้านับแต่พรุ่งนี้คือ
1.แยกกรายงานว่าคนไข้ใหม่ที่เกิดนั้น ฉีดวัคซีนแล้วกี่คน(ครบสองเข็มไปแล้วสองอาทิตย์ หรือหนึ่งเข็ม) วัคซีนอะไร และไม่ได้ฉีดกี่คน และคนที่รีบวัคซีนครบ สองเข็มนานเกิน หก(หรือจะเอาสาม หรือเก้า)เดือนก็ได้มีกี่คน
2.ในผู้เสียชีวิตมีฉีดวัคซีนเท่าไหร่ครบสองเข็มไหม วัคซีนอะไร และไม่ได้วัคซีนกี่คน 
3.ถ้าอยากทราบข้อมูลเพิ่มก็รายงานจำนวนคนไข้ในไอซียู คนไข้ใส่ท่อช่วยหายใจกี่ราย ฉีดวัคซีนครบไหม วัคซีนอะไร หรือไม่ได้ฉีด

4พื่อเพิ่มให้มีความรู้มากขึ้น รายงานอัตราส่วนการตรวจพบเชื้อสายพันธุ์ใหม่ๆ เทียบไปด้วยได้เลยยิ่งดี เพราะอนาคตนอกจาก เดลตา จะมี ธีต้า เอ็บซิลอนและอื่นๆ ถึงเวลานั้น เราจะได้มีข้อมูลตัดสินใจได้ทันทีในหลายๆเรื่อง บนพื้นฐานของตัวเลขที่เป็น Fact 
เมื่อประกาศตัวเลขแบบที่ผมเสนอนี้ ทุกคนจะได้ไม่เพียงเกิดอารมณ์ (ที่น่าจะลดลง) แต่จะเกิดปัญญาความรู้ไปพร้อมๆกัน การถก(เถียง)ต่างๆก็จะจบได้ที่ปัญญาไม่ได้จบด้วยอารมณ์ และเราจะได้ใช้ปรับแผน วางแผน พาประเทศเราไปให้รอดด้วยกัน

สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย
ทั้งนี้ "ฐานเศรษฐกิจ" รวบรวมตัวเลขสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 (Covid-19) ในประเทศไทย วันที่ 18 กรกฎาคม 2564 จากศูนย์ข้อมูล COVID-19 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่า

มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 11,397 ราย
สะสมระลอกที่สาม 374,523 ราย
สะสมทั้งหมด 403,386 ราย
หายป่วยกลับบ้านได้ 5726 ราย
สะสม 256,484 ราย
เสียชีวิตเพิ่ม 101 ราย
สะสมระลอกที่สาม 3247 ราย
สะสมทั้งหมด 3341 ราย