พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โต้กลับฝ่ายค้ายหลังถูกวิจารณ์งบประมาณและการบริหารจัดการวัคซีนเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโควิด 19 นั้นผิดพลาด กระจายวัคซีนผิดจุดและปมหั่นงบกระทรวงสาธารณสุขในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 2 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ วันจันทร์ที่ 31 พ.ค. 64 กับการพิจารณา "ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565" วาระรับหลักการ ว่า
ในส่วนของการบริหารงบประมาณถ้าหากมองในแง่ของตัวเลขอย่างเดียวก็ดูเหมือนว่าไม่เป็นธรรม ไม่ตรงสถานการณ์ แต่ทั้งนี้รัฐบาลมีเม็ดเงินที่เตรียมสำหรับรองรับสถานการณ์ของโควิดไว้หลายๆส่วนด้วยกัน
ทั้งในส่วนของงบประมาณประจำ งบประมาณเงินกู้ต่างๆที่ถูกใช้มาตั้งแต่การระบาดระยะแรก
ส่วนในเรื่องของวัคซีนรัฐบาลได้มีการดำเนินการตามลำดับทุกขั้นตอน ตั้งแต่การจัดหาวัคซีนแบบรัฐต่อรัฐแต่ตอนนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นในหลายๆประเทศทั่วโลกคือความต้องการวัคซีนที่มากขึ้น เพราะฉะนั้นการจัดสรรวัคซีนก็ขึ้นอยู่กับว่าบริษัทผู้ผลิตจะบริหารวัคซีนจำนวนมากๆอย่างไร
ในประเทศไทยมีบริษัทที่ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิต แต่ทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบริหารของบริษัทใหญ่ที่ควบคุมการผลิตทั้งหมด ปัจุบันเราดำเนินการเรื่องวัคซีนมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ไม่มีการเตรียมการอะไรเลย รัฐบาลมีการเตรียมทั้งแผนหลัก แผนรอง และแผนฉุกเฉิน ในเรื่องของการบริการวัคซีน
คาดว่าในระยะเวลาที่เรากำหนดไว้คือมิถุนายนนี้ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องวัคซีน ทั้งวัคซีนที่จัดหาด้วยรัฐบาลหรือวัคซีนทางเลือกที่เริ่มมีการดำเนินการได้แล้วในขณะนี้ แต่วัคซีนทั้งหมดยังต้องนำเข้าผ่านช่องทางของรัฐต่อรัฐ
ในส่วนที่บอกว่า งบของกระทรวงกลาโหมมากกว่างบของกระทรวงสาธารณสุขนั้นไม่เป็นความจริง เพราะงบของกระทรวงสาธารณสุขนั้น นอกจากงบประมาณของหน่วยงานยังมีงบประมาณภายใต้กระทรวงอีก 3 กองทุนเช่น กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กองทุนการแพทย์ฉุกเฉิน กองทุนภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย อีกจำนวนหนึ่งซึ่งเพียงพอต่อใช้ในการจัดหาวัคซีน
ดังนั้นในเรื่องของการบริหารวัคซีนผมก็อยากจะทราบว่ามันจะมีวิธีการอะไรที่จะบริหารจัดการได้ดีกว่าที่เราทำอยู่ทุกวันนี้ เพราะเราทำด้วยความโปร่งใส และเป็นธรรม แต่ทั้งหมดก็ต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายการจัดสรรวัคซีน การให้บริการฉีดวัคซีน
แต่ผมยืนยันว่าในเดือนมิถุนายนนี้ ประเทศไทยจะมีวัคซีนเข้ามาอย่างเพียงพอ ทั้งวัคซีนที่รัฐบาลจัดหาและวัคซีนทางเลือก โดยบริษัทที่ได้รับมอบหมายเป็นตัวแทนของบริษัทใหญ่จะต้องเข้ามาติดต่อกับอย.เพื่อจะรับรองมาตรฐานและนำเข้า เพราะฉะนั้นการบริหารงบประมาณนี้เราได้พิจารณาอย่างเข้มงวดและรัดกุมดีแล้ว”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
31 พ.ค. 65