10 ข้อควรรู้เกี่ยวกับวัคซีนโควิด "หมอยง" ชี้ทุกชนิดยังป้องกันเชื้อได้ไม่สมบูรณ์

27 มิ.ย. 2564 | 05:20 น.

หมอยงเผย 10 ข้อควรรู้เกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 ชี้ทุกชนิดยังป้องกันเชื้อได้ไม่สมบูรณ์ ระบุที่องค์การอนามัยโลกรับรองลดความรุนแรง และการเสียชีวิตจากโลกได้

รายงานข่าวระบุว่า ศ.นพ.ยง  ภู่วรวรรณ (หมอยง) หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสเฟซบุ๊ก (Yong Poovorawan) โดยมีข้อความว่า
    โควิด 19 วัคซีน  ความรู้เกี่ยวกับ โควิด 19 วัคซีน
    ยง ภู่วรวรรณ
    1.วัคซีนทุกตัวที่ใช้อยู่และองค์การอนามัยโลกรับรอง สามารถลดความรุนแรงของโรค และการเสียชีวิตได้อย่างมีนัยยะสำคัญ
    2.วัคซีนยังไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัสได้อย่างสมบูรณ์ เมื่อฉีดวัคซีนแล้วก็ยังต้องคงปฏิบัติตนตามวิถีชีวิตใหม่เพื่อป้องกันการแพร่กระจายโรค
    3.ประชากรโลกมี 7 พันล้านคน ความต้องการของวัคซีนจึงมีสูงมาก ที่จะยุติการระบาดของโรคนี้ หรือจะต้องให้วัคซีนให้ได้ไม่น้อยกว่า 5000 ล้านคน หรือ  10,000 ล้านโด๊ส ขณะนี้เพิ่งฉีดไปร่วม 3,000 ล้านโดส  1 ใน 3 ฉีดในประเทศจีน และส่วนใหญ่อยู่ในประเทศที่ร่ำรวย ทำให้วัคซีนในปัจจุบันยังมีความขาดแคลน
    4.วัคซีนในปัจจุบันนี้แบ่งเป็น 4 รูปแบบ คือเชื้อตาย โปรตีนซับยูนิต ไวรัสเวกเตอร์ และ  mRNA เรียงตามเทคโนโลยีจากเก่าไปหาใหม่ เทคโนโลยีเชื้อตายใช้กันมากกว่า 50 ปี ส่วน mRNA วัคซีน เป็นวัคซีนที่ใช้ครั้งแรกในมนุษย์
    5.อาการข้างเคียงชนิดเชื้อตายจะมีอาการข้างเคียงเฉพาะที่เช่นเจ็บบวมแดงร้อน บริเวณที่ฉีด และอาการตามระบบ เช่นไข้ เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว พบได้น้อยมาก และน้อยกว่าไวรัส เวกเตอร์และ mRNA รวมทั้งอาการรุนแรงอย่างอื่น เช่นการเกิดลิ่มเลือด VITT ใน virus Vector และ TTP ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบที่เกี่ยวพันกับ mRNA วัคซีน

ศ.นพ.ยง  ภู่วรวรรณ
    6.ระดับภูมิต้านทานของ mRNA และไวรัส Vector จะสูงกว่าชนิดเชื้อตาย และโปรตีนซับยูนิต
    7.ระดับภูมิต้านทานที่ขึ้นของวัคซีน จะขึ้นเป็นแบบเอกซ์โพเนนเชียล ดังนั้นความแตกต่างของบุคคลจึงมีมาก เช่นบางคนได้หลักสิบ บางคนได้หลักร้อย บางคนได้หลักพัน บางคนได้หลักหมื่น เราจึงไม่ใช้ว่า คนนี้มีภูมิต้านทานสูงกว่าคนนี้สิบเท่า หรือร้อยเท่า ในทางห้องปฏิบัติการ การตรวจวัดภูมิต้านทาน เราจะทำน้ำเหลืองให้เจือจางเป็นสิบ เป็นร้อย เป็นพันเท่าอยู่แล้ว ในกรณีที่วัดภูมิต้านทานที่สูง ตัวอย่างเช่นไวรัสตับอักเสบบี ใช้ระดับต่ำสุดในการป้องกันโรคเพียงแค่ 10  การให้วัคซีนบางคนขึ้นเป็นหลักร้อย หลักพัน หลักหมื่น และหลักแสน ก็ยังเคยเจอ 
    เช่นเดียวกันกับการวัดปริมาณไวรัสในผู้ป่วย (viral load) จะใช้เป็น สเกล Log แต่โดยมากเมื่อขึ้นสูงก็จะลงเร็วมาก ร่างกายจะไม่เก็บไว้ ถ้าเก็บไว้ระดับ globulin จะสูงมาก จะปลดเป็นกองหนุนหมด และเมื่อเชื้อโรคเข้ามา ก็จะระดมออกมาอย่างรวดเร็ว เหมือนมีหน่วยความจำหรือฝึกไว้เรียบร้อยแล้ว แต่เนื่องจากโควิด 19  มีระยะฟักตัวสั้น จึงทำให้การป้องกันการติดเชื้อไม่สมบูรณ์ แต่สามารถป้องกันความรุนแรงหรือเสียชีวิตได้
    8.ปัจจุบันยังไม่มีบรรทัดฐานที่ว่าระดับภูมิต้านทานขนาดไหนจะป้องกันโรคได้ ดังนั้นการวัดภูมิต้านทานจึงใช้เปรียบเทียบกับผู้ที่หายป่วยจากโรคแล้ว ว่าภูมิที่วัคซีนสร้างขึ้นเท่าเทียมหรือสูงกว่าภูมิต้านทานที่เกิดจากการหายจากโรคแล้ว
    9.ในผู้ที่หายจากโรคแล้ว มีระดับภูมิต้านทานที่แตกต่างกันมาก ในผู้ที่เป็นน้อยภูมิต้านทานจะต่ำกว่าในผู้ที่มีอาการมากหรือมีปอดบวม หรือลงปอด หรือผู้ที่มีไข้สูงยาวนาน
    10.วัคซีนชนิดโปรตีนซับยูนิต ทำคล้ายไวรัสตับอักเสบบี สร้างโปรตีนในส่วนของหนามแหลมไวรัส จุดสำคัญอยู่ที่ การใช้สารเสริมกระตุ้นภูมิต้านทาน ที่เรียกว่า adjuvant เพราะโปรตีนหนามแหลมนี้มีขนาดใหญ่ เราจะเห็นว่า วัคซีน Novavax ที่คนไทยพูดถึงกันบ่อย และอยากได้ใช้ แต่องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกาเองก็ยังไม่รับรอง อยู่ระหว่างการพิจารณา ทั้งนี้เพราะ มีสารกระตุ้นภูมิต้านทาน adjuvant ตัวใหม่ที่ยังไม่เคยใช้ในมนุษย์ที่เรียกว่า Matrix M ได้มาจาก เปลือกไม้ ต้น Molina  ส่วนของจีนเอง ก็พัฒนา แต่ต้องให้ 3 ครั้งเช่นเดียวกับไวรัสตับอักเสบบี คือ 0 1 6 เดือน ซึ่งจะเสียเวลาในการกระตุ้นภูมิต้านทานให้ได้อย่างรวดเร็ว
    ติดตามต่อ ในวันต่อไป
    #หมอยง
    ทั้งนี้ "ฐานเศรษฐกิจ" ได้รวบรวมตัวเลขการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 (Covid-19) ในประเทศไทย วันที่ 28 ก.พ.-25 มิ.ย.64 จากศูนย์ข้อมูล COVID-19 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่า มีจำนวนสะสมอยู่ที่ 8,981,478 โดส แบ่งเป็น เข็มที่ 1 จำนวน 6,435,308 ราย และเข็มที่ 2 จำนวน 2,546,170 ราย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :