นพ.โสภณ เอี่ยมสิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า รัฐบาลต้องการให้คนไทยและชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทยเข้าถึงวัคซีนให้ได้มากที่สุด โดยมีการเริ่มฉีดวัคซีนมาแล้วตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ และในวันที่ 7 มิถุนายนนี้จะเป็นวันที่เริ่มต้นการฉีดวัคซีนจำนวนมากในทุกพื้นที่
สืบเนื่องจากที่ผ่านมา ประเทศไทยได้รับวัคซีนเป็นล็อตๆในจำนวนจำกัด แต่ครั้งนี้จะมีวัคซีนทั้งในส่วนของแอสตราเซเนก้า และซิโนแวค โดนพื้นที่ในการฉีดเขตพื้นที่กรุงเทพจะกระจายไปที่โรงพยาบาลต่างๆและศูนย์ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาลโดยจุดใหญ่ยังคงเป็นสถานีกลางบางซื่อ ในส่วนของต่างจังหวัดจะมีโรงพยาบาลประจำจังหวัด โรงพยาบาลประจำอำเภอ รวมทั้งโรงพยาบาลเอกชนและโรงพยาบาลรัฐในสังกัดอื่นๆที่ร่วมเป็นจุดฉีดวัคซีน
สำหรับการฉีดวัคซีนครั้งใหญ่ในวันที่ 7 มิถุนายนเป็นการฉีดวัคซีนในกลุ่มที่ 2 ต่อจากกลุ่มแรกที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ด่านหน้า กลุ่มที่ 2 ที่นี้ก็คือกลุ่มผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปกลุ่มที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค และคนที่ขึ้นทะเบียนผ่านระบบหมอพร้อม หรือช่องทางอื่นเช่นร้านสะดวกซื้อ แอปเป๋าตังค์ คาดว่าจะมีการฉีดวัคซีนหลายแสนคนทั่วประเทศในวันดังกล่าวขณะเดียวกันก็ต้องมีการติดตามผลข้างเคียงเพื่อให้เกิดการดูแลคนที่เกิดผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน
ปัจุบันทุกโรงพยาบาลเริ่มทยอยรับวัคซีนไปเพื่อเตรียมการฉีดวัคซีนพร้อมกันวันที่ 7 โดยกรมควบคุมโรคจะจัดสรรวัคซีนที่จะได้รับจากบริษัทผู้ผลิตจำนวน 4 ล็อตภายในเดือนมิถุนายน ดังนั้นในการส่งต่อให้กับทางโรงพยาบาลจะเป็นลักษณะล็อตๆเช่นเดียวกันหมือนกัน
ในสัปดาห์นี้จะเริ่มส่งวัคซีนแอสตราเซเนก้าทั้งหมดจำนวน 240,000โดส ในวันที่ 2 มิถุนายน วัคซีนซิโน700,000โดสแวคในวันที่ 3 มิถุนายน และวัคซีนแอสตราเซเนก้าในวันที่4-5 มิถุนายน อีกประมาณ 1 ล้านโดส รวมวัคซีนจะถูกส่งไปยังจุดฉีดวัคซีนภายในสัปดาห์นี้ประมาณ 2 ล้านโดส
ในขณะเดียวกันช่วงกลางเดือนมิถุนายนก็จะได้รับการส่งมอบวัคซีนเพิ่ม ทางกรมควบคุมโรคก็จะทยอยส่งออกไปศูนย์ฉีดวัคซีนต่างๆทั่วประเทศ ประมาณ 5-6 ล้านโดส เพราะฉะนั้นในทุกพื้นที่จะมีวัคซีนฉีดในช่วงเดือนมิถุนายนแน่นอน
แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากจำนวนวัคซีนที่จัดสรรในขณะนี้จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือส่วนหนึ่งเพื่อใช้ป้องกันโรคในบุคคลที่ควรได้รับวัคซีนและอีกด้านนึงคือในเรื่องของการสร้างภูมิคุ้มกันในกลุ่มประชากรในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคมาก ดังนั้นพื้นที่ที่มีการระบาดก็จะได้รับการจัดสรรวัคซีนในสัดส่วนที่สูงเพื่อประโยชน์ในภาพรวม
ส่วนจังหวัดที่ยังไม่มีการระบาดจะได้การจัดสรรวัคซีนในปริมาณที่น้อยกว่าแต่จะได้รับครบทุกคนในระยะเวลา 4- 6 เดือนข้างหน้ าซึ่งกลุ่มที่จะได้รับวัคซีนก่อนคือกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรังเพื่อลดอัตราการป่วยรุนแรงและเสียชีวิต
“ปัจจุบันเรายังฉีดวัคซีนได้วันละแสนคนเป็นเพราะวัคซีนเรามีจำนวนจำกัด แต่ศักยภาพในการฉีดของเราได้ วันละหลายแสนคน มีการประมาณว่าอย่างน้อยก็ 500,000 ถึง 1 ล้านคนถ้ารวมหน่วยฉีดที่อยู่นอกโรงพยาบาล ก็คาดว่าในหนึ่งเดือนจะสามารถฉีดวัคซีนได้ประมาณ 10 ล้านโดส ตอนนี้ในหลายจังหวัดก็สามารถฉีดได้เป็นหมื่นคนและถ้าคาดการณ์ในวันที่ 7 มิถุนายนก็สามารถฉรดได้มากกว่าวันละ 500,000คนขึ้นไปในวันดังกล่าว
สำหรับชาวต่างชาติในขณะนี้เริ่มมีการดำเนินการในกลุ่มของนักการทูตและสมาชิกครอบครัว รวมถึงเจ้าหน้าที่ขององค์กรระหว่างประเทศ โดยเป็นการลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อไปฉีดในโรงพยาบาลที่กำหนดซึ่งตอนนี้ก็มีอยู่ประมาณ 3 แห่งในกรุงเทพฯ แต่จะมีการเพิ่มจำนวนโรงพยาบาลในสัปดาห์หน้า สำหรับชาวต่างชาติทั่วไปก็จะเริ่มฉีดวันที่ 7 มิถุนายนเช่นเดียวกับคนไทย โดยเน้นในกลุ่มผู้สูงอายุและโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโลกซึ่งส่วนนี้ก็จะเป็นลักษณะของการลงทะเบียนล่วงหน้าเช่นเดียวกัน”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: